สาววัย 37 ปี รพ.วินิจฉัยโรคผิดจนต้องยุติการตั้งครรภ์ ก่อนตรวจซ้ำพบเป็นเพียงต่อมไขมัน-วัณโรค
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 มิ.ย. 2568 ที่กระทรวงสาธารณะสุข จ.นนทบุรี “ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง” พาน.ส.ขวัญ (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี เดินทางยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม กับ ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ช่วยเหลือหลังเมื่อปี 2562-2563 พบก้อนเนื้อที่บริเวณหลัง จึงไปตรวจที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา โดยใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ต่อมาปี 2567 เธอได้มีการตั้งครรภ์ จึงไปฝากครรภ์ที่ รพ.อีกแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ แพทย์เห็นประวัติเดิมจึงแนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์ กระทั่งปี 2568 เธอพบก้อนเนื้อใหม่ที่บริเวณลำคอ ด้วยความกลัวว่ามะเร็งลุกลาม จึงเข้าตรวจอีกครั้งที่ รพ.แห่งที่ 3 ซึ่งได้ส่งต่อไปยัง รพ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แพทย์ได้ทำการตรวจอย่างละเอียดทั้ง MRI และ CT Scan รวมถึงนำตัวอย่างเนื้อเยื่อจากลำคอและหลังไปตรวจใหม่ พบว่าไม่ใช่มะเร็ง ทั้ง 2 จุด ทำให้เธอเกิดความสงสัยว่าผลตรวจเมื่อหลายปีก่อนเป็นความผิดพลาดหรือไม่ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้เธอสูญเสียทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะลูก วันนี้จึงต้องการขอความเป็นธรรมให้ตัวเธอเองและลูกด้วย
น.ส.ขวัญ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อปี 2562 ตนพบก้อนเนื้อที่บริเวณหลัง จึงไปตรวจที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา และทราบว่าตนเองเป็นมะเร็งกระดูก แต่ตนไม่ได้รักษาเพราะต้องทำงานเนื่องจากเป็นเสาหลักของครอบครัว จึงปล่อยให้เรื้อรังมานาน ภายหลังตนมีครอบครัวใหม่และตั้งครรภ์ จึงไปฝากครรภ์ที่ รพ.แห่งที่ 2 ได้ทำการปรึกษาแพทย์และนำผลตรวจจาก รพ.แห่งแรก ไปให้แพทย์ดู ซึ่งแพทย์ได้มีการปรึกษากับ รพ.แห่งแรก และแนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ตนใช้ชีวิตปกติ ไม่เคยมีอาการเจ็บปวด หรือรักษาด้วยวิธีใดๆ ตนเคยถามแพทย์ว่าผลตรวจมีการคลาดเคลื่อนหรือไม่ ซึ่งแพทย์ยืนยันว่าเป็นไปได้ยาก และผลตรวจชัดเจน ต่อมาปี 2568 ตนพบก้อนเนื้อที่บริเวณลำคอ คิดว่าน่าจะลุกลามจึงไปตรวจที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา โดยแพทย์ได้ทำการส่งตัวมารักษาที่ รพ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งแพทย์ได้ทำ MRI และ CT Scan ผลคือไม่พบความผิดปกติในร่างกาย แพทย์จึงเกิดความสงสัยและขอเจาะตรวจก้อนเนื้อที่บริเวณหลังเพิ่ม พบว่าบริเวณลำคอเป็นอาการของวัณโรค ส่วนบริเวณหลังเป็นเพียงก้อนเนื้อไขมันเท่านั้น
ตนรู้สึกจิตตก สูญเสียทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงสูญเสียลูก ตนสงสัยว่าผลตรวจของ รพ.แห่งแรก เกิดจากสาเหตุอะไร ที่ผ่านมาคิดทุกวันว่าหากตนเสียชีวิตและแม่กับลูกจะอยู่ยังไง ทั้งที่ร่างกายของตน ตนรู้ว่ามันไม่ได้มีการผิดปกติ จากที่คุยกับคนอื่นที่เป็นผู้ป่วยมะเร็ง แต่ละคนมีอาการเจ็บปวด แต่ตนไม่มีอาการใดๆ จึงได้ติดต่อมาที่ “มูลนิธิเป็นหนึ่ง” เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตนเองและลูกด้วย
ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง กล่าวว่า ผู้เสียหายติดต่อมาที่ มูลนิธิเป็นหนึ่ง เพื่อร้องขอความเป็นธรรม ว่า รพ.แห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา วินิจฉัยผิดพลาดว่าเป็นมะเร็ง และทำให้ต่อมาต้องยุติการตั้งครรภ์ ซึ่งภายหลังได้มาตรวจที่ รพ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ พบว่าไม่ได้เป็นมะเร็ง วันนี้ตนจึงพาผู้เสียหายมาที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อร้องขอความเป็นธรรม โดยดร.ธนกฤตฯ จะเรียก รพ.ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาหาข้อเท็จจริง ตนอยากให้ทางกระทรวงฯตรวจสอบว่าความจริงแล้วผลตรวจจาก รพ.แรก ผิดพลาดจากอะไร ตรวจสอบตั้งแต่เวชระเบียนว่ามีการนำผลของคนอื่นมาหรือไม่ รวมถึง รพ.ที่ 2 ที่ยึดตามผลตรวจของ รพ.แรก โดยไม่ได้ตรวจเพิ่ม ทั้งนี้ ทางมูลนิธิเป็นหนึ่งได้เคยรับเรื่องร้องเรียนจาก รพ.แห่งแรก มาบ้าง ซึ่งเรื่องนี้เรามองว่าประชาชนเอาชีวิตไปฝากกับหมอ กับรพ. จากที่ไม่เป็นอะไรกลับกลายเป็นต้องมาเป็นโรคร้าย เพราะการตรวจที่ผิดพลาด และต้องเสียอีก 1 ชีวิตไป ผู้เสียหายจึงต้องการถามหาความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันนี้ทาง มูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้พาผู้เสียหายมาพบเพื่อร้องเรียนหลังมีการวินิจฉัยโรคที่ผิดพลาด ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้รับเรื่องและจะส่งเรื่องไปยังสถาบันมะเร็งเพื่อตรวจหาข้อเท็จจริงว่าผู้เสียหายเป็นมะเร็งกระดูกจริงหรือไม่ โดยให้ตรวจสอบทั้งระบบ และให้ผู้ตรวจราชการของกระทรวงสาธารณสุขที่มีหน้าที่รับผิดชอบลงพื้นที่ไปตรวจเรื่องนี้ โดยจะข้ามขั้นตอนของการผ่านกระทรวงสาธารณสุขจังหวัด และจะให้ความเป็นธรรมกับทางผู้เสียหาย หากพบว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ โดยจะมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามระเบียบและวินัยของกระทรวงสาธารณสุข และดูแลเรื่องการเยียวยาให้กับผู้เสียหาย หรือหากไม่มีข้อผิดพลาดก็จะต้องชี้แจงให้ทราบว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร
กรณีใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ยืนยันว่าสามารถรักษาได้ทุกโรค และตรวจมะเร็งได้ ซึ่งทั้ง 3 รพ.ดังกล่าว เป็น รพ.ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เราจะดูเรื่องของผลตรวจและการรักษาว่าเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องด้วยหรือไม่ โดยตนจะเข้าไปช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าวนนทบุรี รายงาน