น่ากังวล!ปักกิ่งโวยสื่อตะวันตกพยายามโยงศึกกัมพูชา-ไทย เป็นสงครามตัวแทนจีน-สหรัฐฯ

สื่อของรัฐบาลจีนนำเสนอรายงานในวันจันทร์(28ก.ค.) ตำหนิสำนักข่าวของสหรัฐฯต่อความพยายามให้คำจำกัดความความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ในฐานะเป็นสงครามตัวแทนระหว่าง "วอชิงตันกัปักกิ่ง" พร้อมกับเขียนเข้าข้างไทยหน่อยๆ ระบุแผนที่ของพวกนักล่าอาณานิคมไม่ควรถูกใช้เป็นคำตัดสินสุดท้ายในประเด็นด้านเขตแดน

โกลบอลไทม์ส รายงานว่าความตึงเครียดที่ปะทุขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ตามแนวชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา เรียกความสนใจจากนานาชาติ ขณะที่จีนจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเดินหน้าประสานงานเจรจาสันติภาพ แสดงออกถึงสำนึกแห่งความรับผิดชอบตามที่คาดหมายจากมหาอำนาจหนึ่งๆ

ไทยและกัมพูชาต่างเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของจีน และเป็นสมาชิกสำคัญของอาเซียน เสถียรภาพของทั้ง 2 ประเทศมีความสำคัญยิ่งต่อสันติภาพในภูมิภาค ความตึงเครียดในปัจจุบันตามแนวชายแดนได้ก่อความสูญเสีย การปิดชายแดนสร้างความปั่นป่วนแก่การค้าและวิถีชีวิตประจำวันของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ รายงานระบุ

รายงานของโกลบอลไทม์สระบุว่าเสียงปืนใหญ่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นสิ่งเตือนอย่างชัดเจนเกี่ยวกับภาระทางประวัติศาสตร์ที่หลายประเทศในเอเชียต้องแบกไว้ บางชาติเพื่อนบ้านในเอเชียมีข้อพิพาททางเขตแดนหรือไม่ก็ทางทะเล ส่วนใหญ่มีรากเหง้าจากการถูกรุกรานในยุคล่าอาณานิคมและความแตกแยก ซึ่งความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา อาจเท้าความย้อนกลับไปในยุคขยายอาณานิคมของฝรั่งเศส โดยที่หลายประเด็นในทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ยังคงไม่ได้รับการคลี่คลาย

ส่วนสำคัญในรายงานของโกลบอลไทม์ส ระบุว่าสิ่งที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่งก็คือการที่สื่อมวลชนสหรัฐฯบางแห่ง พยายามให้คำนิยามความขัดแย้งในระดับภูมิภาคนี้ ภายใต้เรื่องเล่าเกี่ยวกับความเป็นคู่อริระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ยกตัวอย่างเช่นให้คำจำกัดความไทย ในฐานะ "พันธมิตรที่ติดอาวุธครบครันของสหรัฐฯ" และให้คำนิยามกัมพูชาว่าเป็น "ศัตรูที่อ่อนแอที่มีความเชื่อมโยงกับจีน" ซึ่งเป็นการจงใจตอกย้ำความเป็นปรปักษ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯและโหมกระพือความตึงเครียด

เรื่องเล่าเหล่านี้เพิกเฉยต่อรากเหง้าของข้อพิพาทในยุคอาณานิคม พาดพิงบริบททางประวัติศาสตร์แบบผ่านๆ และเน้นย้ำความสนใจส่วนใหญ่แบบไม่สมส่วนไปที่การเปรียบเทียบขุมกำลังด้านการทหาร รายงานข่าวดังกล่าวก่ออันตรายซ้ำเติมประเด็นปัญหาซับซ้อนในภูมิภาค ด้วยการพยายามวาดภาพความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็น "ความขัดแย้งตัวแทน" ระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจ ตามรายงานของโกลบอลไทม์ส

โกลบอลไทม์ส ระบุว่ารายงานข่าวของสื่อมวลชนสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อเรียกยอดคลิกและเพิ่มเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ อย่างไรก็ตามมันบิดเบือนความเข้าใจของโลกที่มีต่อความขัดแย้งนี้อย่างร้ายแรง เรายังคงต้องระแวดระวังไม่ให้ความขัดแย้งในระดับภูมิภาค เข้าสู่การเผชิญหน้าทางอุดมการณ์ในระดับโลก และคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการฉวยประโยชน์โดยกองกำลังภายนอกใดๆ ที่อาศัยประเด็นปัญหาต่างๆเข้าแทรกแซงกิจการของเอเชีย

รายงานข่าวระบุว่าสำหรับบรรดาชาติเอเชียแล้ว การคลี่คลายประเด็นด้านชายแดนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการอย่างกว้างขวางในการหลุดพ้นจากมรดกยุคล่าอาณานิคม และประวัติศาสตร์การช่วงชิงอำนาจทางภูมิรัฐศาสตร์ของบรรดามหาอำนาจ แผนที่ของพวกนักล่าอาณานิคมไม่อาจถูกใช้เป็นคำตัดสินสุดท้าย จีนยึดถือจุดยืนที่เป็นกลางมาตลอด สนับสนุนแก้ไขข้อพิพาทต่างๆอย่างสันติผ่านการเจรจาและปรึกษาหารือ แนวทางนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วในทางปฏิบัติ เนื่องจากจีนคลี่คลายประเด็นแนวเขตแดนได้แล้วกับ 12 จาก 14 ชาติประเทศเพื่อนบ้าน

ชายแดนควรถูกใช้เป็นสะพานแห่งความร่วมมือ ไม่ใช่เป็นแนวหน้าแห่งการเผชิญหน้า จนกว่าความขัดแย้งคลี่คลาย ควรให้ความสำคัญในลำดับต้นๆกับการพัฒนา จัดการความเห็นต่างและป้องกันความตึงเครียดลุกลามส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์อย่างกว้างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนและความก้าวหน้าทางเศราฐกิจ ทางออกของความขัดแย้งควรถูกรวมเข้ากับการพัฒนาในระดับภูมิภาค แทนทีการเผชิญหน้าด้วยความร่วมมือ รายงานระบุ

โกลบอลไทม์ส ปิดท้ายว่า มีเพียงการเดินหน้าความร่วมมือและไว้วางใจกันอย่างลึกซึ้ง ที่สามารถคลี่คลายประเด็นพิพาทด้านภาระแห่งอำนาจอธิปไตย เปิดทางสำหรับโครงสร้างความมั่นคงระดับภูมิภาคที่มีประสิทธิภาพ และท้ายที่สุด การพูดคุยสันติภาพระหว่างไทยกับกัมพูชา จะเป็นตัวส่งเสริมสันติภาพที่ยั่งยืนและความรุ่งเรืองในเอเชีย

(ที่มา:โกลบอลไทม์ส)

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO