โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“ดอกบัว -ไม้ลำไย”แปรรูปเส้นใยสิ่งทอแก้ปัญหาขยะแฟชั่น

เดลินิวส์

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • เดลินิวส์
กระบวนการผ […]

กระบวนการผลิตของฟาสต์แฟชั่น (Fast fasion) ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 10 เปอร์เซนต์ของการปล่อยมลพิษ เนื่องจากอุตสาหกรรมแฟชั่นใช้น้ำมากถึง 93 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ทั้งกระบวนการฟอก การย้อม การเคลือบเส้นด้ายต่างๆ ก่อให้เกิดน้ำเสีย20 % ขณะที่ปริมาณขยะสิ่งทอ ( Textile Waste ) ทั่วโลกมีถึง 92 ล้านตันต่อปีของขยะสิ่งทอที่ถูกสร้างขึ้นทั่วโลก โดยฟาสต์แฟชั่น มีสัดส่วนสร้างมากที่สุด

งาน CU Innovation & IP Expo 2025 ที่นำเสนอผลงานที่ได้รับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญากจากคณาจารย์ นักวิจัย นิสิตและนวัตกร ได้นำเสนอนวัตกรรมสิงทอชีวภาพสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืนตามแนวเศรษฐกิจสร้างสรรค์ล้านนา สำหรับกลุ่มไมโครเจนเนอเรชั่น ซิลเลนเนียลส์

นวัตกรรมการพัฒนาเส้นใยบัวหลวงผ่านกระบวนการพลาสมา ของ เอกศิษฎ์ มีประเสริฐกุล และศ.ดร.พัดชา อุทิศวรรณกุล จาก ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำมาจัดแสดงในงานนี้

เอกศิษฎ์ เล่าว่า แรงบัลดาลใจจากการคิดค้นนวัตกรรมสิ่งทอตัวนี้ เกิดจากได้เห็นประเพณีโยนบัวรับพระ เป็นงานบุญประเพณีโบราณของชาวอ.บางพลี จ.สมุทรปราการ่จัดขึ้นในช่วงออกพรรษา เพื่อเป็นการสักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อโต โดยประชาชนจะร่วมกันโยนดอกบัวลงในเรือที่อัญเชิญองค์หลวงพ่อโตแห่ไปตามคลองสำโรง เมื่อเสร็จพิธีปรากฎว่ามีขยะดอกบัวจำนวนมากในหนึ่งวันมี 500,000 ดอก จึงจุดประกายให้เกิดไอเดียนำดอกบัวไหว้พระมาเป็นเส้นใยผลิตเสื้อผ้า ประกอบกับช่วงที่เกิดงานวิจัยเป็นช่วงจัดแข่งขันโอลิมปิกในปี 2024 จึงเริ่มต้นด้วยการจัดแสดงนิทรรศการแฟชั่น ในหัวข้อ “ศรัทธา สิ่งทอ” FAITH FABRIC ขึ้น นอกจากตัวเส้นใยที่ได้มาจากวัสดุธรรมชาติแล้วซึ่งถือเป็นวัสดุใหม่ ยังได้ของความศรัทธา เป็นมงคล เพราะดอกบัวที่นำมาใช้คือการดอกบัวที่ไหว้พระมาแล้ว เช่นเดียวกับความเชื่อในอดีตที่นักรบจะออกศึกจะต้องสวมใส่เสื้อยันต์ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ

ทั้งนี้การทำเส้นใยสิ่งทอใช้ก้านบัวมาบดย่อยแล้วนำไปต้ม ขณะที่กลีบบัวจะนำมาต้มแล้วสกัดเป็นสีเพื่อย้อมเส้นด้าย การทำเส้นใยบัวให้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็นชุดกีฬา ใช้เทคโนโลยี "พลาสมา" ทำให้มีคุณสมบัติ "ต้านแบคทีเรีย" ที่คงทนแม้ผ่านการซักล้างหลายครั้ง

ผลการทดสอบพบว่าแม้ซักไปแล้ว 30 ครั้ง คุณสมบัติการต้านแบคทีเรียยังคงสูงถึง 89.08% เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับชุดนักกีฬา ขณะเดียวกันได้ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้เสื้อผ้ามีความยืดหยุ่น ทำให้เสื้อผ้านักกีฬาจากเส้นใยธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นเทียบเท่ากับเส้นใยโพลิเอสเตอร์ที่ผลิตเป็นชุดกีฬาที่เราใส่กันทุกวันนี้

ทั้งนี้จากการเก็บดอกบัวในเทศกาลออกพรรษาเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ตอนนี้มีเส้นใยเป็นตัน เพียงพอที่จะผลิตออกมาเป็นแบรนด์เสื้อผ้าจากเส้นใยธรรมชาติออกสู่เชิงพาณิชย์ได้แล้วในขณะนี้

เอกศิษฎ์ เล่าว่า งานวิจัยนี้เป็นผลงานจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพิ่งได้รับรางวัลจาก วช. (สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ) ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา และได้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดงานดีไซน์ระดับโลกอย่าง Demark และ G-Mark ที่ประเทศญี่ปุ่น สำหรับศักยภาพเชิงพาณิชย์ แม้ขณะนี้จะยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาจากเส้นใยไปสู่การเป็นแบรนด์ซึ่งโรงงานทอผ้าหลายแห่งได้แสดงความสนใจและพร้อมที่จะร่วมมือในการผลิต

อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยมีแนวคิดที่จะติดตั้ง "ถังขยะสีชมพู" สำหรับรับบริจาคดอกบัวตามวัดต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับดอกบัวที่ถูกทิ้ง แ

ผศ. ชโรธรณ์ ทิพย์อุปถัมภ์ อ.คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ ม.นเรศวร นำเสนองานวิจัยเศษไม้ลำไยสร้างเส้นใย มาจัดแสดงในงานนี้ ผศ. ชโรธรณ์ เล่าว่าได้นำ ศษวัสดุทางการเกษตรที่ไร้มูลค่าในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ (NEC) ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน และลำปาง มาสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นเส้นใยสำหรับสิ่งทอ โดยมุ่งเป้าไปที่เศษไม้ลำไยซึ่งเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่มีปริมาณมากที่สุดใน

เศษไม้เหล่านี้เกิดจากการตัดแต่งกิ่งและการแปรรูปไม้ลำไยเป็นเฟอร์นิเจอร์ ทีมวิจัยได้นำเศษเนื้อไม้ลำไยทั้งจากสวนและโรงงานเฟอร์นิเจอร์มาสกัดเป็นผงเนื้อไม้ลำไย จากนั้นนำผงเนื้อไม้ลำไยนี้ไปผสมกับพอลิเมอร์ธรรมชาติ เช่น เส้นยางธรรมชาติ และไบโอพลาสติกชีวภาพ เพื่อผลิตเป็นเส้นใยที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (biodegradable)

ผงเนื้อไม้ลำไยที่สกัดออกมามีคุณสมบัติพิเศษคือมีสาร CMC (Carboxymethyl Cellulose) ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นใย และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับสี ทำให้ได้สีที่สดและชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นเส้นใยที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในกระบวนการผลิต

สำหรับเส้นใยที่ได้ในขณะนี้ซึ่งมีส่วนผสมของยางธรรมชาติเหมาะสำหรับการทำเฟอร์นิเจอร์ กระเป๋า ขณะเดียวกันได้มีการนำเส้นใยจากไม้ลำไยไปทอร่วมกับฝ้าย รวมทั้งมีการเคลือบสารป้องกันแบคทีเรีย ผลจากการทดสอบจากสถาบันสิ่งทอพบว่ามีการระบายอากาศได้ดี

งานวิจัยนี้สอดคล้องกับแนวคิด BCG (Bio-Circular-Green Economy) และ Zero Waste โดยเปลี่ยนเศษวัสดุเหลือใช้ให้เกิดมูลค่า ผงเนื้อไม้ลำไยที่ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการมีคุณภาพเทียบเท่า CMC ในท้องตลาด และพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ 100% ข้อดีของไม้ลำไยคือเมื่อผ่านกระบวนการสกัด เนื้อไม้จะลดลงเพียง 10% เมื่อเทียบกับไม้ชนิดอื่นที่อาจลดลงถึง 90% ซึ่งแสดงถึงความคุ้มค่าและประสิทธิภาพของวัสดุ

ปัจจุบันงานวิจัยเสร็จสิ้นแล้วและกำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์ ซึ่งสามารถต่อยอดเป็นแบรนด์ของตนเอง หรือร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่นที่มีชื่อเสียงเพื่อนำนวัตกรรมเส้นใยนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อผ้า

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...