โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

“มึงรู้หรือเปล่าว่ากูลูกใคร” เบื้องหลังจิตวิทยาการ ‘เบ่งอำนาจ’ เมื่อการอ้างอำนาจ สะท้อนความกลัวในใจ

The Momentum

อัพเดต 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • THE MOMENTUM

“ผมรู้จัก XXX ที่เป็นตำรวจ”

“รู้จักนามสกุลผมไหม”

ประโยคเหล่านี้ฟังดูคุ้นๆ เวลาเห็นข่าวใครบางคนกระทำความผิด แล้วอวดอ้าง ‘อำนาจ’ บางอย่าง เพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากสถานการณ์นั้น หรือใช้อำนาจในมือเพื่อ ‘เปิดทาง’ ให้กระทำบางอย่างโดยไม่ถูกขัดใจ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักเป็นกลุ่มคนที่คิดว่า ตนเองมีอำนาจหรือรู้จักผู้มีอำนาจ

แท้จริงแล้วพฤติกรรมหรือการกระทำดังกล่าว อาจเกิดจากความรู้สึกผิด (Guilt) ซึ่งเป็นหนึ่งในอารมณ์ที่สร้างความกดดันต่อจิตใจมนุษย์เป็นอย่างมาก หลายครั้งมันบั่นทอนความมั่นใจ ทำลายภาพลักษณ์ที่มีต่อตนเอง และทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นเกิดสั่นคลอน

ฉะนั้นแล้วแทนที่จะเผชิญหน้ากับความรู้สึกผิดอย่างตรงไปตรงมา คนจำนวนไม่น้อยจึงเลือกใช้ ‘อำนาจ’ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการอวดอำนาจตนเอง หรืออ้างถึงคนที่มีอำนาจเหนือกว่า ทั้งหมดก็เพื่อ ‘ปกป้อง’ ตนเองจากการถูกตำหนิและหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบนั่นเอง

เช่นนั้นแล้ว ทำไมการ ‘เบ่ง’ อำนาจ หรือการอ้างถึงอำนาจผู้อื่น จึงกลายเป็นกลไกที่หลายคนมักใช้เพื่อเอาตัวรอดจากความรู้สึกผิด

เบี่ยงเบนเพื่อป้องกันตนเอง

เวลาที่คนรู้สึกผิด ก็มักพยายามปกป้องตัวเองจากความรู้สึกไม่สบายใจโดยไม่รู้ตัว แทนที่จะยอมรับผิด กลับ ‘เบี่ยงเบน’ หรือ ‘ฉาย’ ความสนใจไปที่อำนาจของตนเองหรือผู้อื่นแทน มันเลยง่ายที่จะพูดว่า “ผมรู้จัก เสธ.ดิษ เดี๋ยวให้เขามาเคลียร์” แทนที่จะยอมรับว่า “ขอโทษครับ ผมขับรถเร็วเกินกำหนดจริงๆ” วิธีนี้จึงช่วยให้หลีกเลี่ยงความเจ็บปวดทางอารมณ์ แต่ก็ทำให้เราไม่สามารถรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงได้

กลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด

หากลองเปรียบกับที่ทำงาน การเมือง หรือสังคมแบบลำดับชั้น ความรู้สึกผิดนั้นอาจอันตราย เพราะนำไปสู่การลงโทษ สูญเสียสถานะ หรือถูกกันออกไป การอ้างอำนาจจึงเป็นการส่งสัญญาณว่า “ฉันไม่ใช่คนตัวเล็กตัวน้อยที่คุณจะมาทำอะไรได้ง่ายๆ นะ” ซึ่งคำอ้างอำนาจเหล่านี้ จะทำให้คนอื่นไม่กล้าทำอะไรต่อ เป็นวิธีการปกป้องตนเองเพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่มีการ ‘แข่งขันสูง’ หรือ ‘เดิมพันสูง’

รักษาภาพลักษณ์

ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นคือ สิ่งที่ทำลายภาพลักษณ์ในใจของเราเอง คนที่อยากรักษาภาพลักษณ์ว่า ตนเองแข็งแกร่งหรือควบคุมได้ จึงมักรู้สึกถูก ‘คุกคาม’ เมื่อถูกจับได้ว่าทำผิด ดังนั้นการเบ่งอำนาจจึงเป็นการพยายามเรียกคืนสมดุลนั้นและปกป้องอัตตาไว้ บางครั้งเราจึงเห็นคนที่ถูกจับได้ว่าทำผิด แต่กลับอ้างถึงความดี ความสำเร็จของตนเองที่เคยทำมา ไปจนถึงอำนาจหรือสถานะทางสังคม เพื่อกลบความผิดนั้น และช่วยปกป้องความมั่นใจไม่ให้สูญเสียไป

การหาเหตุผลทางศีลธรรม

บางครั้งความรู้สึกผิด ทำให้คนเราสงสัยว่า ตนเองทำ ‘ผิดศีลธรรม’ หรือไม่ และเพื่อบรรเทาความอึดอันนั้น บางคนจึงมองไปที่ผู้มีอำนาจเป็นตัวอย่าง เช่น หากคนที่มีอำนาจกระทำในสิ่งเดียวกัน คนจึงรู้สึกว่า สิ่งที่ตนทำก็ไม่ผิด ซึ่งสิ่งนี้เป็นการสร้าง ‘ความปลอดภัยทางศีลธรรม’ ที่ผิดๆ เป็นการก้าวข้ามความผิดไปโดยที่ไม่ยอมเผชิญหน้ากับมันจริงๆ

การจัดการทางสังคม (Social Manipulation)

ในการอยู่ร่วมสังคม การกระทำผิดอาจทำให้บางคนดูอ่อนแอ และเพื่อแก้สถานการณ์นั้น จึงต้องยกอำนาจของตนเองหรืออำนาจของคนอื่นที่รู้จักขึ้นมา เพื่อข่มให้คนอื่นเงียบ เช่น ลูกนักการเมือง หรือลูกนักธุรกิจพันล้านที่เจอเรื่องอื้อฉาว และเอ่ยชื่อของคนรู้จักที่มีอำนาจในสังคม หรือมีตำแหน่งทางสังคม เพื่อส่งสัญญาณกลายๆ ว่า ‘อย่างมายุ่งกับกู’ ซึ่งนี่คือวิธีเลี่ยงการถูกตรวจสอบโดยใช้อำนาจ แทนที่จะเผชิญหน้ากับความจริง

สรุปแล้วการเบ่งอำนาจหรืออ้างถึงคนมีอำนาจเมื่อต้องเผชิญกับความรู้สึกผิด จึงเป็นได้ทั้งเกราะกำบังทางจิตใจ เพื่อปกป้องตนเอง และเป็นอาวุธทางสังคม เพื่อควบคุมการตอบสนองของผู้อื่น

แต่ไม่ว่าจะอ้างถึงอำนาจที่มีอย่างไร ท้ายที่สุดแล้วความผิดที่เกิดขึ้นก็ไม่เคยหายไปอย่างแท้จริง แม้จะทำให้คนอื่นเงียบได้ แต่เสียงความผิดในใจต่างหากที่จะดังอยู่ตลอด จนกว่าจะได้เผชิญหน้ากับการยอมรับความจริง

ที่มา:

- https://www.verywellmind.com/deflection-as-a-defense-mechanism-7152445

- https://manhattanmentalhealthcounseling.com/understanding-deflection-in-psychology-and-effective-ways-to-respond/

- https://uktherapyguide.com/deflection-in-psychology-what-it-is-why-people-use-it-and-how-to-deal-with-it

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Momentum

ปลดล็อกผู้หนีภัยเมียนมาเป็น ‘แรงงาน’ ไม่เพียงแต่ ‘ยกระดับ’ คุณภาพชีวิต แต่ยังส่งเสริมภาพลักษณ์ไทยในเวทีโลก

42 นาทีที่แล้ว

เพราะแอร์สกปรก บ่มเพาะสารพัดโรค สาเหตุที่ออฟฟิศควรเลิก ‘ตึ๋งหนืด’ กับการรักษาความสะอาดในที่ทำงาน

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

โลกโรบล็อกซ์มีอาชญากรรม แต่ไม่มีความยุติธรรม เมื่อ ‘Schlep’ นักล่าเปโด โดนแบนบัญชี

21 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ข้อเสนอของพรรคประชาชน เรารับหมด” ภูมิธรรมขนพรรคร่วมเยือนพรรคส้ม ขอเสียงสนับสนุนตั้งรัฐบาล

22 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

Sabrina Carpenter เปิดใจถึงอดีตคนรัก Barry Keoghan หลังปล่อยอัลบั้มใหม่

THE STANDARD

สืบ นาคะเสถียร เรื่องราวการเสียสละและแรงบันดาลใจที่ไม่มีวันเลือนหาย

INN News

เที่ยวแบบยั่งยืน! ททท. ปลุก ESG Tourism เพิ่มรายได้ชุมชน 20%

กรุงเทพธุรกิจ

เปิดทริป ‘River Route’ สัมผัสเสน่ห์วัฒนธรรมสัมพันธ์กับสายน้ำ 3 จังหวัด กระตุ้นเที่ยวเมืองรอง

The Bangkok Insight

กินของหวานเวลาไหนอ้วนน้อยที่สุด? เคล็ดลับสำหรับคนชอบหวาน

sanook.com

ห้องน้ำเป็นคราบสบู่ แก้ปัญหาได้ง่ายๆ ใช้แค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

เคล็ดลับดูแล "ผมหยักศก" ของผู้ชายให้เป็นทรงอย่างเป็นธรรมชาติ

sanook.com

ทาสอวดรูป ไอ้ฉ้ม ตอนเด็ก vs ตอนโต ดวงตาคู่เดิม เพิ่มเติม คือความฟู น่าร๊ากกก

CatDumb

ข่าวและบทความยอดนิยม

คนที่ไวต่อการรับรู้ มีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้า และภาวะวิตกกังวล

The Momentum

‘รักไม่เกิดเพราะไม่มี Third Place’ เมื่อความ ‘ไม่โรแมนติก’ ของพื้นที่เมือง ทำให้เราเหงากว่าที่เคย

The Momentum

ใจวายเฉียบพลันวันจันทร์ ภัยเงียบคร่าชีวิตผู้สูงอายุ จากความเครียดต้นสัปดาห์การทำงาน

The Momentum
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...