'หยั่น หว่อ หยุ่น' โอดสินค้าจำเป็นทรงตัว เศรษฐกิจ-กำลังซื้อฉุดตลาด
ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค(FMCG)หรือของกินของใช้ มีขนาดใหญ่มูลค่าหลายแสนล้านบาท เช่น ผลิตภัณฑ์ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน สบู่ ยาสระผม ครีมอาบน้ำ ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กะปิ น้ำปลา เครื่องปรุงรสต่างๆ เครื่องดื่ม อาหาร ฯ ซึ่งผู้บริโภคล้วนต้องกิน-ใช้ทุกวันในชีวิตประจำวัน
ทว่า ปี 2568 เห็นชัดแล้วว่า เศรษฐกิจ กำลังซื้อไม่ดี จากสารพัดปัจจัยทั้งภายในและนอกประเทศที่กระทบ โดยเฉพาะภาษีทรัมป์ ที่จะเป็นตัวแปรต่อความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย
เครื่องปรุงรสเป็นอีกตลาดที่กำลังได้รับผลกระทบ โดยมุมมองจากผู้เล่นสำคัญ และบิ๊กแบรนด์ในตลาดอย่าง วสุพล ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายในประเทศ บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด ฉายภาพว่า ภาพรวมตลาดเครื่องปรุงรส(เฉพาะซอสถั่วเหลือง ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ ซอสหอยนางรม และเต้าเจี้ยว)ปี 2567 มีมูลค่าราว 5,200 ล้านบาท เติบโต 2.5%
เศรษฐกิจไทยใกล้จุดต่ำสุด
ผ่านครึ่งปีแรก ตลาดค่อนข้างเงียบ และผลประกอบการของบริษัทเป็นอีกตัวชี้วัดกำลังซื้อผู้บริโภค โดยยอดขาย 6-7 เดือนอยู่ในระดับทรงตัวเท่านั้น
ขณะที่เป้าหมายยอดขายปี 2568 ตั้งเติบโตระดับ 2 หลัก หรือ 10% ขึ้นไป จากปีก่อนยอดขายเติบโต 11% แต่จากสถานการณ์ 7 เดือนแรก ทำให้คาดการณ์เป้าหมายยอดขายทั้งปีอาจเติบโตเพียง 1-2% เท่านั้น ภายใต้การจำลองปกติหรือ base case scenario อิงค่าเฉลี่ยไม่ต่างจากภาพรวมตลาด
“ปีนี้กำลังซื้อไม่ดีจริงๆ ไปเดินห้างค้าปลีก ร้านค้าต่างๆ เงียบ..เงียบมาก งานอีเวนต์ต่างๆคนน้อย และด้วยสภาพเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ใกล้จุดต่ำสุดแล้ว ปีนี้เราจึงพยายามพยุงไม่ให้ยอดขายตก ถือว่าพอใจแล้ว หรือแม้ยอดขายสิ้นปีจะตกอย่างน้อยๆพยายามรักษากำไรอย่าให้ตก”
เร่งส่งออกสหรัฐฯ เพิ่ม 4-5 เท่า รับภาษีทรัมป์
ด้านตลาดต่างประเทศกำลังเจอแรงกดดันหนักจากนโยบายภาษีของทรัมป์ ที่เก็บภาษีส่งออกสินค้าจากไทยในอัตรา 36% นำร่อง 10 อันดับสินค้าส่งออกสูงสุด เวลานี้บริษัทเร่งส่งออกสินค้าไปยังตลาดสหรัฐฯราว 100-200 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้น 3-5 เท่าตัว จากปกติส่งออก 40-50 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน และมูลค่าส่งออกเพิ่มเป็นระดับ 200 ล้านบาทต่อเดือน
ส่วนการกำหนดราคาขาย “ต่ำลง” เพื่อ เพื่อไม่ให้ลูกค้าชะลอการซื้อ หรือสั่งสินค้า โดยการส่งออกที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว จะครอบคลุมความต้องการตลาดจนถึงสิ้นปี 2568 และคาดหวังว่าสถานการณ์การค้าจะปรับตัวดีขึ้นในปีหน้า
“เราเร่งส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ มีการโค้ดราคาลง เพื่อไม่ให้ลูกค้าสโลว์มูฟ ชะลอดีลสั่งซื้อ ส่วนพฤติกรรมของลูกค้าตอนนี้กลับมาเป็นเหมือนช่วงโควิด-19 ระบาด ที่ตุนๆๆๆๆ สินค้าค่อนข้างมาก ซึ่งไม่ง่ายที่บริษัทจะส่งสินค้าไปเพราะมีทั้งค่าระวางสินค้าทางเรือหรือเฟรทและใช้เวลาขนส่ง”
หาตลาดใหม่ ดันส่งออกแตะ 90% มุ่งยอดขาย 4-5 หมื่นล้าน!
วสุพล บอกว่า ขณะนี้ยังต้องเกาะติดนโยบายและผลกระทบจากภาษีทรัมป์ เนื่องจากเครื่องปรุงรส ยังไม่อยู่ในลิสต์สินค้าที่พิจารณา แต่บริษัทต้องปรับตัวหาตลาดใหม่ จากปัจจุบันการส่งออกไปยัง 80 ประเทศทั่วโลก ตลาดยุโรปนำมาอันดับ 1 สัดส่วน 40% ตามด้วยสหรัฐฯ 30% ตลาดเอเชีย 15% เป็นต้น
ทั้งนี้ ตลาดใหม่ยังโฟกัสเอเชีย และตะวันออกกลาง เช่น อิสราเอล สินค้าขายดีมาก รวมถึงขยายตลาดสู่กลุ่มประเทศตะวันตกหรือ western 9 ประเทศ
เป้าหมายระยะยาว 10 ปี บริษัทต้องการเพิ่มสัดส่วนการส่งออกให้แตะ 90% จากปัจจุบันอยู่ที่ 35% และยอดขายในประเทศสัดส่วน 65% ที่สำคัญต้องการผลักดันยอดขายแตะระดับ 4-5 หมื่นล้านบาท
“ตลาดต่างประเทศใหญ่กว่าไทย การเติบโตในอนาคตอยากผลักดันส่งออกเพิ่มขึ้น โดยโตควบคู่กับยอดขายในประเทศ ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวค่อนข้างยากแต่ dream big ไว้ก่อน”
ลงทุนเกือบ 1,000 ล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพผลิต
จากปัจจัยลบรายล้อม แต่ปี 2568 บริษัทยังเดินหน้าลงทุนเกือบ 1,000 ล้านบาท ใหญ่สุดรอบ 3-4 ปี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสินค้า ขยายไลน์การผลิตทุกสินค้า
“หลักการของเราพยายามไม่โทษใคร สถานการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นได้ ทุกฝ่ายพยายามทำให้ดีสุด ไม่ว่าภาครัฐและเอกชน ที่เราพยายามคือไม่ผลักภาระให้ผู้บริโภค ทำอย่างไรแก้ที่ตัวเองให้มากสุด จึงหาวิธีทำให้ต้นทุนขายหรือ Cost of Goods Sold (COGS) แข่งขันได้ในตลาด ด้วยการลงทุนอีกก้อนซื้อเครื่องจักรเซ็ทใหม่เข้ามา เพื่อพยุงการผลิตสินค้าโรงงานที่สมุทรสาคร ที่กล้าลงทุนเพราะโลกปัจจุบันมีการแข่งขันสูง โลกเปิดกว้าง มีแบรนด์คู่แข่งมา เราต้องพยายามรักษาคุณภาพ บริการ ราคาขายจำเป็นมากในยุคปัจจุบัน ไม่ใ่ช่ต้นทุนขึ้นแล้วผลักภาระให้ผู้บริโภค นี่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา”
แม้ตลาดเครื่องปรุงรสครึ่งทางจะท้าทาย แต่ครึ่งปีหลัง บริษัทยังคาดหวังไฮซีซันจะกระตุ้นการเติบโต โดยเดือนสิงหาคมจะมีเทศกาลสาร์ทจีน เดือนตุลาคมเข้าสู่เทศกาลกินเจ และ 2 เดือนสุดท้ายของปีเข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลอง คริสต์มาส ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ล้วนส่งผลต่อการใช้ซอสถั่วเหลือง ซีอิ๊วขาวต่างๆ
“ปีนี้ยอดขายเติบโต 1-2% ได้ผมแฮปปี้แล้ว แต่ก็เป็นอัตราต่ำในรอบหลายปี โควิด-19 ระบาด บริษัทยังเติบโต 7-8% และ 3 ปีที่เข้ามาบริหารธุรกิจปีนี้สุดๆ ปัจจัยลบรุมเร้า”