กมธ.งบ 69 มีมติเอกฉันท์ ปรับลดงบสภาฯ 178 ล้าน หวั่นถูกร้องเอาผิด ม.144
กมธ.งบ 69 มีมติเอกฉันท์ ปรับลดงบสภาฯ 178 ล้าน ภายใน 3 โครงการ หวั่นถูกร้องเอาผิด ม.144
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 ก.ค.68 ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะรองประธานกมธ.ฯ เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณางบประมาณของหน่วยงานของรัฐสภา
ก่อนการพิจารณา นายจุลพันธ์ แจ้งว่าในส่วนของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มี สส.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีส่วนในการเสนอแปรญัตติหรือการกระทำการใดๆ ที่มีส่วนในทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการพิจารณางบประมาณปี 2569 ของสภาฯ ระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัยดังกล่าว
และเพื่อไม่ให้เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำที่อาจจะฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 จึงขอให้ที่ประชุมพิจารณาปรับลดงบประมาณในส่วนของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ซึ่งเป็นรายการภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์และเสริมสร้างการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผลผลิต การส่งเสริมการประชาสัมพันธ์เพื่อพัฒนาระบอบประชาธิปไตย และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน งบเงินอุดหนุน เงินอุดหนุนทั่วไป ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 178 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 รายการ ได้แก่
1.โครงการพัฒนาศักยภาพเยาวชนและประชาชนในการปกครองระบอบประชาธิปไตย 2.โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ 3.โครงการส่งเสริมบทบาทของเสรีทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยสำนักงบประมาณได้มีหนังสือแจ้งมายังกมธ.ฯ ตนจึงขอปรึกษาหารือกับกมธ.ฯ ทุกท่าน
ด้านนายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะ กมธ.ฯ หารือว่า ในฐานะที่เป็นผู้ร้องศาลรัฐธรรมนูญ ตนมีความกังวลว่าหากเราพิจารณาปรับลดงบประมาณลงในวันนี้ จะมีผลต่อการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 1 ส.ค.หรือไม่
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน. ในฐานะกมธ.ฯ หารือว่า เพื่อให้เพื่อนสมาชิกที่ร้องศาลรัฐธรรมนูญนั้นมีความสบายใจ อย่างน้อยให้สำนักกฎหมายมาช่วยอธิบายและยืนยันได้หรือไม่ หากมีการปรับลดในวันนี้แล้วจะไม่มีผลต่อสถานะคำร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญรับไป
ขณะที่ ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจงว่า มีคำร้องที่เกิดขึ้นใน 2 ช่วงของ กมธ.งบประมาณปี 68 โดยทั้ง 3 โครงการนั้น เกิดจากการแปรญัตติเพิ่มเติมของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ซึ่งดำเนินการในงบประมาณปี 68 สำหรับคำร้องในปี 68 นั้นศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้รับคำร้อง
ส่วนกรณีของปี 69 นั้น สำนักงานเลขาธิการสภาฯ เสนอไปตามกระบวนการตามปกติคือ ต่อเนื่องจากโครงการที่เคยได้รับ ขอเรียนว่ากระบวนการปี 69 ไม่ได้เกิดในชั้นกมธ.ฯ วิสามัญตอนเริ่มพิจารณาร่าง แต่เป็นกระบวนการที่ร้องว่าสำนักงานฯ เสนองบประมาณทั้ง 3 โครงการ เป็นกระบวนการที่ฝ่าฝืนต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 144 หรือไม่ เกิดตั้งแต่ตอนที่สำนักงานฯ มีคำขอไป ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ไปรับคำร้องเพื่อชี้แจง รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญขอเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งเราส่งไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
แต่กมธ.ฯ ยังถกเถียงกันต่อถึงกรณีที่หากลงมติแล้วจะมีผลต่อสถานะคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทำให้ ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ กล่าวว่า ตนในฐานะเลขาฯ ขอถอนทั้ง 3 โครงการออกไป พวกท่านจะได้เดินหน้าต่อไม่ต้องมาเสียเวลา โดยจะทำหนังสือขอถอนโครงการตามมาอีกครั้ง ทำให้นายจุลพันธ์ วินิจฉัยว่า ขอเดินหน้าในการลงมติว่าจะปรับลงงบประมาณในส่วนนี้หรือไม่
จากนั้นที่ประชุมกมธ.ฯ ลงมติ เห็นด้วยให้ปรับลง 45 ไม่เห็นด้วย 0 งดออกเสียง 2 และไม่ประสงค์ลงคะแนน 1 ถือว่าที่ประชุมเห็นด้วยกับการปรับลดงบประมาณ 178 ล้านบาทของสำนักเลขาธิการสภาฯ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กมธ.งบ 69 มีมติเอกฉันท์ ปรับลดงบสภาฯ 178 ล้าน หวั่นถูกร้องเอาผิด ม.144
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th