‘ครูปรีชา’ ยัน ‘โน้ส อุดม’ เข้ารับทราบข้อหาแล้ว พูดพาดพิงให้เสียหายในเดี่ยวไมโครโฟน
จากกรณี นายอุดม แต้พานิช หรือ "โน้ส อุดม" ศิลปินเดี่ยวไมโครโฟนชื่อดัง เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 19 ส.ค. 68 เนื่องจากถูก นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ "ครูปรีชา" แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณานั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ครูปรีชา ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในเรื่องนี้ตนได้เดินทางไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ตั้งแต่เมื่อช่วงประมาณวันที่ 15 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีเพื่อนได้ส่งคลิป เดี่ยวไมโครโฟนของ "โน้ส อุดม" มาให้ตนดู พร้อมบอกว่ามีข้อความหลายอย่างที่สร้างความเสียหายให้กับตน ซึ่งเมื่อตอนเปิดดูก็พบว่ามีหลายข้อความที่สร้างความเสียหายให้กับตนเองจริง ถึงได้เดินทางไปปรึกษาพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนก็ลงความเห็นว่ามีคำพูดที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท ตนจึงได้ตัดสินใจแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 กระทั่ง วันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งมาว่า "โน้ส อุดม" ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว
เรื่องนี้ ตนยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยดูคลิปเดี่ยวไมโครโฟนที่มีเนื้อหาพูดถึงตนเองมาก่อน กระทั่งเพื่อนส่งมาให้ดู และพบว่า การพูดของ "โน้ส อุดม" สร้างความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับตนเอง โดยเฉพาะคำว่าตอแหล และแถไถ ซึ่งในช่วงที่มีการเดี่ยวไมโครโฟนออกแสดง ประมาณปี 2561 นั้น เป็นช่วงที่ตนเองกำลังรับราชการครูอยู่ การพูดในเดี่ยวไมโครโฟนดังกล่าว สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับตนเองเป็นอย่างมาก อีกทั้ง เดี่ยวไมโครโฟน ยังเป็นการแสดงที่ขายบัตรเก็บเงินคนดู การเอาเรื่องส่วนตัวของตนไปพูด เพื่อหารายได้เช่นนี้จึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ตนจึงตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยใด ๆ กับทางฝ่ายคู่กรณี หากคู่กรณีติดต่อมา ก็ต้องดูว่าจะสามารถพูดคุยกันได้หรือไม่ แต่ตอนนี้ยืนยันที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีไปตามกฎหมายก่อน
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า หลังจาก "โน้ส อุดม" ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ก็ได้มีการปล่อยตัวกลับไปโดยไม่ได้มีการประกันตัว หลังจากนี้ จะเข้าสู่ขั้นตอนของการไกล่เกลี่ย ซึ่งอยู่ที่ว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถเจรจากันได้หรือไม่ หากไม่สามารถเจรจากันได้ ก็จะเข้าสู่การดำเนินคดีตามกฎหมาย.