โรงแรมที่สวยที่สุดในโลก
รางวัลด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) โดยมีโรงแรมอีก 16 แห่งทั่วโลกที่ได้รับการยกย่องในปีนี้ โดยทั้งหมดล้วนเป็นโครงการที่เพิ่งเปิดตัวใหม่หรือเปิดให้บริการอีกครั้ง
โรงแรมโซเซ ซัปโปโรเพิ่งเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเอ็มแกลเลอรี คอลเลกชัน (MGallery Collection) อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคม 2567 โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างมรดกทางวัฒนธรรมและแนวคิดสร้างสรรค์ที่ทันสมัยอย่างกลมกลืน ได้รับการออกแบบสถาปัตยกรรมโดยทีมจากไทเซ คอร์เปอเรชั่น (Taisei Corporation) และตกแต่งภายในโดยสตูดิโอโครว (Studio Crow) แม้กลิ่นอายของเบียร์ในถังจะเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่มรดกทางวัฒนธรรมยังคงปรากฏอย่างเด่นชัดผ่านผนังอิฐเก่า คานไม้รีไซเคิล และการออกแบบในสไตล์อุตสาหกรรม ที่ผสานกันอย่างงดงามภายในโรงแรมจำนวน 118 ห้องแห่งนี้
แนวคิดการออกแบบเป็นการแสดงความยกย่องต่อมรดกทางวัฒนธรรมของเมืองซัปโปโร ที่หลอมรวมอดีตและปัจจุบัน ตะวันออกและตะวันตก รวมถึงความสง่างามเหนือกาลเวลาเข้ากับความสะดวกสบายร่วมสมัยอย่างลงตัว ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ที่พักของเจ้าหน้าที่ไคตะคูชิมักออกแบบให้ห้องรับรองเป็นสไตล์ตะวันตก ขณะที่พื้นที่อยู่อาศัยเป็นแบบญี่ปุ่น สะท้อนวิถีชีวิตที่ผสานความเป็นทางการเข้ากับชีวิตประจำวัน แนวคิดนี้ได้รับการตีความใหม่ในห้องพักของโรงแรม โดยผสานองค์ประกอบไม้ที่ให้ความอบอุ่น เข้ากับผิวสัมผัสของกระดาษญี่ปุ่นวาชิ และวัสดุธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน
บริเวณบาร์เลานจ์ได้รับการออกแบบใหม่ในสไตล์ร่วมสมัย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากห้องเก็บเบียร์ดั้งเดิม โดดเด่นด้วย เตาผิงทองแดงรูปทรงประติมากรรม ที่จำลองรูปลักษณ์ของ หม้อต้มเบียร์แบบดั้งเดิม
แขกผู้เข้าพักจะได้ร่วมเดินทางผ่านนิทรรศการภาพเชิงศิลป์ในธีม “Passion for Beer Research” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก เซเบ นะกะกะวะ (Seibei Nakagawa) ผู้เป็นปรมาจารย์การผลิตเบียร์คนแรกของญี่ปุ่น ไฮไลต์ของงานศิลป์นี้ประกอบด้วย กำแพงแสงเรืองรองที่สร้างจากขวดเบียร์รีไซเคิล และเตาผิงทองแดงรูปทรงหม้อต้มเบียร์ ซึ่งชวนให้ย้อนนึกถึงจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมการผลิตเบียร์ญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังมี “เอ็มโมเมนท์” (M Moment) อันเป็นเอกลักษณ์ของเอ็มแกลเลอรี่ คอลเลคชั่น ด้วยกิจกรรมย้อนอดีตผ่านการนั่งรถลากแบบดั้งเดิม (rickshaw) ลัดเลาะผ่านตรอกอิฐแดงและปล่องโรงเบียร์ เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสเส้นทางต้นกำเนิดของวัฒนธรรมเบียร์ในซัปโปโรอย่างใกล้ชิดและมีชีวิตชีวา
เจอโรม กอเดน (Jérôme Gouadain) เลขาธิการของ Prix Versailles กล่าวว่า สิ่งที่เชื่อมโยงโรงแรมทั้ง 16 แห่งที่ได้รับรางวัลในปีนี้คือการยกระดับความเชี่ยวชาญและการเคารพต่อเอกลักษณ์ท้องถิ่น ทุกโครงการล้วนเป็นผลลัพธ์ของกระบวนการออกแบบที่ลึกซึ้ง และการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้ออกแบบกับชุมชนโดยรอบ ศิลปะในบริบทนี้ไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อความงาม แต่ยังช่วยส่องแสงให้กับวัฒนธรรมที่หลากหลาย เติมเต็มความอบอุ่น ความชัดเจน และความหมาย จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง