'ไทย'จุดหมายยอดฮิตของตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลสะท้อนถึงความต้องการในการเข้าถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น
จากข้อมูลในปี 2567 ระบุยอดจองที่พักในประเทศไทยจากนักเดินทาง Airbnb กลุ่มตลาดระยะไกลเพิ่มขึ้นเกือบ 40%* เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนถึงสถานะของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางระดับพรีเมียมที่ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยปัจจัยสำคัญที่ผลักดันหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินโดยเฉพาะจากยุโรป อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย เป็นต้น
เรียนรู้วัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง
ซึ่ง นายอมันพรีท บาจาจ ผู้จัดการทั่วไป ประจำอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า นักเดินทาง Airbnb จาก 10 ประเทศกลุ่มตลาดระยะไกลที่นิยมเดินทางมาประเทศไทยมากที่สุดในปี 2567 ได้แก่สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา รัสเซีย เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ สเปน สวีเดน โดยนักเดินทางจากประเทศฝรั่งเศส มีอัตราการเติบโตสูงสุด มีจำนวนคืนที่จองห้องพักเพิ่มขึ้นกว่า 70% ปี ในปี 2567 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการที่สอดคล้องกับเป้าหมายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงจากตลาดระยะไกล ซึ่งในปี 2567 Airbnb พบว่าการเข้าพักระยะยาว (28 คืนขึ้นไป) ของนักท่องเที่ยวจากประเทศตลาดระยะไกลในประเทศไทย เพิ่มขึ้นมากกว่า 25% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า** แนวโน้มนี้สะท้อนถึงความต้องการในการเข้าถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น และมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีความหมายมากขึ้น
โดย นายอมันพรีท กล่าวต่อว่า ด้วยแนวโน้มการท่องเที่ยวทั่วโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด จากสถิติที่นักเดินทางจากกลุ่มตลาดระยะไกลเลือกเดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้น ไม่ใช่เพียงเพื่อการพักผ่อนเท่านั้น แต่เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และสัมผัสประสบการณ์ที่มีความหมาย เมื่อผู้คนมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แท้จริงนอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวทั่วๆ ไป
ดังนั้นทาง Airbnb จึงมองเห็นโอกาส ในการกระจายการท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ใหม่ๆ เพื่อให้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจเข้าถึงชุมชนท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น โดยนักท่องเที่ยวระยะไกลเหล่านี้ยังมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านการเข้าพักระยะยาวและการมีส่วนร่วมกับชุมชนอย่างแท้จริง
ตลาดระยะไกลเพิ่มขึ้น
ขณะที่ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงผลการประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 14 - 20 กรกฎาคม 2568 พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 20 ก.ค. 68 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาสะสมแล้วกว่า 18 ล้านคน สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการท่องเที่ยวในช่วง Summer holiday นั้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มตลาด ทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) และนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 70.26 และขยับขึ้นมาเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาเป็นอันดับที่ 5 จากเดิมในอันดับที่ 15 ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์นี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 611,596 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 40,849 คน หรือร้อยละ 7.16 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 87,370 คน
โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน (98,081 คน) มาเลเซีย (81,584 คน) อินเดีย (46,378 คน) เกาหลีใต้ (29,347 คน) และญี่ปุ่น (22,042 คน) มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าร้อยละ 70.26 ร้อยละ 22.47 ร้อยละ 8.80 และร้อยละ 6.48 ตามลำดับ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย มีการปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าเล็กน้อย
ส่วน นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ว่า ภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงวันที่ 1 มกราคม-13 กรกฎาคม 2568 อยู่ที่ 17.75 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ราว 5.62% แม้ในช่วงเดือนมกราคมจะมีตัวเลขนักท่องเที่ยวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในหลายตลาด แต่หลังจากนั้นกลับชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่ถือว่าได้รับผลกระทบหนักที่สุด