ไทยปิดดีลภาษีสหรัฐ 19% หุ้นกลุ่มไหน? ได้ประโยชน์
สรุปไทยปิดดีลภาษีสหรัฐ 19% หุ้นกลุ่มไหนได้ประโยชน์ ส่องข้อตกลงซื้อ LNG และเครื่องบินโบอิ้ง 100 ลำ จากสหรัฐ
จากกรณีที่ล่าสุดประเทศไทยสามารถเจรจาบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้า (Reciprocal Tariff) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จที่ระดับ 19% ลดลงจากเดิมที่ระดับ 36% จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 7 สิงหาคม 2568
โดยเบื้องต้นจากการให้สัมภาษณ์ของ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ข้อเสนอแลกเปลี่ยนของไทย คือการเปิดตลาดเสรี (Free Trade 0%) ให้สินค้าสหรัฐ กว่าหมื่นรายการ ทั้งสินค้าที่ผลิตไม่ได้ สินค้าที่ผลิตได้แต่ไม่พอใช้ และสินค้าที่ไทยผลิตและเพียงพออยู่แล้ว ได้ขอเลื่อนระยะเวลาลดอัตราภาษีกับสหรัฐ โดยระหว่างนี้จะเข้าไปสนับสนุนผู้ประกอบการในประเทศ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน
นอกจากนี้ จะมีการลงทุน ซื้อก๊าซธรรมฃาติ LNG จากสหรัฐ จำนวน 1 ล้านตัน มีแผนที่การบินไทย ซื้อเครื่องบิน Boeing ประมาณ 100 ลำ โดยจากนี้ไปจะเน้นซื้อจากสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินเล็ก คาดว่าการบินไทยจะทยอยซื้อเพิ่มอีก 80-90 ลำ ภายใน 5-10 ปี
มุมมองของหอการค้าไทย เปิดเผยว่า อัตราภาษี Reciprocal Tariff สำหรับประเทศไทยอยู่ที่ 19% แทบไม่ต่างกับอัตราภาษีที่สหรัฐ ใช้กับประเทศในภูมิภาคอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม แม้ว่าอัตรานี้จะสูงกว่าพื้นฐาน 10% แต่ถือว่าเป็นผลงานที่ดีเยี่ยม โดยเชื่อว่าแม้ระดับภาษีจะสูงขึ้นจากเดิม แต่ไทยยังมีความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาค
มุมมองของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาษี 19% ของไทยถือเป็นอัตราที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยรวมสินค้าไทยยังแข่งขันได้ดี แต่สินค้ากลุ่มที่มี margin ต่ำไม่ถึง 10% จำเป็นต้องลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และร่วมเจรจากับคู่ค้า เพื่อไม่ให้เป็นการผลักภาระไปยังผู้บริโภค
ปรับกลยุทธ์การลงทุนยังไงดี
TISCO Advisory ระบุว่า การบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้ออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด จะช่วยลดแรงกดดันต่อเศรษฐกิจไทย และสร้าง Sentiment เชิงบวกให้กับตลาดหุ้นไทย เนื่องจากไทยโดนเก็บภาษีใกล้เคียงกับประเทศในกลุ่มอาเซียน ทั้งกัมพูชา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม
โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาได้สูงถึง 14% ทำผลตอบแทนเป็นอันดับต้นๆ ของโลก รวมทั้งยัง Outperform ตลาดหุ้นโลก
อย่างไรก็ตาม ด้วยภาพรวมเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ แต่อัตราดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง นักลงทุนจะยังคงให้น้ำหนักกับ “เงินปันผล” มากกว่า “การเติบโต“ ทำให้หุ้นกลุ่ม High Dividend ยังเป็นหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ จาก Dividend Yield ที่สูงถึง 7% และ PBV ราว 0.94 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวถึง 34%
บล. เอเซีย พลัส ปรับกลยุทธ์การลงทุนในวันที่รู้ตัวเลข Treade Tariff ของไทยอยู่ระดับ 19% ถือเป็นการโล่งใจระดับหนึ่งว่าประเทศเราไม่ได้เสียเปรียบประเทศอื่น โดยฝ่ายวิจัยฯ คาดว่า SET Index ระดับปัจจุบันน่าทยอยสะสมหุ้นเพิ่มเติมจาก 2 เหตุผลหลัก ดังนี้
1. เปรียบเทียบผลตอบแทนตลาดหุ้น (YTD) จะพบว่าตลาดหุ้นไทย -11.3% ยังคง Laggard ประเทศที่ถูกภาษี 19% อาทิ มาเลเซีย -7.9% ฟิลิปปินส์ -4.2% อินโดนีเซีย +5.7% และเวียดนาม +18.6%
2. SET ขึ้นแบบกระจายตัวไม่ได้กระจุกตัวเหมือนครั้งก่อน โดยจะเห็นว่าการปรับตัวขึ้นครั้งนี้มีจำนวนหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นการบ่งบอกของการปรับตัวขึ้นของ SET ที่แข็งแรง ไม่เหมือนในอดีตที่แม้ SET จะปรับตัวขึ้น แต่จำนวนหุ้นที่ปรับขึ้นนั้นกระจุกตัว ซึ่งมักตามมาด้วยการปรับฐานของดัชนีได้ง่ายกว่า
ปิดดีลภาษีสหรัฐ 19%
ด้วยเหตุผลข้างต้น ประกอบกับดัชนีที่ระดับปัจจุบันมี Valuation จึงแนะนำแบ่งกลยุทธ์การลงทุนเป็น 2 ธีม ได้แก่
1. หุ้น SET 100 กลุ่ม Tariff Play ที่ราคาปรับฐานลงมาลึกตั้งแต่ต้นปี เช่น นิคมอุตสาหกรรม (AMATA, WHA) ส่งออก (ITC, STGT, STA, TU, CPF, BTG, TFG)
2. หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่าและการลดดอกเบี้ย เช่น BH, BDMS, ERW, CENTEL, MTC, SAWAD
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 'กรณ์' ชี้เสียภาษีสหรัฐ 19% เตรียมรับมือส่งออกกำไรลด-เงินเฟ้อเพิ่ม
- จบดีล 'ภาษีทรัมป์' 19% หนุนมุมมองเศรษฐกิจไทยปี 2568 ขยายตัว 1.5%
- ปิดดีล 'ภาษีทรัมป์' สำเร็จ!! สหรัฐประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทยที่ 19%
ติดตามเราได้ที่