เปิดมหากาพย์ ที่ดินเขากระโดง 5 พันไร่ ข้อสรุปไร้ทางออก ใครคือเจ้าของตัวจริง?
เจาะลึกมหากาพย์ข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ บนพื้นที่ 5,083 ไร่ของการรถไฟฯ ที่ยืดเยื้อกว่า 100 ปี สรุปทุกปมปัญหา คำตัดสินศาลฎีกา และอนาคตของชาวบ้าน รวมถึงสนามช้าง อารีน่า ว่าจะจบลงอย่างไร
เพจ วิเคราะห์บอลจริงจัง ได้โพสต์ลำดับเหตุการณ์ เกี่ยวกับภาพรวมของข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่ยืดเยื้อมานานกว่าศตวรรษ กำลังเดินทางมาถึงจุดแตกหักครั้งสำคัญ หลังจากที่กระทรวงมหาดไทยภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ได้มีคำสั่งให้กรมที่ดินเร่งดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินของชาวบ้านและเอกชนเกือบ 1,000 แปลง บนพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อ้างกรรมสิทธิ์
ความเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่ออนาคตของอาณาจักร “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ของตระกูลชิดชอบ ซึ่งมีทั้งสนามฟุตบอลช้าง อารีน่า และบางส่วนของสนามแข่งรถช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ตั้งอยู่บนที่ดินพิพาทแห่งนี้
จุดเริ่มต้นที่ดิน 5,083 ไร่ของกรมรถไฟ
มหากาพย์เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2464 หรือ 104 ปีที่แล้ว ในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อ “กรมรถไฟ” (ปัจจุบันคือ รฟท.) ได้ทำการเวนคืนและซื้อที่ดินจากชาวบ้านใน ต.อิสาณ และ ต.เสม็ด จ.บุรีรัมย์ จำนวน 5,083 ไร่ เพื่อสร้างทางรถไฟสายอีสานใต้ แต่เนื่องจากมีการใช้ที่ดินเพื่อสร้างทางรถไฟไปเพียงส่วนเดียว จึงทำให้เหลือพื้นที่รกร้างว่างเปล่าเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านในยุคสมัยนั้นจึงได้เข้าไปทำกินและอยู่อาศัย โดยที่การรถไฟฯ ก็ไม่ได้เข้ามาห้ามปรามแต่อย่างใด จนเวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี ผู้คนต่างเข้าใจว่าที่ดินเหล่านั้นเป็นของตนเองโดยสมบูรณ์
ปมปัญหา เมื่อกรมที่ดิน ออกโฉนดทับซ้อน
จุดที่ทำให้เรื่องราวซับซ้อนและกลายเป็นปัญหาระดับชาติ เกิดขึ้นเมื่อ “กรมที่ดิน” กระทรวงมหาดไทย ได้ทยอยอนุมัติออกเอกสารสิทธิ์ให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว รวมแล้วมากกว่า 1,000 ฉบับ มีตั้งแต่ ส.ค.1, น.ส.3 ก. ไปจนถึงโฉนดที่ดิน น.ส.4 ครุฑแดง โดยที่ไม่ได้ตรวจสอบหรืออาจจะละเลยข้อเท็จจริงที่ว่าที่ดินผืนนี้มี รฟท. เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่แล้ว การกระทำดังกล่าวของหน่วยงานรัฐได้สร้างความชอบธรรมให้แก่ชาวบ้านในการถือครองที่ดิน และนำไปสู่การซื้อขายเปลี่ยนมือกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งตระกูลชิดชอบก็ได้เข้ามาซื้อที่ดินในบริเวณนี้เป็นจำนวนมากตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 เป็นต้นมา
คำตัดสินศาลฎีกา บรรทัดฐานที่ยังไม่สิ้นสุด
ความขัดแย้งปะทุขึ้นเมื่อ รฟท. ได้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่และยืนยันกรรมสิทธิ์ของตนเอง จนเรื่องราวบานปลายไปถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งวินิจฉัยว่าที่ดินทั้งหมดเป็นของ รฟท. และนำไปสู่คดีประวัติศาสตร์ในปี 2560 ที่ชาวบ้าน 35 รายฟ้องร้อง รฟท. แต่ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายืนให้ รฟท. เป็นฝ่ายชนะคดี
คำพิพากษาดังกล่าวได้สร้างบรรทัดฐานสำคัญ 2 ประการ คือ ประการแรก ศาลได้ระบุว่าที่ดินทั้ง 5,083 ไร่ ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท. ทั้งหมด และ ประการที่สอง ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์เฉพาะของชาวบ้าน 35 คนที่เป็นคู่กรณีเท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมถึงเจ้าของที่ดินรายอื่น ๆ อีกเกือบพันราย ซึ่งนี่คือช่องว่างทางกฎหมายที่ทำให้การต่อสู้ยังคงดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน
เกมการเมืองพลิก เมื่อรัฐบาลใหม่สั่ง ลุยเพิกถอน
สถานการณ์ได้เดินหน้าอย่างรวดเร็วในช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังการเปลี่ยนขั้วอำนาจในกระทรวงมหาดไทย โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งให้กรมที่ดินเร่งดำเนินการเพิกถอนโฉนดของชาวบ้านและเอกชนทั้งหมดในพื้นที่พิพาท โดยอ้างอิงคำพิพากษาของศาลฎีกาเป็นหลัก ซึ่งเป็นการเปลี่ยนท่าทีจากรัฐบาลชุดก่อนอย่างสิ้นเชิง
ฝั่งบุรีรัมย์ตั้งโต๊ะสู้ อยากได้ให้ฟ้องเป็นรายคดี
จากคำสั่งดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ฝั่งสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และตัวแทนชาวบ้าน ได้ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข่าวประกาศจุดยืนพร้อมต่อสู้อย่างเต็มที่ โดยมีข้อโต้แย้งสำคัญดังนี้
- ต้องฟ้องเป็นรายคดี: ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีการเพิกถอนโฉนดโดยอาศัยผลจากคดีของชาวบ้าน 35 ราย หาก รฟท. ต้องการที่ดินคืน ต้องดำเนินการฟ้องร้องเจ้าของโฉนดแต่ละรายเข้ามาใหม่เป็นคดี ๆ ไป
- มีหลักฐานใหม่: อ้างว่ามีหลักฐานที่รัดกุมกว่าคดีก่อนหน้า โดยเฉพาะประเด็นเรื่องแผนที่ของ รฟท. ที่ไม่มีฉบับดั้งเดิมตั้งแต่ปี 2464 แต่เป็นแผนที่ที่ทำขึ้นใหม่ในปี 2539 ซึ่งอาจมีความคลาดเคลื่อน
- รฟท. รู้เห็นมาตลอด: ตัวแทนชาวบ้านอ้างว่า ในทุกครั้งที่มีการออกโฉนด จะมีเจ้าหน้าที่ของ รฟท. มาร่วมชี้แนวเขตเสมอ ซึ่งหมายความว่า รฟท. รับรู้มาโดยตลอด
- สนามช้าง อารีน่า ไม่ทุบ-ไม่ย้าย: สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยืนยันว่าจะใช้สนามทำการแข่งขันต่อไปตามปกติ ไม่มีความกังวลว่าจะถูกยึด และพร้อมเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องในศาล
- สนามแข่งรถกระทบเล็กน้อย: สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต มีพื้นที่ทับซ้อนไม่ถึง 5% และยังสามารถจัดกิจกรรมระดับโลกได้ตามเดิม
สำหรับประเด็นที่ว่าตระกูลชิดชอบอาจรับรู้ว่าที่ดินเป็นของ รฟท. มาตั้งแต่ปี 2513 จากเอกสารที่นายชัย ชิดชอบ เคยลงนามยอมรับว่า “อาศัย” ในที่ดินของ รฟท. นั้น ยังคงเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ฝ่าย รฟท. อาจนำมาใช้ในการต่อสู้คดีต่อไป
บทสรุปและทางออก มหากาพย์ที่ยังไม่จบ
สถานการณ์ในปัจจุบันจึงตกอยู่ในภาวะชะงักงัน ฝ่ายรัฐบาลและ รฟท. ต้องการดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อรักษาสิทธิ์ของรัฐและสร้างรายได้จากค่าเช่า ขณะที่ฝ่ายชาวบ้านและตระกูลชิดชอบก็พร้อมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมเพื่อปกป้องสิทธิ์ที่ตนเองเชื่อว่าได้มาโดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมายที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐเอง บทสรุปของมหากาพย์ที่ดินเขากระโดงจึงยังไม่จบลงง่าย ๆ และคาดว่าจะต้องต่อสู้กันในชั้นศาลไปอีกหลายปี ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่สำคัญของสังคมไทยต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง