ศุลกากรแถลง จับสินค้าผิดกฎหมายมูลค่ากว่า 88 ล้านบาท ยึดบุหรี่ไฟฟ้า - เครื่องสำอาง - ของละเมิดลิขสิทธิ์เพียบ
ศุลกากรแถลง จับสินค้าผิดกฎหมายมูลค่ากว่า 88 ล้านบาท ยึดบุหรี่ไฟฟ้า - เครื่องสำอาง - ของละเมิดลิขสิทธิ์เพียบ
วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.30 น. ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ได้จัดแถลงข่าวผลการดำเนินงานด้านการปราบปรามการกระทำผิดทางศุลกากร โดยมี นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายพลนชชา จักรเพ็ชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการแถลงข่าว พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมงาน
ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลังในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะสินค้าที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ความปลอดภัยของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ กรมศุลกากรได้ตรวจเข้มในพื้นที่สำคัญ โดยเฉพาะในเขตรับผิดชอบของสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านการนำเข้าและส่งออกสินค้า
ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 สามารถตรวจยึดและจับกุมสินค้าผิดกฎหมายได้เป็นจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 88 ล้านบาท โดยมีรายการของกลางสำคัญ ได้แก่
- บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ จำนวน 120,000 ชิ้น
- บุหรี่ต่างประเทศและบุหรี่ไทย รวมกว่า 2,300,000 มวน
- เครื่องสำอางไม่มีใบอนุญาต 17,000 ชิ้น
- ตู้คีบตุ๊กตา จำนวน 200 ตู้
- สินค้าละเมิดสิทธิ์เครื่องหมายการค้า เช่น กระเป๋า รองเท้า หมึกเครื่องพิมพ์ จำนวนรวมกว่า 9,000 ชิ้น
- สินค้าที่เข้าข่ายความผิดภายใต้อนุสัญญาบาเซล (Basel Convention) จำนวนกว่า 1,300 ตัน
นอกจากนี้ กรมศุลกากรได้ดำเนินการทำลายของกลาง ได้แก่ ตู้คีบตุ๊กตา 189 ตู้ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยใช้วิธีบดทำลาย เพื่อป้องกันไม่ให้หมุนเวียนกลับเข้าสู่ตลาดหรือถูกนำไปใช้ในลักษณะที่ผิดกฎหมายอีก
นายดิเรก คชารักษ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบ AI และเครื่องเอกซเรย์ ในการตรวจสอบตู้สินค้านำเข้า-ส่งออก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย
กรมศุลกากรยังได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายในประเทศ และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด รวมถึงประสานกับตัวแทนเครื่องหมายการค้าภายในประเทศ เพื่อยับยั้งสินค้าละเมิดสิทธิ์ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่สุจริตและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
เครดิต สยามชล นิวส์