โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

“รองนายกฯ ประเสริฐ’ นำคณะหารือ ‘ไทย–เมียนมา’ จับมือตั้งคณะทำงานวิชาการร่วมกัน เดินหน้าแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม-คุณภาพน้ำ

สวพ.FM91

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“รองนายกฯ ประเสริฐ’ นำคณะหารือ ‘ไทย–เมียนมา’ จับมือตั้งคณะทำงานวิชาการร่วมกัน เดินหน้าแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม-คุณภาพน้ำ เปิดทางสางปมสารปนเปื้อน ‘แม่น้ำกก-แม่น้ำสาย” ยั่งยืน

วันนี้ (20 สิงหาคม 2568) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมด้วยนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ , กระทรวงอุตสาหกรรม , กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เดินทางไปเยือนกรุงเนปยีดอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อเข้าพบและหารืออย่างเป็นทางการกับ นายขิ่น ม่อง ยี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเมียนมา เกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือ ด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการบริหารจัดการคุณภาพน้ำอย่างยั่งยืน
โดย นายประเสริฐ กล่าวว่า การหารือในวันนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางที่เป็นรูปธรรม ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองฝ่ายบนพื้นฐานของหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางในการนำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญจากหน่วยงานระหว่างประเทศ อาทิ MRC มาใช้ประโยชน์เพื่อรับมือกับความท้าทายข้ามแดน ทั้งนี้รัฐบาลมีความห่วงใยต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศ จึงมุ่งเน้นให้การดำเนินการต่าง ๆ เกิดผลเป็นรูปธรรม สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าทั้งสองประเทศพร้อมร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด
นายประเสริฐ กล่าวว่า ผลการหารือที่สำคัญ ประกอบด้วย 1. ทั้งสองฝ่ายในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด ได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการส่งเสริมความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดการคุณภาพน้ำ , 2. ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการหารือประสานงานกันบ่อยครั้งยิ่งขึ้น มีการหารือทำงานร่วมกัน ซึ่งรวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำ เพื่อส่งเสริมความเข้าใจร่วมกันและเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และ 3. ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะทำงานด้านวิชาการร่วม (Joint Technical Working Group) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงโอกาสในการร่วมมือกันในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาศักยภาพและการสร้างความตระหนักรู้ผ่านคณะทำงานร่วมกันดังกล่าว และการสนับสนุนเทคโนโลยีการจัดการกับการทำกิจการเหมืองแร่ เป็นต้น
“ประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อม และคุณภาพน้ำ ที่จะเดินหน้าแก้ไขร่วมกันนั้น ส่วนสำคัญจะเป็นการตอบโจทย์พี่น้องประชาชนเกี่ยวกับกระแสข่าวก่อนหน้านี้เรื่องสารปนเปื้อในแม่น้ำสายต่างๆ อาทิ แม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ซึ่งที่ผ่านมาส่งผลกระทบงต่อวิถีชีวิตของประชาชน ซึ่งรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้ทั้งในมิติ ทั้งในระดับพื้นที่และในระดับความร่วมมือระหว่างประเทศ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว
ขณะที่ นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า ประเด็นคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ อาทิ แม่น้ำกก และแม่น้ำสาย ได้ก่อให้เกิดความกังวลอย่างมากต่อพี่น้องประชาชนไทยที่อาศัยอยู่ตามลุ่มน้ำ เนื่องจากส่งผลกระทบโดยตรงต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน รัฐบาลไทยโดยกระทรวงมหาดไทย ได้พยายามอย่างต่อเนื่องในการบรรเทาผลกระทบดังกล่าว ด้วยการให้ความช่วยเหลือที่จำเป็น พร้อมทั้งเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้แก่ประชาชน และเนื่องจากแม่น้ำดังกล่าวเป็นลำน้ำข้ามพรมแดน ความร่วมมือระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จึงมีความสำคัญยิ่งต่อการแก้ไขปัญหาอย่างรอบด้าน หากฝ่ายเมียนมาสามารถแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายไทยได้ ก็จะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินงานร่วมกัน ทั้งในการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน และในการจัดการสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที โดยไทยมีความประสงค์ที่จะเห็นการประสานงานที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างทันท่วงที และสามารถกำหนดแนวทางการตอบสนองร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านการดำเนินการในคณะทำงานด้านวิชาการร่วมกัน (Joint Technical Working Group) ต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สวพ.FM91

กปภ. เผยผลิตและจ่ายน้ำประปาให้บริการได้ตามปกติ ทุกพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา

45 นาทีที่แล้ว

ติดหนัก! รถบรรทุกเสีย งามวงศ์วาน เช็กจราจร กับ เจาะ จุด แจม : 20 สิงหาคม 2568

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สาหัส! รถบรรทุกจอดเสีย ถ.งามวงศ์วาน ขาออก ก่อนถึงแคราย ติดกระทบหลายเส้นทาง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คณะ IOT ลงพื้นที่ รพ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตรวจสอบผลกระทบจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ศาลรัฐธรรมนูญ อนุญาตถ่ายทอดสดไต่สวน ‘แพทองธาร’ แจงคดีคลิปเสียง

ไทยโพสต์

21 ส.ค.นัดไต่สวน "อิ๊งค์-เลขาฯสมช." ศาลรธน.ถ่ายทอดวงจรปิดให้ฟังได้

สยามรัฐ

“อิ๊งค์”ไม่รอดและไม่อาจให้รอดได้! “อดีตรองอธิการบดี มธ.” ยก 3 เหตุผล

สยามรัฐ

21 ส.ค. ไต่สวน อิ๊งค์-เลขาฯสมช. ปมคลิปเสียง ฮุนเซน ศาลรธน.ถ่ายทอดวงจรปิดให้ฟัง

Khaosod

‘มาริษ’ เยือนสวีเดน 24-26 ส.ค. เป็นสักขีพยาน ‘กองทัพอากาศ’ เซ็นซื้อ ‘กริพเพน’

เดลินิวส์

แฉ “ทหารเขมร” ยั่วยุ-เจตนาก่อกวน ขู่ให้ระวังเหยียบกับระเบิด

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม