โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภูมิภาค

หมดเวลาทำผิด หมดสิทธิ์นอนบ้าน "ผู้ว่าฯนริศ" ผนึกกำลัง "ผู้การฯธีระเดช" แถลงผลกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ

สยามรัฐ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หมดเวลาทำผิด หมดสิทธิ์นอนบ้าน "ผู้ว่าฯนริศ" ผนึกกำลัง "ผู้การฯธีระเดช" แถลงผลกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ
เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ที่ลานปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาครผู้กำกับการ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกรมการปกครองและตำรวจสังกัดภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดในชุมชน ผู้เสพส่งบำบัด สร้างชุมชนปลอดภัย ตามนโยบายรัฐบาล “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด สนองนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยการแถลงผลครั้งนี้ ก็มีของกลางเป็นยาบ้ารวมทั้งหมดกว่า 2,300 เม็ด ยาไอซ์ 6.24 กรัม เคตามีน อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง

นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร กล่าวว่า จากสถิติตัวเลขที่พบปัจจุบัน จังหวัดสมุทรสาครยังคงมีผู้ค้ายาเสพติดอยู่อีกประมาณ 90 กว่าราย และผู้เสพยาเสพติดอีกกว่า 300 ราย สำหรับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ผ่านปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealer” ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด ในห้วงเดือนนี้ คือช่วงปฏิบัติการเข้มข้นที่จะต้องนำผู้ค้ายาเสพติดทุกคนเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายให้ได้ครบทั้งหมด ส่วนผู้ที่ติดยาเสพติดจะต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาภายในค่ายกำแพงเพชรอัครโยธินเป็นเวลา 4 เดือน ซึ่งในส่วนของผู้ค้ายาเสพติด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะค้นหานำตัวมาดำเนินคดีอย่างแน่นอน จึงขอประกาศไว้ว่า นับจากนี้หมดเวลาของคนทำผิด ไม่มีโอกาสได้นอนบ้านอีกแล้ว หากไม่ออกนอกพื้นที่ก็มีแต่เดินหน้าเข้าเรือนจำเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ฯ ไม่ยอมปล่อยไปอย่างแน่นอนไม่ว่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนก็ตาม จะไม่มีสิทธิ์ใช้เงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ส่วนผู้เสพยาเสพติดก็ต้องไปอยู่ค่ายบำบัดเป็นเวลา 4 เดือน เสียสิทธิ์ต่างๆ มากมาย ทั้งไม่มีสิทธิ์นอนบ้านกับครอบครัว หมดสิทธิ์ทำงาน และหมดอิสรภาพในการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ดังนั้นผู้เสพหากเลิกได้ขอให้หักดิบเลิกอย่างเด็ดขาด ก่อนที่จะถูกจับกุมตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา พร้อมกันนี้ก็ขอให้ทุกภาคส่วนผนึกกำลังชุมชนแจ้งเบาะแสผู้ค้า ผู้เสพ แก่เจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพื่อร่วมกันสร้างชุมชนปลอดภัย ตามนโยบายรัฐบาล “No Drugs No Dealers” ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด

ด้านพล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมกับ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด 29 เป้าหมาย ทั่วทั้งจังหวัดสมุทรสาคร ผลการปฏิบัติจับกุมผู้ต้องหาได้ 10 คน ยาบ้า 2,307 เม็ด ยาไอซ์และเคตามีนอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมกับยึดทรัพย์สินรวมมูลค่า 340,000 บาท


ขณะที่ผลการปฏิบัติโดยรวมตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 - 1 สิงหาคม 2568 ได้มีการปิดล้อมตรวจค้น 42 เป้าหมาย จับผู้ต้องหาได้ 94 คน ยาบ้า 10,551 เม็ด ยาไอซ์ 1.04 กก. เคตามีน 0.53 กก. และยึดทรัพย์สินรวมมูลค่า 875,498 บาท ทั้งนี้ จังหวัดสมุทรสาคร และตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร จะได้ติดตามและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่องต่อไป ตามนโยบาย “No Drugs - No Dealers


ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยอีกว่า สำหรับการกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ได้ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายเบญจพลหรือเอ สุขมโน อายุ 47 ปี มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยสายลับสามารถติดต่อซื้อยาเสพติดจากนายเบญจพลหรือเอฯ ได้ และมีการนัดส่งยาบ้าและยาไอซ์กันที่บริเวณบ้านเลขที่ 99/238 ม.1 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จากนั้นก็ได้วางแผนจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางเป็น ยาไอซ์จำนวน 30.65 กรัมและ ยาบ้า จำนวน 1,200 เม็ด จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” และยังได้ขยายผลยึดทรัพย์ เป็นรถจักรยานยนต์ มูลค่าประมาณ 100,000 บาท จากการตรวจสอบประวัติการต้องโทษและหมายจับค้างเก่าผ่านระบบ CRIMES สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า นายเบญจพลหรือเอฯ เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ 64/2568 ลง 2 มีนาคม 2568 ในความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด” อีกทั้งยังเคยต้องโทษคดีอาญา ในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เมื่อปี พ.ศ.2559 และพ้นโทษออกมาเมื่อปี พ.ศ.2562

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

น้ำพักน้ำแรงสูญเปล่า? “บอย ภิษณุ” โพสต์แรง ขายปลาได้ล้านแต่กำไรแทบศูนย์

29 นาทีที่แล้ว

ชมรมพิทักษ์คุณธรรม เดินหน้าถอดถอนกรรมการสหกรณ์ครูร้อยเอ็ด

30 นาทีที่แล้ว

ผกก.สภ.พนมดงรัก ผนึกกำลัง EOD – ทหาร TMAC ลงตรวจพื้นที่ชายแดน พบหลุมระเบิด 5 จุด

45 นาทีที่แล้ว

นายกเมืองพัทยา เปิดโครงการอบรมสัมมนาและศึกษาดูงาน เสริมศักยภาพบุคลากรทุกระดับ

52 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความภูมิภาคอื่น ๆ

ทหารผ่านศึกเชิญธงชาติไทย-รูปนายทหารที่เสียชีวิตชายแดนไทย-เขมร ยกย่องวีรบุรุษของชาติ

MATICHON ONLINE

ชมรมพิทักษ์คุณธรรม เดินหน้าถอดถอนกรรมการสหกรณ์ครูร้อยเอ็ด

สยามรัฐ

EOD ไทยบึ้มทิ้ง BM-21 ของกัมพูชา ตกกลางถนนศรีสะเกษ! ห่างปั๊มแค่ 500 เมตร จุดเดิมที่เคยคร่าชีวิต 8 ศพ

มุมข่าว

ผกก.สภ.พนมดงรัก ผนึกกำลัง EOD – ทหาร TMAC ลงตรวจพื้นที่ชายแดน พบหลุมระเบิด 5 จุด

สยามรัฐ

นายกเมืองพัทยา เปิดโครงการอบรมสัมมนาและศึกษาดูงาน เสริมศักยภาพบุคลากรทุกระดับ

สยามรัฐ

รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จัดงาน “Love Mom, Love Her Bone” รักแม่ รักษ์กระดูกแม่ด้วย

สยามรัฐ

ใกล้ความจริงแล้ว! การปรับโฉมป้ายวอล์คกิ้งสตรีท เป็นจอ LED 3D ยกระดับการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก

สยามรัฐ

เหลี่ยมจัด ตลาดแปดริ้วแห่กั๊กยึดถนน รถไม่มีล้อยังนำมาจอดขวาง

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...