สื่อนอกชำแหละ 5 จุด ในห้องพักโรงแรม “เชื้อโรคสูง” ช็อกอันดับ 1 อยู่บนเตียง!!!
อย่าหลงแค่ความเงางาม! เปิดความจริง "ห้องพักโรงแรม" ที่อาจสกปรกกว่าที่คิด ผู้เชี่ยวชาญเตือน พื้นผิวที่คุณใช้ทุกวันอาจสกปรกยิ่งกว่าห้องน้ำ
เมื่อเดินเข้าห้องพักโรงแรมในฝัน หลายคนอาจตะลึงกับความสะอาดและตกแต่งดูหรูหรา แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ความเงางามนั้น ซ่อนแบคทีเรียจำนวนมหาศาล ที่เกิดจากการทำความสะอาดที่ไม่ทั่วถึง ผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นนี้ และแนะนำให้นักท่องเที่ยวระมัดระวัง
พนักงานในโรงแรมมักใช้เวลาเพียงประมาณ 30 นาทีในการทำความสะอาดแต่ละห้อง ซึ่งทำให้พวกเขาอาจละเลยสิ่งของตกแต่งต่าง ๆ ได้โดยสิ้นเชิง — ตามคำกล่าวของ Enza Laterrenia หัวหน้าฝ่ายแม่บ้านของโรงแรมในประเทศอิตาลี ที่ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Travel & Leisure
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ สหรัฐอเมริกา ได้รวบรวมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮูสตัน แสดงให้เห็นว่าแบคทีเรียมีอยู่ทั่วไปในห้องพักโรงแรม การศึกษาของมหาวิทยาลัยฮูสตันยังแสดงให้เห็นว่า ปริมาณแบคทีเรียในห้องพักโรงแรม อาจสูงกว่าระดับที่อนุญาตในโรงพยาบาลถึง 10 เท่า
และด้านล่างนี้คือรายชื่อจุดต่างๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความสะอาดเตือนว่า…. อาจเต็มไปด้วยเชื้อโรคสะสม และข้อแนะนำง่ายๆ ที่คุณควรทำทันทีเมื่อเข้าห้องพัก!
ของตกแต่งต่างๆ
“ฉันเคยทำงานในโรงแรมมาก่อน สิ่งแรกที่ฉันจะทำทันทีเมื่อเข้าไปในห้องคือโยนหมอนตกแต่งและผ้าคลุมปลายเตียงไปไว้มุมไกล” — Maria Diego ที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยวจากซานดิเอโก แคลิฟอร์เนีย กล่าวกับนิตยสารท่องเที่ยว เธออธิบายว่า ของตกแต่งเหล่านี้แทบไม่เคยถูกซักเลย และแม้แต่ผ้าคลุมเตียงเองก็อาจกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ และยังมีอดีตพนักงานโรงแรมคนหนึ่งที่เคยโพสต์บน Reddit เมื่อปีที่แล้วว่า “โรงแรมส่วนใหญ่ไม่ซักผ้าห่มใหญ่ พวกเขาจะซักแค่ผ้าปูที่นอนเท่านั้น”พื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อย
"Maria Diego" ยังบอกอีกว่าเธอจะระวังเป็นพิเศษกับสวิตช์ไฟ รีโมต โทรศัพท์ และจุดสัมผัสสำคัญอื่นๆ ในห้อง เช่นเดียวกับ "Rani Cheema" ที่ปรึกษาท่องเที่ยวจากลอสแอนเจลิส กล่าวว่า โทรศัพท์ในห้องโรงแรมคือสิ่งที่เธอกลัวที่สุด เพราะคนมักไม่ทำความสะอาดมันเลย “พรมก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งสะสมเชื้อโรค…. ตอนนี้โรงแรมระดับไฮเอนด์หลายแห่งเริ่มเปลี่ยนจากพรมเป็นพื้นไม้หรือพรมเฉพาะจุดแทน”อ่างอาบน้ำ
งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า ห้องน้ำในโรงแรมอาจสกปรกยิ่งกว่าห้องน้ำบนเครื่องบิน โดยเฉพาะบริเวณท็อปเคาน์เตอร์ ที่แย่กว่านั้นคือ อ่างอาบน้ำยังมีเชื้อโรคสะสมมากถึง 40 เท่า เมื่อเทียบกับฝารองนั่งของโถสุขภัณฑ์ ตามการตรวจสอบของ WaterFilterGuru.com ในปี 2023 ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า อ่างอาบน้ำไม่ใช่แค่ไม่สะอาด แต่ยังอาจไม่เคยผ่านการฆ่าเชื้ออย่างแท้จริงเลยด้วยซ้ำจุดที่มักถูกมองข้ามและเข้าถึงยาก
"LaDell Carter" ผู้ก่อตั้งบริษัทท่องเที่ยว Royal Expression Travels ที่ตั้งอยู่ในรัฐแมริแลนด์ เปิดเผยว่าเธอมักสังเกตจุดที่เป็น "สัญญาณเตือน" เช่นพัดลมเพดาน แท่งม่าน ฝักบัว หรือมุมต่างๆ ที่มักถูกมองข้าม “เวลาฉันเดินเข้าไปในห้อง แล้วเห็นเต้าเสียบปลั๊กหรือโคมไฟหัวเตียงมีฝุ่นเกาะหนาเตอะ ฉันจะรู้ทันทีว่าส่วนนี้ไม่ได้รับการทำความสะอาด”แก้วน้ำและถังน้ำแข็ง
แก้วที่ใช้ดื่มน้ำและถังน้ำแข็งก็เป็นแหล่งเชื้อโรคเช่นกัน ตามคำกล่าวของ "Brian Labus" รองศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยเนวาดา ลาสเวกัส ที่ให้สัมภาษณ์กับ Travel & Leisure ปีที่แล้วมีกรณีที่แขกคนหนึ่งในโรงแรมแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ติดเชื้อโนโรไวรัส และอาเจียนลงในถังน้ำแข็ง ทำให้ไวรัสแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ LaDell Carter แนะนำว่าถังน้ำแข็งควรมีถุงซับด้านในก่อนใช้งานเสมอ“ส่วนตัวแล้ว ฉันจะไม่ใช้แก้วหรือลูกถ้วยในห้องเด็ดขาดถ้ายังไม่ได้ล้าง ฉันมักจะต้มน้ำร้อนในกาต้มแล้วล้างพวกมันอย่างละเอียดก่อนใช้”
ท้ายที่สุดแล้ว แม้ห้องพักจะดูสะอาดสะอ้านจากภายนอก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวหลายคนยืนยันว่า การทำความสะอาดห้องโรงแรมมักใช้เวลาเพียง 30 นาที ต่อห้อง ซึ่งหมายความว่า มี "จุดเสี่ยงแฝง" มากมายที่อาจไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างทั่วถึง และกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคโดยที่แขกไม่รู้ตัว แม้แต่โรงแรมระดับเทพ หากใช้เวลาแค่ 30 นาทีต่อห้อง ก็ยากจะทำให้ทุกจุดสะอาดหมดจรด ดังนั้นสุขอนามัยของผู้เข้าพักจึงเป็นแนวป้องกันสำคัญ และไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด
- ได้รู้สักที! ทำไมเตียงโรงแรมมีหมอน 4 ใบ ทั้งที่เข้าพักแค่ 2 คน ประโยชน์มากกว่าหนุนหัว
- รู้ไว้ดีกว่า! ทำไมไม่ควรพับผ้าห่ม-เก็บหมอน ก่อนเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม?