กองทัพยืนยัน "กระสุนตกฝั่งลาว" ไม่ใช่ของฝ่ายไทย
วันนี้ (26 ก.ค.2568) เฟซบุ๊ก "กองทัพภาคที่ 2" โพสต์ภาพเอกสารและระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวสารการรบปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา แล้วมีกระสุนไปตกฝั่งประเทศลาว ทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนฝั่งประเทศลาว นั้น ฝ่ายไทยขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง
แต่จากการตรวจสอบและประสานกับลาวแล้วทราบว่า กระสุนดังกล่าวไม่ได้เป็นกระสุนจากอาวุธของกองทัพไทย แต่เป็นกระสุนของฝ่ายกองทัพกัมพูชา โดยฝ่ายไทยมีความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งในการใช้อาวุธยิงสนับสนุน ที่จะไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเป้าหมายที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร
ต่อมา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันกรณีมีกระสุนปืนใหญ่ 10 นัดตกในฝั่งลาวบริเวณสามเหลี่ยมมรกต ว่า ไม่ใช่กระสุนจากฝั่งทหารไทยอย่างแน่นอน โดยมั่นใจว่าทหารไทยสามารถควบคุมการใช้อาวุธได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมได้สัดส่วนและอยู่ในกรอบกติกาสากลอย่างเคร่งครัด
แต่ที่ผ่านมามักพบว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธสนับสนุนระยะไกล กระทำต่อเป้าหมายพลเรือนจำนวนมากตลอด 2 วันที่ผ่านมา ในลักษณะเป็นไปโดยเจตนาและจงใจที่จะใช้อาวุธฯ ไปสู่เป้าหมายอื่นที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น การใช้อาวุธฯ ต่อโบราณสถาณ เพื่อหวังให้สังคมโลกเข้าใจผิดต่อฝ่ายไทยอย่างมีนัยสำคัญ
กระทั่งล่าสุดได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างปืนใหญ่เข้าไปในเขตลาว หากไม่เป็นไปโดยตั้งใจไม่สามารถผิดเพี้ยนไปได้ไกลขนาดนั้น ทั้งนี้อาจเพื่อต้องการให้ลาวและสังคมโลกเข้าใจผิดต่อฝ่ายไทย เหมือนความพยายามที่ผ่านมา
โฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า ลักษณะพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการกระทำการต่อสู้นอกกฎกติกา ขอให้งดเว้น เพราะการกระทำในลักษณะเช่นนี้ไม่ใช่การกระทำของชายชาติทหาร โดยเชื่อว่าจะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของกัมพูชาในสายตาของสังคมโลก
พร้อมย้ำว่า ฝ่ายไทยมีมาตรการควบคุมการใช้อาวุธอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่ประชิดชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนหรือพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหาร ทั้งนี้กองทัพบกยังคงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่าย ลาว เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศต่อไป
อ่านข่าว
“ราชนาวี” เปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี 1”
“ชาวกัมพูชา” ครึ่งหมื่น เตรียมข้ามแดนจันทบุรีกลับบ้าน
เปิดถ้อยแถลง! ทูตไทยประจำสหประชาชาติ ชี้แจง UNSC กรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา