กัณวีร์ เตรียมนำหลักฐาน กัมพูชาโจมตี พลเรือนและโรงพยาบาลเสนอคณะกรรมาธิการ IHL-IPU
วันที่ 27 ก.ค.68 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในฐานะคณะกรรมาธิการด้านการส่งเสริมการเคารพต่อกฏหมายระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรมของสหภาพรัฐสภาโลก IHL-IPU
นายกัณวีร์ กล่าวว่า การโจมตีของกัมพูชาพบว่ามีสถานพยาบาล 19 แห่งได้รับผลกระทบต้องปิด และได้รับความเสียหายจากการโจมตีด้วยเครื่องยิงระเบิด BM-21 ซึ่งล่าสุดเกิดระเบิดที่โรงพยาบาลส่งเสริมส่วนตำบลแห่งหนึ่ง ที่ชายแดน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับความเสียหาย ตนจึงต้องการมาเก็บข้อมูล เพื่อนำเสนอเรื่องนี้ต่อคณะกรรมาธิการฯ IHL-IPU ที่จะมีการประชุมในเดือน ตุลาคมนี้ที่เจนีวา เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศว่าด้วยมนุษยธรรมอย่างชัดเจน
“กฏหมายระหว่างประเทศว่าด้วยมนุษยธรรม IHL เป็นกฏหมายที่ใช้ในภาวะสงคราม เป็นกฏหมายจารีตประเพณีที่ต้องเคารพ โดยเฉพาะพื้นที่โรงพยาบาล ไม่สามารถโจมตีได้ เข้าข่าย Indiscriminative Attacks ที่ต้องไม่เจาะจงเป้าหมายพลเรือนที่ไม่ใช่ทหาร เป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายระหว่างประเทศ ไม่รวมสนธิสัญญาเจนีว่า ที่เกี่ยวข้อง ผมจะนำเรื่องนี้เสนอ กมธ.IHL ที่ผมนั่งอยู่ใน IPU ที่จะประชุมในเดือน ต.ค.นี้ที่เจนีวา”
นายกัณวีร์ กล่าวถึงการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ UNSC ที่ให้สองประเทศไปหารือในกรอบทวิภาคี ตนคิดว่าคงไม่ได้ผล เพราะสถานการณ์ขณะนี้ประชาคมโลกต้องให้ความสำคัญ อย่างที่ตนจะนำเรื่องนี้เสนอต่อสหภาพรัฐสภาโลก ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งเพื่อแสดงให้เห็นว่าจะต้องไม่พุ่งเป้ากับพลเรือน
“ผมเชื่อมั่นว่าการพูดคุยทวิภาคีใช้ไม่ได้ เราต้องคุยในระดับพหุภาคี กรอบทั้งหมด UNGA ยังไม่ได้ใช้มาก ต้องล็อบบี้พูดคุยกับประเทศที่เกี่ยวข้อง ทางกลุ่มสหภาพยุโรป สามารถพูดคุยได้ จำเป็นต้องมาเกี่ยวข้อง ผลกระทบจากการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพุชา ลาวก็ยกมาได้ เราต้องคุยในกรอบพหุภาคีอย่างฉลาด ไม่ใช่อยู่ในประเทศไทย แม้ในทางการยุทธวิธียังต้องทำ แต่เราต้องหยุดสงครามเผชิญหน้า เพราะกระทบประชาชนทั้งสองฝั่ง ทุกคนต้องอพยพทั้งสองฝั่ง คนที่กระทบมีกว่า 3 แสนกว่าคน จะให้ทหารเผชิญหน้าต่อไปไม่ได้ “
ส่วนกรณีจะยื่นฟ้องกัมพูชาในฐานะอาชญากรสงครามได้หรือไม่ นายกัณวีร์ กล่าวว่า สามารถทำได้เพราะเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม Criminal war คนสั่งการต้องถูกดำเนินคดี ไทยสามารถใช้ช่องทางศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ได้ในการดำเนินคดีกับปัจเจกชน เราฟ้องร้องคนที่ก่อสงครามครั้งนี้
นายกัณวีร์ ยังกล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่ให้นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเดินทางกลับไทยก่อนการประชุม UNSC เพราะเป็นคนสำคัญ เรายืนยันว่าไม่ได้แสวงหาสงคราม เราต้องการยุติสงคราม เพราะสงครามไม่ได้นำมาซึ่งสันติภาพ การแสดงความเคารพซึ่งกันและกันต่างหากที่นำมาซึ่งสันติภาพ
นายกัณวีร์ กล่าวด้วยว่า ไทยต้องนำเงื่อนไขอื่นมากดดันกัมพูชาด้วย อย่างที่เคยเสนอไปไม่ว่าจะเป็นการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ International crime ทั้งจากกรณีสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ และมีการกดปราบข้ามชาติ จากกรณีการผลักดันผู้ลี้ภัยกัมพูชา ต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์การต่างประเทศให้สมดุล
นายกัณวีร์ ยังให้กำลังใจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ.ที่อยู่เฝ้าพื้นที่ พร้อมทั้งระบุว่าการลงพื้นที่ดูจุดความเสียหายเป็นช่วงที่ไม่มีการโจมตีและปลอดภัย นอกจากนี้นายกัณวีร์ ยังกล่าวถึงการโจมตีมายังปั๊มน้ำมัน จนทำให้มีประชาชนเสียชีวิต 7 คน เป็นเด็กและเยาวชน 4 คน เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศ ขอแค่ความเป็นมนุษย์ก็ไม่สมควร การเลือกเอาพลเรือนเป็นเป้าหมายในการโจมตี
“ถ้าทำขนาดนี้ได้หมดสิ้น แสดงว่าคุณไร้ซึ่งเหตุผลและตรรกะในการปฏับัติการทางการทหาร รับไม่ได้” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ