"ก.ต่างประเทศ" เตรียมส่งหนังสือ "กาชาดระหว่างประเทศ" ประณาม "เขมร" โจมตีเป้าหมาย "พลเรือน-โรงพยาบาล"
วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า วันที่ 26 กกรกฎาคมที่ผ่านมา มีการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) แบบปิด เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมี 15 รัฐสมาชิกยูเอ็นเอสซี รวมถึงคู่กรณีคือ ไทยกับกัมพูชาเข้าร่วมประชุมโดยการประชุมดังกล่าวเป็นโอกาสสำคัญให้ฝ่ายไทยย้ำจุดยืนต่อประชาคมโลกด้วยหลักฐานที่หนักแน่นและข้อเท็จจริงที่ชัดเจนว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายริเริ่มและเปิดฉากยิงก่อน
โดยโจมตีเป้าหมายพลเรือนไทย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และต้องอพยพเป็นแตะหลักแสนคน อีกทั้งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักการมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งการหารือของประเทศสมาชิกยูเอ็นเอสซี ได้กล่าวถึงหลักการกว้างๆไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ได้มีมติหรือการออกเอกสารผลลัพธ์ใดๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แสดงว่าสมาชิกต่างๆ มีความเข้าใจในจุดยืนและการดำเนินการของฝ่ายไทย
นางมาระตี กล่าวต่อว่า ในเรื่องการโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาเจนีวา ที่เกี่ยวกับคุ้มครองหน่วยแพทย์และสถานพยาบาล และเกี่ยวกับภารกิจคุ้มครองโรงพยาบาลฝ่ายพลเรือน กระทรวงการต่างประเทศจะมีหนังสือถึงประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ไอซีอาร์ซี) แสดงการประณามอย่างรุนแรงต่อการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงเหล่านี้
และจะพบกับสำนักงานไอซีอาร์ซี ที่ประจำในประเทศไทยในวันอังคาร 29 กรกฎาคมนี้ เพื่อชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีความสำคัญที่กระทรวงต่างประเทศต้องเดินหน้าในลักษณะนี้ เพราะไทยต้องการสื่อสารไปยังประชาคมโลกว่า การกระทำอย่างไร้มนุษยธรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิ่งที่ประชาคมระหว่างประเทศจะต้องร่วมกันประณาม
นางมาระตี กล่าวอีกว่า ฝ่ายกัมพูชาต้องแสดงออกถึงความจริงใจในการหยุดยิงก่อน โดยเฉพาะการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมายซึ่งยังคงดำเนินการอยู่ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศยังต้องออกแถลงการณ์ชี้แจงต่อสื่อต่างประเทศและประณามกรณีกองกำลังกัมพูชาใช้อาวุธร้ายแรงโจมตีบ้านเรือนประชาชนใน จ.สุรินทร์ พร้อมตอบโต้การเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน โดยฝ่ายกัมพูชาที่กล่าวหาว่าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายริเริ่ม
ทราบว่าหลายสำนักข่าวโดยเฉพาะสื่อต่างประเทศกำลังจะเดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรายงานข่าวติดตามสถานการณ์ โดยกรมประชาสัมพันธ์จะเป็นผู้ประสานงานหลักร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อที่จะประสานงานและให้ข้อมูลกับสื่อต่างประเทศ เพื่อการทำงานที่ราบรื่น