โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ชายแดนบานปลาย “เพื่อไทย” ดิ่ง!

AEC10NEWs

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา • AEC10NEWS

รายงานพิเศษ : ชายแดนบานปลาย "เพื่อไทย" ดิ่ง!

จนถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดจากปัญหาพื้นที่พิพาท โดยเฉพาะภาคอีสานในหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ปัญหาทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อมีการเปิดฉากยิงจากฝ่ายกัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่บริเวณพื้นที่ใกล้ปราสาทตาเมือนธม โดยสถานการณ์ลากยาว มาจนถึงวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งมีการเจรจากันระหว่างรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทยนายภูมิธรรม เวชยชัย และนายกรัฐมนตรีของกัมพูชานายฮุน มาเนต โดยมีประเทศมาเลเซีย เป็นเจ้าภาพ

ปัญหาที่ลากยาวนี้ กระทบต่อคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ทั้ง ทักษิณ ชินวัตร และแพทองธาร ชินวัตร ต่างถูกโยง เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเรียบร้อยแล้ว

มีความพยายามจะกล่าวหาว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น มาจากความขัดแย้งระหว่างครอบครัวชินวัตร กับตระกูลฮุนเซน ที่เกิดความไม่ลงตัวในเรื่องของผลประโยชน์ ก่อให้เกิดปัญหาขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ

และเรื่องนี้ก็บานปลายขึ้นเมื่อฮุนเซน เปิดคลิปเสียงสนทนากับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ทำให้แพรทองธาร ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เมื่อเวลาต่อมา มีผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวของแพทองธารนั้น ขัดต่อจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่

กระทั่งต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องและสั่งให้แพทองธาร ปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ชั่วคราว ก่อนจะมีคำวินิจฉัย

นั่นทำให้สถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ ประเทศไทยไม่มีนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็ม ผู้ซึ่งจะมาสั่งการ บริหาร และสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน

ในสถานการณ์เช่นนี้ รักษาการนายกรัฐมนตรีอย่างภูมิธรรม เวชยชัย เลือกที่จะโยนอำนาจการตัดสินใจในเรื่องความขัดแย้งพื้นที่ชายแดนกัมพูชา ไปให้กับกองทัพ

และสุดท้ายก็นำมาซึ่งการสู้รบระหว่างทหาร 2 ฝ่าย

แน่นอนเมื่อเกิดการสู้รบขึ้น ไม่มีใครโทษทหาร แต่รัฐบาลย่อมเป็นแพะรับบาปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะถือว่าไม่บริหารจัดการให้เกิดความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน

ใน 4 จังหวัดพื้นที่ชายแดนใต้นั้น ศรีสะเกษถือเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย

เดิมทีจะมีการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 อำเภอภูสิงห์ และอำเภอขุนหาญ ในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ แต่ด้วยสถานการณ์การสู้รบ แม้จะหยุดยิงแล้ว แต่ประชาชนยังไม่สามารถกลับไปยังบ้านของตนเองได้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงเลื่อนการลงเสียงออกไปก่อน

เชื่อว่าพื้นที่นี้ จะเป็นตัวชี้วัดว่าหลังเกิดการสู้รบคะแนนของพรรคเพื่อไทยแชมป์เก่า จะเป็นอย่างไร

แต่ที่แน่ๆ พรรคเพื่อไทยเสียคะแนนในภาคอีสานไปมากโข

ย้อนดูผลสำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เรื่อง "การเมืองไทย ไปต่อแบบไหนดี" โดยสำรวจระหว่างวันที่ 4-7 ก.ค. ก่อนจะมีการยิงต่อสู้กันของทหารทั้ง 2 ฝ่าย

พบว่า ตัวอย่าง 42.37% เห็นควรให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควรประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อหานายกฯ คนใหม่

เมื่อถามว่า จะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตามรายชื่อผู้มีสิทธิเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ต้องพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากเผชิญกับปัญหาทางการเมือง พบว่า ตัวอย่าง 32.82% ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (องคมนตรี แต่เป็นแคนดิเดตจากพรรครวมไทยสร้างชาติ) รองลงมา 27.94% ไม่สนับสนุนใครตามรายชื่อผู้มีสิทธิเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก AEC10NEWs

ราคาทองคำวันนี้ (1 ส.ค. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 8 ครั้ง ราคาทองปรับขึ้น 100

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ศุลกากรภาคที่ 2 โชว์ผลงานจับอะโวคาโด และผลไม้อบแห้งลักลอบเข้าไทย

12 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สลากดิจิทัล ถูกคนเดียวมากสุด 3 ใบ รับ 9 ล้านบาท

12 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ธอส. เปิดรับสมัครเอ็มดีคนใหม่

18 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ทหารไทย-กัมพูชา เห็นชอบ “หยุดยิง” 3 พื้นที่ ห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง

AEC10NEWs

ด่วน!! ประกาศใช้กฎอัยการศึก 7 อำเภอ จ.จันฯ อีก 1 อำเภอ จ.ตราด

AEC10NEWs

เหตุไม่สงบชายแดน! รัฐบาลสั่งผู้ว่าฯ เร่งสรุปรายชื่อผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ

AEC10NEWs
ดูเพิ่ม