สพฐ.รับมือพายุ “คาจิกิ” สั่งเฝ้าระวัง 24 ชม. พร้อมดันนมโรงเรียน 365 วัน
สพฐ.รับมือพายุ “คาจิกิ” สั่งเฝ้าระวัง 24 ชม. พร้อมดันนมโรงเรียน 365 วัน
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ในที่ประชุมได้มีการหารือในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์พายุ “คาจิกิ” ที่กำลังเกิดขึ้นและเคลื่อนตัวเข้ามายังพื้นที่ของจังหวัดต่าง ๆ ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งจากการติดตามข้อมูลสภาพอากาศพบว่าพายุลูกดังกล่าวอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ ดังนั้นจึงได้เน้นย้ำไปยังสถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตระหนักและเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อย่างเต็มที่
“สพฐ.ได้กำชับไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) รวมถึงโรงเรียนทุกแห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้จัดระบบการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และให้ดำเนินมาตรการป้องกันอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการขนย้ายสิ่งของและวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอนไปไว้ในที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหาย การตรวจสอบระบบไฟฟ้าและสายไฟภายในอาคารเรียนเพื่อความปลอดภัย ตลอดจนการประสานงานร่วมกับหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น นอกจากนี้ยังได้กำหนดแนวทางให้โรงเรียนสามารถประกาศหยุดการเรียนการสอนได้ทันที หากพบว่าพายุสร้างความเสียหายจนถนนขาด โรงเรียนถูกน้ำท่วม หรือมีสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากร โดยยึดหลักสำคัญที่สุดความปลอดภัยของนักเรียน”ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าว
ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าวต่อว่า นอกจากนี่ที่ประชุมยังได้หารือในอีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการของเด็กในวัยเรียน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ สพฐ.จึงได้จัดทำหนังสือเพื่อขอความร่วมมือไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) โดยเสนอแนวทางการอุดหนุนนมวัวจากกลุ่มสหกรณ์โคนมที่ขณะนี้กำลังประสบภาวะนมล้นตลาด แนวทางดังกล่าวจะเชื่อมโยงกับโครงการนมโรงเรียนซึ่งปัจจุบันจัดสรรให้นักเรียนดื่มนมได้เพียง 200 วันต่อปี โดยตามข้อเสนอของสพฐ. จะมีการขยายจำนวนวันในการดื่มนมโรงเรียนเพิ่มขึ้นจาก 200 วัน เป็น 365 วันเพื่อให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศได้รับสิทธิในการดื่มนมทุกวันตลอดทั้งปี
“นโยบายนี้จะช่วยยกระดับโภชนาการและสุขภาพให้กับเด็กในวัยเรียน เนื่องจากนมเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะการมีแคลเซียมในปริมาณมาก ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง เจริญเติบโตได้อย่างสมวัย และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ในส่วนของงบประมาณสำหรับการดำเนินการขยายระยะเวลาการดื่มนมโรงเรียนนั้น สพฐ.ได้ประเมินว่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวนประมาณ 12,000 ล้านบาท หากกษ.พิจารณาอนุมัติตามที่สพฐ.ได้ทำหนังสือไป ก็จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอมติเห็นชอบให้นำงบประมาณกลางมาใช้ในการดำเนินการต่อไป”ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สพฐ.รับมือพายุ “คาจิกิ” สั่งเฝ้าระวัง 24 ชม. พร้อมดันนมโรงเรียน 365 วัน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th