ทะลุ 1200 จุดแล้ว...หุ้นไปไหนต่อ / สุนันท์ ศรีจันทรา
จากภาวะซบเซาตกต่ำ และมีแนวโน้มว่า ดัชนีหุ้นจะทรุดลงสร้างจุดต่ำสุดใหม่ แต่ตลาดหุ้นกลับฟื้นคืนสู่ความคึกคัก กลับสู่ขาขึ้นรอบใหญ่ โดยเพียงประมาณ 3 สัปดาห์ ดัชนี ฯ ดีดตัวขึ้นมาประมาณ 150 จุด ทะลุแนวต้าน 1200 จุดโดยไม่ต้องรอหรือต้องลุ้นกันแต่อย่างใด
ดัชนี ฯ วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปิดลงที่ระดับ 1206.58 จุด โดยขยับขึ้นมาจากระดับ 1050 จุด และการพุ่งทะยานมาไกลจนถึงวันนี้ได้ เนื่องจากหลายเหตุปัจจัยหนุนที่ผสมปนเปเข้ามา
ราคาหุ้นที่ลงมาต่ำมาก อาจสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาช้อนซื้อ และต่างชาติก็กลายเป็นกองหนุนสำคัญที่จุดพลุไล่ราคาหุ้นขึ้นมา ขณะที่นักลงทุนมีความคาดหมาย การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน ซึ่งอาจนำไปสู่การแก้ปัญหาของประเทศในทิศทางที่ดีขึ้น
และมีความคาดหวัง การเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐ โดยล่าสุด นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกทาเปิดเผยว่า การเจรจาระหว่างทีมไทยแลนด์กับผู้แทนการค้าสหรัฐ เป็นไปในบรรยากาศที่ดี และฝ่ายสหรัฐพอใจในข้อเสนอของไทย โดนคาดหวังว่า อัตราภาษีสินค้าจากประเทศไทยที่ส่งออกไปสหรัฐ จะเสียภาษีในอัตราไม่เกิน 20% จากเดิมที่ถูกเรียกเก็บในอัตรา 36%
อินโดนีเซีย เจรจาต่อรองจนถูกเรียกเก็บภาษี 19% จากเดิม 32% แลกกับการเก็บภาษี 0% สินค้าสหรัฐที่นำเข้าไปอินโดนีเซีย พร้อมซื้อพลังงานมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ ซื้อสินค้าการเกษตรอีก 4,500 ล้านดอลลาร์ และซื้อเครื่องบินโบอิ้งอีก 50 ลำ
เวียดนาม จากเดิมถูกเรียกเก็บภาษีสินค้าที่ส่งไปยังสหรัฐในอัตรา 46% แต่ต่อรองเหลือ 20% และกับการเปิดตลาดให้สินค้าจากสหรัฐเข้าไปขายโดยไม่เสียภาษี
ประเทศไทยมีข้อเสนอที่จูงใจเพียงใด ในการต่อรองให้สหรัฐ ลดภาษีสินค้าอยู่ในระดับ 20% เท่าเวียดนาม หรือเท่าอินโดนีเซีย ซึ่งนักลงทุนในตลาดหุ้นกำลังรอลุ้นด้วยความระทึก
เพราะอัตราภาษีที่เจรจาต่อรองจนได้บทสรุปสุดท้าย เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายของแนวโน้มตลาดหุ้นไทย โดยมีฐานอัตราภาษีการค้า 20% เป็นตัวตั้ง ถ้าทีมไทยแลนด์สามารถเจรจาต่อรองได้ในอัตรา 20% หรือต่ำกว่า ดัชนี ฯ หุ้นก็มีโอกาสไปต่อ ไม่หยุดอยู่ที่ระดับ 1200 จุด
แต่ถ้าต้องจ่ายภาษีสูงกว่า 20% จะเป็นข่าวร้าย และฉุดให้ดัชนี ฯ ถอยหลัง หลุดจากระดับ 1200 จุดลงมาอีกครั้ง
ก่อนวันที่ 1 สิงหาคมนี้ การเจรจาต่อรองภาษีการค้าสหรัฐจะต้องสรุป เพราะถ้ายังไม่มีบทสรุป ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศแล้ว จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศไทย 36% ซึ่งการส่งออกจะเกิดความปั่นป่วนทันที
เหลือเวลาอีก 10 วัน ในการหาบทสรุปการเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนทั้งตลาดหุ้น กำลังเฝ้าจับตารอคอยด้วยความระทึก เพราะไม่อาจคาดเดาตัวเลขภาษีการค้าได้ว่า เจรจาตกลงกันที่อัตราใด และส่วนใหญ่ไม่มั่นใจว่า ประเทศไทยจะสามารถต่อรองได้อัตราภาษีในระดับเดียวกับเวียดนามหรืออินโดนีเซีย
เพราะไทยไม่สามารถยื่นข้อเสนออัตราภาษี 0% ให้สินค้าสหรัฐในทุกรายการได้
นักลงทุนที่รอมานาน รอหุ้นขึ้น รอจังหวะที่ดีในการขายหุ้น และกังวลในความเสี่ยง หากไทยถูกเรียกเก็บภาษีเกิน 20% ได้ทยอยขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมแล้วขอขึ้นรอบนี้ “ปล่อยหุ้น” ออกมาประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิด และเป็นการลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนการเจรจาภาษีการค้า
ดัชนี ฯ หุ้นที่ทะลุขึ้นมายืนเหนือ 1200 จุดแล้ว ถ้าจะไปต่อ ต้องมีต่างชาติเป็นกองหนุน เข้ามาไล่ซื้อหุ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือมีข่าวดีชิ้นใหญ่
การเจรจาการค้าบรรลุเป้าหมาย อัตราภาษีที่ต้องจ่ายให้สหรัฐอยู่ในระดับ 20% หรือต่ำกว่า
ถ้าต่างชาติไม่เข้มาช่วยเป็นกองทุน หยุดซื้อหุ้น ภาษีการค้าจบลงโดยไทยต้องจ่ายในอัตราสูงกว่า 20%
ดัชนี ฯ ที่เพิ่งทะลุ 1200 จุดมาหยก ๆ อาจยืนไม่อยู่ และปักหัวลงมาใหม่
ในช่วงลุ้นระทึกสำหรับการรอคอยบทสรุปภาษีการค้ากับสหรัฐ จึงเป็นอีกช่วงเวลาสำหรับนักลงทุนที่จะตัดสินใจว่า
หุ้นที่มีอยู่เต็มพอร์ต จะแบ่งขายออกมาบ้าง หรือ “ถือ” ต่อ ขอสู้ตายกับภาษีการค้าที่จะมีคำตอบในอีก 10 วันข้างหน้า
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO