กราบเท้าขอโทษมี หลังตีเมียหัวแตกเพราะเรื่องเงิน

(19 ก.ค. 68) เวลา 17.00 น. ขณะที่ ร.ต.อ.พงษ์พล ผิวผ่อง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุผัวเมียทะเลาะกัน ผัวใช้มีดฟันหัวเมียได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี จึงนำกำลัง พร้อมด้วยรถกู้ชีพ อบต.เชียงพิณ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์โฮม 1 ชั้น พบ น.ส.เกษแก้ว อายุ 52 ปี ภรรยานั่งอยู่หน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ตรวจบาดแผลที่ศีรษะ พบมีบาดแผลแตกยาวประมาณ 3 ซม. จำนวน 1 แผล ส่วนสามีที่ก่อเหตุคือ นายพรดี อายุ 48 ปี ซึ่งมีอาการมึนเมา นั่งอยู่ภายในบ้าน ตำรวจได้นำตัวออกมาพร้อมกับมีดตะขอด้ามยาวใช้สำหรับตัดอ้อย ที่ใช้ทำร้ายเมียออกมาด้วย ซึ่ง น.ส.เกษแก้วฯ ผู้เป็นเมีย บอกว่าทะเลาะมีปากเสียกัน แล้วโดนนายพรดีฯ สามีตน ใช้มีดตะขอฟันหัว แต่นายพรดีฯบอกว่าไม่ได้ฟัน แค่เอาสันมีดเคาะหัวเมียเท่านั้น แต่เคาะแรงไปหน่อย

น.ส.เกษแก้ว เล่าว่า อยู่กินฉันสามีภรรยามาประมาณ 30 กว่าปี ไม่มีลูกด้วยกัน พวกตนทำงานก่อสร้าง นายพรดีเป็นช่างปูกระเบื้อง ส่วนตนทำงานก่อสร้าง วันนี้หลังเลิกงานกลับมาบ้าน ได้ดื่มเหล้าขาวแก้เหนื่อยกัน พอเหล้าหมดนายพรดี ได้เข้าครัวทำอาหารเย็น แต่อยากกินเหล้าต่อ จึงมาขอเงินกับตนไปซื้อเหล้า แต่ตนไม่มีเงิน เพราะว่าเงินค่าแรงยังไม่ออก ประมาณ 1 พันกว่าบาท ก็บอกให้สามีอดทนเอาไว้ก่อน ทำให้สามีไม่พอใจ และมีปากเสียงทะเลาะกัน สามีไม่พอใจได้ใช้มีดตะคอมาฟันที่หัวตนจนแตก

ส่วนนายพรดี ผู้เป็นสามี ให้การว่า ตนทำงานก่อสร้าง เป็นช่างปูกระเบื้อง หลังทำงานเสร็จก็กลับบ้านกับเมีย และกินเหล้าขาวแก้เหนื่อยด้วยกัน เสร็จแล้วตนเข้าไปก่อไฟจะทำกับข้าวให้เมียกิน แต่เมียถามเอาเงินค่าแรงจากตน แต่เงินค่าแรงของตนยังไม่ออก เพราะผู้รับเหมายังไม่จ่าย ตนมีเงินแค่ 200 บาท เงินเหลือน้อย จึงไปซื้อกับข้าวมาทำกินก่อน เมียจึงโวยวายจะเอาเงิน ถามเอาแต่เงินค่าแรงของตนตลอด ตนโมโหจึงเอามีดเคาะหัวเท่านั้น ไม่ได้ฟัน ถ้าตนฟันคอเมียคงจะขาด แต่หัวเมียแตกเพราะตนเคาะแรไปหน่อย จึงเป็นเรื่อง

พอทั้งสองคนอารมณ์เย็นลง ตำรวจจึงนำทั้งสองมาไกล่เกลี่ยปรับความเข้าใจกัน ให้คืนดีกัน เพราะทั้งสองต่างโทษกันไปมา เพราะเมาเหล้า หนักนิดเบาหน่อยก็ควรให้อภัยกัน ค่อยพูดค่อยจากัน ถ้าเงินค่าแรงสามีออกมา ก็ให้นำมาให้เมียใช้จ่ายภายในครอบครัว

ส่วนเมียก็รู้ว่าผัวทำงานรับจ้างเงินค่าแรงยังไม่ได้รับ ก็ให้อดทนรอ อย่าใช้อารมณ์ใส่กัน ด่าทอกัน อยู่ด้วยกันมานานหลายสิบปีแล้ว ให้ทั้งสองอดทนกันทั้งสองฝ่าย แล้วให้นายพรดีเข้าไปกอดและหอมขอโทษเมีย แต่เมียยังโกรธ จึงไม่ให้อภัย แต่ต่อมาเมียใจอ่อนให้อภัย แต่สั่งให้ผัวต้องกราบเท้าก่อน ซึ่งนายพรดีก็ยอม แล้วนั่งลงไปนับนิ้วเท้าเมีย 2 ข้าง รวมได้ 10 นิ้ว แล้วก็กราบลง 10 ครั้ง พร้อมกับขอเมียอย่าด่าทออีก เมียจึงใช้มือตบหัวสามี 4 ครั้ง เนื่องจากยังโมโหและโกรธอยู่ แต่ก็ให้อภัยสามี ไม่ได้ไปแจ้งความดำเนินกับสามีในคดีทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.เชียงพิณ ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำผู้เป็นภรรยาไปเย็บที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ส่วนนายพรดี ผู้เป็นสามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวมาโรงพัก เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “เมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย” ควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป