Apple ขาย iPhone ทั้งหมดได้ถึง 3,000 ล้านเครื่องแล้ว
ทิม คุก ผู้ดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Apple ได้เปิดตัวเผยในระหว่างการเรียกประชุมผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 (เมษายน – มิถุนายน) ปี 2025 ระบุว่า ยอดจำหน่าย iPhone ได้เติบโตเป็นเลข 2 หลัก โดยทำรายได้ในไตรมาสดังกล่าวไป 94,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 3.06 ล้านล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2024 และทางบริษัทสามารถทำจำหน่าย iPhone รวมกันทั้งหมดถึงหลัก 3,000 ล้านเครื่องแล้ว
Apple ได้จำหน่าย iPhone ครั้งแรกเมื่อปี 2007 โดยใช้เวลา 9 ปี จึงสามารถทำยอดจำหน่าย iPhone ทั้งหมดถึงหลัก 1,000 ล้านเครื่องเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2016, ใช้เวลา 5 ปี จึงถึงหลัก 2,000 ล้านเครื่อง เมื่อปี 2021 และล่าสุดใช้เวลาน้อยลงมาอยู่ที่ 4 ปี จึงถึงหลัก 3,000 ล้านเครื่อง ในปี 2025 นี้
มาร์ก เกอร์แมน (Mark Gurman) นักข่าวชื่อดังจากสำนักข่าว Bloomberg ที่มักจะรายงานข้อมูลเกี่ยวกับ Apple จากแหล่งข่าวงในที่น่าเชื่อถือ ได้กล่าวว่า ยอดจำหน่าย iPhone ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการที่ผู้คนแห่ซื้ออุปกรณ์ของ Apple ด้วยความตื่นตระหนก (Panic Buy) เนื่องจากมีกระแสข่าวลือในโลกออนไลน์ที่สร้างความหวาดกลัวไปทั่ว อ้างว่า มาตรการภาษีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อาจส่งผลให้ iPhone ในสหรัฐฯ มีราคาสูงขึ้นหลายเท่า ตั้งแต่ 3,000 เหรียญ (ประมาณ 97,600 บาท) ไปจนถึง 25,000 เหรียญ (ประมาณ 813,000 เหรียญ)
Apple should be very pleased with the folks who spread the lies that the iPhone will cost $3000 or $25,000 if made in the U.S. Clearly that helped a ton for the June quarter.
— Mark Gurman (@markgurman) July 31, 2025
Apple ได้ระบุเพิ่มเติมว่า นโยบายภาษีของรัฐบาลทรัมป์ส่งผลให้บริษัทต้อเสียค่าใช้จ่ายถึง 800 ล้านเหรียญ (ประมาณ 26,000 ล้านบาท) ในไตรมาสที่ 2 และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 1,100 ล้านเหรียญ (ประมาณ 35,800 ล้านบาท) ในไตรมาสที่ 3 (ระหว่างเดือนกรกฏาคม – กันยายน) นี้
ทั้งนี้มีรายงานว่า Apple จะเปิดตัวสมาร์ตโฟนซีรีส์ iPhone 17 ในเดือนกันยายนนี้ (อาจเป็นวันที่ 8, 9 หรือ 10) ซึ่งหนี่งในรุ่นที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ iPhone 17 Air ที่คาดว่าจะมาพร้อมบอดีบางเพียง 5.5 มม. ซึ่งมาแทน iPhone ไลน์อัป Plus ที่ไม่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้เท่าไรนัก