4กูรู อสังหาฯ ฝากความหวังผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ จับมือคลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ – แก้หนี้เสีย-ลดดอกเบี้ย-ไม่เดินตามเกมการเมือง

เมื่อวันที่22 กรกฎาคม2568 มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการแต่งตั้ง นายวิทัย รัตนากร เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ผู้ว่าฯธปท.) คนใหม่ นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

ท่ามกลางความท้าทาย โลกโกลาหล กำแพงภาษีตอบโต้ สหรัฐอเมริกา ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจประเทศ เสถียรภาพรัฐบาลเปราะบาง โดยเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ถูกซ้ำเติมซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ฐานเศรษฐกิจ”สอบถาม 4กูรู ทางด้านอสังหาริมทรัพย์ มองสิ่งแรกที่ต้องการเห็นและถือเป็นเรื่องเร่งด่วน ที่ผู้ว่าฯธปท.คนใหม่ ต้องเร่งดำเนินการ กอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจมีอะไรบ้าง

เริ่มจาก นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า เรื่องแรก อยากให้ผู้ว่าฯท่านใหม่ สื่อสารแนวทางดอกเบี้ยอย่างชัดเจน ว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยจะไม่ปรับขึ้น หากไม่มีแรงกดดันเงินเฟ้อ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ ผู้บริโภคที่กำลังจะตัดสินใจซื้อบ้าน นักลงทุนต่างชาติ และ ผู้ประกอบการ

เช่นเดียวกับนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิน นายกสมาคมอาคารชุดไทย ระบุว่าเรื่องเร่งด่วนที่เอกชนอยากเห็น

1. ผู้ว่าธปท. ทำงานร่วมกับ ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขับเคลื่อนนโยบายการเงินและการคลังอย่างสอดคล้องกันรวดเร็วทันต่อการเปลี่ยนแปลง

2.ผลักดันการลดดอดเบี้ยนโยบาย สู่การปรับดอกเบี้ยที่แท้จริง เพื่อลดภาระประชาชนและภาคธุรกิจที่แท้จริง

3.ขับเคลื่อนในการกระต้นเศรษฐกิจเป็นลำดับแรกของความมสำคัญเพื่อแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ควบคู่เสถียรภาพทางการเงิน

4.สร้างการแข่งขันในระบบธนาคารพาณิชย์มากขึ้น ในการปล่อยสินเขื่อ/เงินฝาก ผ่านการเพิ่มผู้เล่นมากขึ้นในระบบธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ

5.การแก้หนี้เสียรายย่อยในระบบร่วมกับคลัง

นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สะท้อนว่า เรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่ผู้ว่าธปท. ต้องดำเนินการคือเศรษฐกิจในภาพรวมท่ามกลางความอ่อนแอของกำลังซื้อแม้เอกชนต้องการลดดอกเบี้ยนโยบาย ผ่านการประชุมกนง.ในนัดถัดไป

มองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะลดดอกเบี้ยนโยบายแต่น่าจะ เป็นระยะสั้นๆ ไปสามารถลงได้มาก เนื่องจากเศรษฐกิจแย่ลง รวมถึงต้องคำนึงถึง การไหลออกของ นักลงทุนต่างชาติ โดยสรุป ต้องเร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ลดภาระหนี้สินผู้กู้ หรือหนี้ครัวเรือน ที่สำคัญ ต้องเจรจากับธนาคารพาณิชย์ให้กล้าปล่อยสินเชื่อสำหรับกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่แท้จริง

สอดคล้องกับ นายสุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษาคุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย ระบุว่า ผู้ว่าธปท.คนใหม่ จำเป็นต้องมีความยืดหยุ่น เป็นกลาง และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ไม่ใช่เข้ามาเพื่อทำตามนโยบายของฝ่ายการเมืองเท่านั้น ซึ่งอาจจะทำให้ประเทศไทยมีปัญหาระยะยาว

ถ้านโยบายที่ออกมาจากธนาคารแห่งประเทศไทยหรือการทำงานโดยไม่คำนึงถึงการสำรองเงินของประเทศ อัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาท และอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยเทียบกับต่างประเทศ เป็นต้น หรือมีแนวทางนโยบายที่ขัดกับฝ่ายการเมือง ซึ่งอาจจะทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ตามที่ต้องการ

การที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่มีแนวทางเร่งลดหนี้ครัวเรือนอาจจะเป็นผลดีต่อกำลังซื้อในภาคธุรกิจต่างๆ ที่จะเพิ่มขึ้นถ้าอัตราส่วนของหนี้ครัวเรือนในประเทศลดลง รวมไปถึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ยืดหยุ่น และมีทิศทางลดลงในช่วงที่เหลือของปีนี้

ซึ่งจะช่วยลดภาระทั้งฝั่งของผู้ประกอบการเจ้าของกิจการ และบุคคลทั่วไป หรืออาจจะมีนโยบายที่สนับสนุนภาคธุรกิจอื่นๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวม หรืออาจจะมีนโยบายบางอย่างที่สอดคล้องกับรัฐบาลในการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมก็เป็นไปได้ แต่สุดท้ายแล้วอาจจะต้องดูหลายๆ ปัจจัยประกอบว่านโยบายใดหรือมาตรการใดของรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ทันที หรือต้องพิจารณาหลายๆ ปัจจัยก่อนการตัดสินใจว่าสามารถทำได้หรือไม่