โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

60 วันอันตราย ชี้ชะตา“แพทองธาร” เดิมพันอำนาจ“เพื่อไทย”

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ในห้วงที่อุณหภูมิการเมืองไทยร้อนแรง จุดเปลี่ยนสำคัญได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เมื่อ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีมติ 7 ต่อ 2 สั่งให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สอง ของพรรคเพื่อไทย หยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นการชั่วคราว เพื่อรอวินิจฉัยคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 36 คน กรณีคลิปเสียงสนทนากับ “ฮุน เซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ถูกกล่าวหาเป็นการกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ

แม้ “แพทองธาร” จะยังคงสถานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมไว้ได้ แต่การถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ก็นำไปสู่การเข้าสู่ช่วง “60 วันอันตราย” ที่จะเป็นตัวชี้ชะตาทางการเมือง

คาดก.ย.ชี้ชะตาแพทองธาร

ขั้นตอนทางคดีเริ่มต้นนับหนึ่งแล้ว โดยศาลรัฐธรรมนูญกำหนดให้ “แพทองธาร” ต้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 หากขอขยายเวลาอีก 15 วัน จะครบกำหนดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568

จากนั้นศาลจะเปิดโอกาสให้ผู้ร้องคือ กลุ่ม ส.ว. ทั้ง 36 ราย ยื่นคำหักล้างกลับมาได้ภายใน 15 วัน โดยจะครบในวันที่ 16 สิงหาคม 2568

หลังจากนั้น ศาลจะพิจารณาคำร้อง คำชี้แจง และ คำหักล้าง หากสิ้นข้อสงสัยทั้งหมด โดยต้องทอดเวลาไปไม่น้อยกว่า 15 วัน รวมขั้นตอนทั้งหมดจะใช้เวลาระหว่าง 45 - 60 วัน ก่อนมีคำวินิจฉัยสุดท้าย ซึ่งมีแนวโน้มจะชี้ขาดในช่วงเดือนกันยายน 2568

สถิติไม่เป็นใจ“นายกฯ ชินวัตร”

ในอดีต ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีบทบาทสำคัญในการ “ถอดถอน”นายกรัฐมนตรี จาก “ตระกูลชินวัตร” มาแล้วหลายครั้ง ไล่ตั้งแต่

“สมัคร สุนทรเวช” คดีรับงานพิธีกรทีวี 2 รายการ “ชิมไป บ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า” พ้นตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2551

“สมชาย วงศ์สวัสดิ์” โดนหางเลขจากการยุบพรรคพลังประชาชน ทำให้ต้องพ้นจากนายกฯ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2551

“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ต้องพ้นจากนายกฯ คดีโยกย้าย “ถวิล เปลี่ยนศรี” ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2557

ล่าสุด “เศรษฐา ทวีสิน” เจอคดีแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรี ทำให้พ้นตำแหน่งนายกฯ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2567

สถิติในอดีตนี้ตอกย้ำว่า ผู้นำ “ตระกูลชินวัตร” เผชิญแรงกดดันทางการเมืองสูงลิ่วในช่วงการดำรงตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นจากการตรวจสอบโดยศาลรัฐธรรมนูญ หรือ การเคลื่อนไหวยุบพรรค

จึงทำให้หลายฝ่ายจับตาว่า “แพทองธาร” อาจตกอยู่ในชะตากรรมไม่ต่างกันหรือไม่?

“ชัยเกษม”พร้อมเสียบ

ในสถานการณ์ที่ความไม่แน่นอนมีสูง “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร และ พรรคเพื่อไทย ไม่ปล่อยให้เกมการเมืองเดินไปอย่างไร้ทิศทาง การออกมาเคลื่อนไหวของ“ชัยเกษม นิติสิริ” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทย กลายเป็นการส่งสัญญาณพร้อมเสียบ หาก “แพทองธาร” ต้องพ้นตำแหน่งจริง

ชัยเกษม ให้สัมภาษณ์สื่ออย่างตรงไปตรงมาว่า “ถ้าจำเป็นก็ได้… แต่ขออย่าให้จำเป็นเลย” ซึ่งเป็นคำพูดที่แฝงนัยทางการเมืองชัดเจนว่า “พร้อม” ทำหน้าที่หากพรรคเรียกใช้

ข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในพรรคเพื่อไทยระบุว่า กลุ่มแกนนำได้หารือกันภายในและประเมินความเป็นไปได้ของทุกทางเลือก ไม่เว้นแม้แต่ “การยุบสภา” หากไม่สามารถรวมเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อโหวตนายกฯ คนใหม่ได้สำเร็จ

พท.เดินเกมพลาดอำนาจหลุดมือ

ก่อนถึงวันตัดสินของศาล การบ้านสำคัญของพรรคเพื่อไทย(พท.) ไม่ใช่แค่การเตรียมคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่รวมถึงการเช็กเสียงในสภาอย่างละเอียด เพราะหาก “พรรคร่วมรัฐบาลเดิม” ยังอยู่ครบ และเสียงไม่แตก การเสนอชื่อ “ชัยเกษม” จะดำเนินการได้รวดเร็ว

แต่หากเกิดแรงกระเพื่อมในพรรคร่วม และเสียงไม่พอ พรรคอาจต้องชิงเปิดเกมใหม่ด้วย “การยุบสภา” เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินครั้งใหม่

ในห้วงเวลา 60 วันข้างหน้า จึงเป็นการเดินเกมทางการเมืองที่ไม่มีพื้นที่สำหรับความผิดพลาด เมื่อ “อำนาจ” ในมืออาจเปลี่ยนขั้วในพริบตา หากก้าวพลาดเพียงก้าวเดียว

การเมืองไทยต่อจากนี้ จึงเหมือน “หมากรุก” ช่วงท้ายกระดาน ทุกฝ่ายต่างจ้องใช้จังหวะชิงอำนาจ ฝ่าย “เพื่อไทย” จึงต้องใช้ทุกกลยุทธ์ ทั้งการเสริมสร้างความเข้มแข็งในสภา และการรักษาเสียงสนับสนุนของประชาชน พร้อมกับระมัดระวังเกมรุกของคู่แข่ง-ฝ่ายแค้น ที่พร้อมจะช่วงชิงอำนาจทุกช่องทาง…

++++++++++++

ครม.ตั้ง“ภูมิธรรม”รักษาการนายกฯ

ครม.มอบ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รักษาการนายกฯ ลำดับที่หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2568 ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้

ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย)

โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้

1.นายภูมิธรรม เวชยชัย (รองนายกฯและรมว.มหาดไทย)

2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ (รองนายกฯและรมว.คมนาคม)

3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (รองนายกฯและรมว.พลังงาน)

4.นายพิชัย ชุณหวชิร (รองนายกฯและรมว.คลัง)

5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง (รองนายกฯและรมว.ดีอีเอส)

ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด
ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตามลำดับ 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี

กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป โดยที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ

รายงานพิเศษ โดย…ทีมข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4111

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

เงินบาทแข็งค่าสุดรอบ 9 เดือนแตะ 32.305 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มยังแข็งค่าต่อ

10 นาทีที่แล้ว

แอร์เอเชีย สั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A321XLR ล็อตใหญ่ 70 ลำ ขยายเครือข่ายทั่วโลก

23 นาทีที่แล้ว

งานเข้า! สหรัฐฯจ่อแบนชิป AI ไทย-มาเลย์ หวั่นเป็นทางผ่านจีน

30 นาทีที่แล้ว

ผลไม้ล้นตลาด "พาณิชย์" ดันมังคุดนครศรีฯ ขึ้นห้าง Tops ทั่วประเทศ ช่วยเกษตรกร

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม