โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ผบ.ทหารสูงสุด อยากเห็นลดกำลังเผชิญหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมถอนอาวุธระยะไกล

ไทยโพสต์

อัพเดต 13 กรกฎาคม 2568 เวลา 3.05 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ผบ.ทหารสูงสุด อยากเห็นการลดกำลังเผชิญหน้าชายแดนไทย- กัมพูชา พร้อมถอนอาวุธระยะไกลกลับไปในจุดเดิมเมื่อปี 2567 ย้ำไทยไม่เคยปิดด่าน แค่ควบคุมเวลา ชี้โจทย์เจรจาต้องเปิดด่านพร้อมกัน 8 โมงเช้า-6โมงเย็น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
12 กรกฎาคม 2568 - เวลา 13.30 น. ที่ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน กับประเทศเพื่อนบ้าน (ผอ.ศอ.ปชด.) ให้สัมภาษณ์ กรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า วานนี้ 11ก.ค.68 พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เผยกับตนว่า ปัจจุบันมีการพูดคุยกันและติดต่อกันมากขึ้นในระดับทหาร มีการลาดตระเวนร่วมกันสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ซึ่งเราก็เห็นชอบด้วย
และจุดยืนของประเทศไทย ยังคงเหมือนเดิม คือ "1.การรักษาอธิปไตยของชาติ ที่เป็นสิ่งที่เราครอบครองมาอย่างยาวนาน ตามแผนที่ปฏิบัติการของเรา 2.อยากให้มีการพูดคุยแบบทวิภาคีต่อไปในอนาคต ทั้งการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ที่มีแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธาน, การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC ที่มี กระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน เมื่อมีการพูดคุยกัน สิ่งที่เราอยากเห็นคือการลดกำลังเผชิญหน้า อย่างกำลังที่เสริมเข้ามาในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะกำลังอาวุธระยะไกล ซึ่งเราอยากเห็นให้กลับไปเหมือนปี 2567 คือใครมีกำลังเท่าไหร่ ก็ให้กลับไปมีเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศ
พลเอก ทรงวิทย์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนอยากเห็นการเปิดด่านเพื่อให้การค้าขายและการเดินทางข้ามแดนสะดวกมากยิ่งขึ้น ยืนยันว่า ที่ผ่านมา เราไม่เคยปิดด่าน เพียงแต่เราจะเป็นตั้งแต่ เวลา 08:00น. ถึง 16:00น. แต่ทางกัมพูชาปิดด่านตลอดแนว / ดังนั้น การเจรจา เปิดด่าน เราควรเปิดพร้อมกันดีหรือไม่ ตั้งแต่ 08.00น. ถึง 18.00น. เพื่อให้การจราจรสามารถสัญจรไปมาได้ ที่ผ่านมาประเทศไทยใช้หลักมนุษยธรรม มีผู้เจ็บปวดที่ต้องการข้ามมาฝั่งไทย มีเด็กนักเรียนที่ตัองข้ามมาเรียนหนังสือฝั่งไทย ย้ำว่า เรายังคงเปิดให้เข้ามาเหมือนเดิม เพราะเชื่อว่าการศึกษาจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คนทั้ง 2 ประเทศ มีความสัมพันธ์กันได้ โดยมีเป้าประสงค์เพื่อต้องการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และทำให้เกิดความสงบตามแนวชายแดน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

แม่ทัพภาคที่ 2 เตรียมพบเด็กช่างอุเทนถวาย มอบ ‘บลูบังเกอร์’ นวัตกรรมฐานปฏิบัติการเคลื่อนที่

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

6ทีมลูกยางตัวตึง เข้าสู่รอบคัดเลือกรอบ2 ‘วอลเลย์บอล นักเรียนหญิง แชมป์กีฬา7HD’

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

"บิ๊กอ้วน" ย้ำ รมต.ทุกท่าน ให้เร่งพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงที่จะเกษียณอายุราชการ พร้อมตั้งค่าวัดผลงาน 3 เดือนต้องเห็นผล

สวพ.FM91

ยอดจดทะเบียนธุรกิจทัวร์พุ่งกว่า 14% รัฐบาล เตือนเลี่ยงใช้บริการทริปเถื่อน เสี่ยงถูกหลอก-ไม่ปลอดภัย ย้ำใช้บริการจากผู้มีใบอนุญาตเท่านั้น

สวพ.FM91

กกต.โต้ข่าวลือ คดีฮั้ว สว. ยังอยู่ขั้น 1 รวบรวมพยานหลักฐาน ยันไม่มีเข้า กกต.ชุดใหญ่ 14 ก.ค.นี้

สยามรัฐ

อนุฯ กกต. สรุปคดีฮั้วเลือก ส.ว. เสนอฟ้อง 229 ราย เตรียมชง กกต.ชุดใหญ่ 14 ก.ค.

สยามรัฐ

'ทวี' รมต.ยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ลุยปราบปรามยาเสพติดจริงจัง ด้านผู้นำศาสนาร่วมใจต้านพืชกระท่อมในปัตตานี

VoiceTV

กกต.แจงยังไม่สรุปสำนวน ฮั้ว สว. อนุฯขยายเวลาไต่สวนถึง 17 ก.ค. นี้

ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม