โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

5 เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับ ไฟหน้า ที่ยังทำอยู่แต่อาจจะเกิดปัญหาร้ายแรง

sanook.com

เผยแพร่ 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Sanook
เวลาที่เราเห็นแสงน้อยลงเราก็ต้องเปิดไฟเพื่อให้สามารถมองเห็นได้เช่นเดียวกัน รวมถึงรถยนต์ หากเวลากลางคืนเราก็เปิดไฟหน้า แต่ด้วยความที่รถสมัยใหม่มีฟีเจอร์เยอะจนทำให้เราลืมเปิดไฟหน้าได้เช่นเดียวกัน

เวลาที่เราเห็นแสงน้อยลงเราก็ต้องเปิดไฟเพื่อให้สามารถมองเห็นได้เช่นเดียวกัน รวมถึงรถยนต์ หากเวลากลางคืนเราก็เปิดไฟหน้า แต่ด้วยความที่รถสมัยใหม่มีฟีเจอร์เยอะจนทำให้เราลืมเปิดไฟหน้าได้เช่นเดียวกัน รอบนี้ Sanook Auto รวม 5 เรื่องที่เกี่ยวกับไฟหน้า ที่ยังเข้าใจผิด และส่งผลร้ายกว่าที่คุณคิด มีเรื่องอะไรเรามาดูกัน

5 เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับไฟหน้า ที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิดมานาน

kia_carnival_sxl_luxury_revie

1. เข้าใจผิดว่า "ไฟ DRL (Daytime Running Lights)" ใช้แทนไฟหน้าตอนกลางคืนได้

เรื่องแรกคือ รถยนต์รุ่นใหม่หลายคันมีไฟ DRL ที่สว่างจ้าในเวลากลางวัน ทำให้ผู้ขับขี่บางคนคิดว่าไฟเหล่านี้เพียงพอสำหรับการขับขี่ในที่มืด หรือพลบค่ำแล้ว จึงละเลยการเปิดไฟหน้าหลัก ความจริงคือ ไฟ DRL มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการมองเห็นรถของคุณในเวลากลางวันเท่านั้น ไม่ได้ให้ความสว่างเพียงพอสำหรับส่องทางในเวลากลางคืน และที่สำคัญ ไฟ DRL มักจะเปิดเฉพาะด้านหน้า ทำให้ไฟด้านท้ายรถไม่ติดมืดสนิท ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งเมื่อขับขี่ในที่มืด เพราะรถที่ตามมาอาจมองไม่เห็นรถของคุณ ทำให้เสี่ยงต่อการชนท้ายสูงมาก

gettyimages-1291660585-170667

2. เข้าใจผิดว่า "ไฟตัดหมอก" ใช้แทนไฟหน้าได้ในทุกสถานการณ์

บางครั้งผู้ขับขี่บางคนนิยมเปิดไฟตัดหมอกหน้าในเวลากลางคืน โดยเฉพาะในเมืองที่คิดว่าให้ความสว่างเพียงพอแล้ว หรือบางรายอาจเปิดทิ้งไว้ตลอดเวลาแม้สภาพอากาศปกติ ความจริงและ ไฟตัดหมอกออกแบบมาเพื่อให้ความสว่างในระยะใกล้ และกระจายแสงในมุมกว้าง เพื่อช่วยในการมองเห็นเมื่อมีทัศนวิสัยไม่ดี เช่น ฝนตกหนัก หมอกลงจัด หรือมีควันหนาแน่น การเปิดไฟตัดหมอกในสภาพอากาศปกติ โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่ไม่มีหมอก จะทำให้แสงไฟแยงตาผู้ขับขี่คนอื่นที่สวนทางมาอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดอันตรายและสร้างความรำคาญใจอย่างมาก

gettyimages-82475028-170667a

3. คิดว่า "เปิดไฟสูง" ตลอดเวลาดีกว่าเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนที่สุด

เวลาที่หลายคนขับรถและมองไม่เห็นเลยเปิดไฟสูง จนทำให้เปิดไฟค้างไว้ และเชื่อว่ามองเห็นแน่นอน แต่ความจริงที่ร้ายแรงค การเปิดไฟสูงขณะมีรถสวนทาง หรือขับตามหลังรถคันอื่น จะทำให้แสงไฟไปแยงตาผู้ขับขี่เหล่านั้น ทำให้มองไม่เห็นทางชั่วขณะ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้เสมอ ควรเปลี่ยนเป็นไฟต่ำทันทีเมื่อมีรถคันอื่นเข้ามาในระยะสายตา และอาจจะทำให้ตาล้าจนเกิดอุบัติเหตุได้

4. คิดว่า "ไฟหน้าอัตโนมัติ (Auto Headlights)" ทำงานได้สมบูรณ์แบบ 100%

รถยนต์รุ่นใหม่ส่วนใหญ่ มีระบบไฟหน้าอัตโนมัติที่เปิด-ปิดเองตามสภาพแสง ผู้ขับขี่จึงวางใจและไม่เคยตรวจสอบการทำงานของระบบเลยแต่ ความจริง แม้ระบบไฟหน้าอัตโนมัติจะสะดวกสบาย แต่ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% เสมอไป บางครั้งอาจมีปัจจัยที่ทำให้เซ็นเซอร์ทำงานผิดพลาด เช่น

  • เซ็นเซอร์สกปรกหรือถูกบดบัง ฝุ่นละออง โคลน หรือหิมะที่เกาะอยู่บนเซ็นเซอร์แสง อาจทำให้ระบบเข้าใจผิดว่ายังมีแสงสว่างเพียงพอ

  • สภาพแสงที่ซับซ้อน เช่น การขับรถออกจากอุโมงค์ที่มืดเข้าสู่บริเวณที่มีแสงจ้า หรือขับผ่านใต้ต้นไม้ใหญ่บ่อยๆ ระบบอาจใช้เวลาในการปรับตัว

  • พลบค่ำหรือรุ่งอรุณ ในช่วงเวลาที่แสงเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว ระบบอาจยังไม่ทำงานทันที ทำให้เกิดช่วงเวลาที่ไฟหน้ายังไม่ถูกเปิดใช้งาน

ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบแผงหน้าปัดเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าไฟหน้าได้เปิดใช้งานแล้ว โดยเฉพาะในสภาพแสงที่ก้ำกึ่ง

gettyimages-522656346-170667a

5. ละเลยการปรับ "ระดับไฟหน้า" ให้เหมาะสมกับการบรรทุกหรือการใช้งาน

ผู้ขับขี่หลายคนไม่เคยสนใจปุ่มปรับระดับไฟหน้า (Headlight Leveling) ซึ่งมักอยู่บริเวณแผงหน้าปัดด้านคนขับ และปล่อยให้ตั้งค่าไว้ที่ตำแหน่งเดิมตลอดเวลา เพราะเข้าใจว่ามองเห็นไกลดี ความจริง เมื่อรถมีการบรรทุกสัมภาระหนัก หรือมีผู้โดยสารจำนวนมากท้ายรถ ท้ายรถจะจมลง ทำให้หน้ารถเชิดขึ้น และลำแสงไฟหน้าจะพุ่งสูงขึ้นไปแยงตาผู้ขับขี่ที่สวนทางมาอย่างมาก การปรับระดับไฟหน้าลง (ลดลำแสงลง) จะช่วยให้ลำแสงไม่สูงเกินไป ทำให้ไม่รบกวนผู้ใช้ถนนคนอื่น และยังคงให้การส่องสว่างที่เหมาะสมกับเส้นทาง

ดังนั้น ในการใช้ไฟหน้ารถอย่างถูกต้องไม่ใช่เพียงเรื่องของกฎจราจร แต่เป็นเรื่องของความปลอดภัยสำหรับตัวคุณเองและเพื่อนร่วมทางทุกคน การทำความเข้าใจและใช้งานระบบไฟรถยนต์อย่างถูกวิธี จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างมหาศาล อย่าละเลยเรื่องเล็กน้อยที่อาจนำไปสู่ผลร้ายแรง! ได้เช่นเดียวกัน สุดท้ายควรลองอ่านคู่มือประจำรถและปรับใช้ให้เหมาะสมดว้ยตรั

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก sanook.com

มาคนเดียวไม่ได้แล้ว "นนกุล" จับมือ "แอฟ" ร่วมงานปาร์ตี้ เปิดช็อตหวานกลางงาน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิธีลงทะเบียน www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com สำหรับเจ้าของโรงแรม-ที่พัก

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"หมอของขวัญ" เศร้าเลย "ดิว อริสรา" ไม่รับงาน ฟาดถูกมองซ้ำเติม เปิดค่าจ้างชัดๆ

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นักเตรียมพร้อมรับ "วันสิ้นโลก" แชร์ 7 เคล็ดลับเอาตัวรอด หากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความยานยนต์อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...