ชาวสวนลำไยจันทบุรี ยิ้มออกแรงงานไทยทั่วสารทิศแห่ช่วยเก็บผลผลิต
จันทบุรี8203;- ยิ้มออกแล้ว ชาวสวนลำไยจันทบุรีหลังแรงงานเขมรแห่กลับประเทศจนจิตตก หวั่นผลผลิตเน่าเสียหายเพราะเก็บไม่ทัน ล่าสุดได้แรงงานไทยจากทั่วสารทิศเข้าช่วยหลายคนบอกตรงกันมาทำงานเพราะรายได้ดี-สวัสดิการเยี่ยม
จากสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาในช่วงเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมาจนส่งผลให้แรงงานเขมรที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย พากันเดินทางกลับประเทศเป็นจำนวนมาก สร้างความกังวลต่อผู้ประกอบการในภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะภาคการเกษตร และเจ้าของสวนลำไยในพื้นที่ จ.จันทบุรี ที่ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต จนนำสู่การกำหนดมาตรการนำเข้าแรงงานจากลาวและเมียนมา เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน
ขณะที่ ส.ส.จันทบุรี ยังเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ด้วยกาาประกาศรับสมัครแรงงานคนไทยจำนวนกว่า 30,000 อัตรา เพื่อทำงานเก็บลำไยใน จ.จันทบุรี ทดแทนแรงงานเขมรที่เดินทางกลับประเทศ ชูสวัสดิการที่พักฟรี ทำงานต่อเนื่อง 9 เดือน ตั้งแต่ ส.ค.2568 -8203; เม.ย.2569 รายได้เฉลี่ยวันละ 700–1,300 บาท ขึ้นอยู่กับความสามารถและความขยัน จนทำให้มีแรงงานชาวไทยแห่สมัครทำงานเป็นจำนวนมากนั้น
วันนี้ (14 ส.ค.)8203;ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศภายในสวนลำไยเขต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ซึ่งในวันนี้เป็นวันแรกของการเก็บเกี่ยวผลผลิตช่วงต้นฤดูกาล พบว่าเป็นไปอย่างคึกคักท่ามกลางแรงงานชาวไทยจำนวนมากที่แห่เข้ามาทำงานในพื้นที่
นายณรงค์เวทย์ มหเศรษฐพงษ์ ฝ่ายจัดซื้อลำไยเพื่อการส่งออก บอกว่า ก่อนหน้านี้แรงงานเก็บลำไยเกือบทั้งหมดของสวนเป็นชาวเขมร ที่มีจำนวนมากถึง 500 คน แต่หลังเกิดเหตุปะทะตามแนวชายแดนแรงงานเหล่านี้ได้พากันกับประเทศ จนต้องประสานเครือข่ายในหลายจังหวัดเพื่อขอความช่วยเหลือด้านแรงงาน
และเมื่อ ส.ส.จันทบุรี ได้ช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องกาารับสมัครแรงงาน ก็ทำให้มีแรงงานไทยจากทุกภูมิภาคเข้ามาช่วยทำงานแล้วกว่า 300 คน แต่ก็ยังต้องการเพิ่มเติมอีกประมาณ 100–200 คน
"การจ้างงานของสวนเป็นลักษณะเหมารายตะกร้า ในอัตราตะกร้าละ 45 บาท ซึ่งผู้มีทักษะจะสามารถทำรายได้สูงถึงวันละ 1,500 บาท ซึ่งในช่วงแรกจะเป็นการฝึกงานเพื่อเรียนรู้วิธีเก็บเกี่ยวให้ได้มาตรฐานก่อน"
ทั้งนี้ การใช้แรงงานคนไทยมีข้อดีคือสามารถเคลื่อนย้ายทำงานได้ทั่วประเทศ ต่างจากแรงงานต่างชาติที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ทำงาน
เช่นเดียวกับ นางชุติมา งบสูงเนิน เจ้าของสวนลำไยใน ต.ปะตง อ.โป่งน้ำร้อน ที่บอกว่าก่อนหน้านี้ตนเองก็มีความกังวลใจเรื่องไม่มีแรงงานเก็บเกี่ยว แต่เมื่อมีแรงงานไทยเข้ามาช่วยก็ทำให้สามารถเดินหน้าการเก็บลำไยได้ แม้ทักษะจะยังต้องฝึกฝนแต่ก็เชื่อว่าจะสามารถพัฒนาได้
" เราพร้อมเสนอที่จะให้ภาครัฐพิจารณาเปิดทางให้แรงงานจากประเทศอื่นเข้ามาทำงาน เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาแรงงานเพียงชาติเดียว" นางชุติมา กล่าว
และจากการพูดคุยกับแรงงานชาวไทยที่เดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา ที่เพิ่งได้เรียนรู้และฝึกเก็บลำไย ทราบว่าตนเองได้เดินทางมาทำงานพร้อมสมาชิกในครอบครัวหลายคน หลังได้รับคำแนะนำจากผู้เคยทำงานมาก่อนว่าการเก็บลำไย “ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย” และต้องอาศัยการฝึกและความตั้งใจ เพราะรายได้ขึ้นอยู่กับความขยัน ยิ่งทำมากก็ยิ่งได้มาก
ทั้งนี้แม้ต้องเดินทางไกลหลายพันกิโลเมตรก็ไม่รู้สึกกังวล เนื่องจากหากอยู่ในพื้นที่บ้านเกิดก็ไม่มีงานทำ
ส่วนนายอโนชา หนุ่มศรีสะเกษ บอกว่าตนเองเดินทางมาพร้อมเพื่อนร่วมจังหวัดรวม 17 คน หลังทราบว่ามีรายได้ขั้นต่ำวันละ 700 บาท เนื่องจากช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าว จึงตัดสินใจมาทำงาน
ที่จันทบุรี พร้อมยืนยันว่าไม่กังวลต่อสถานการณ์ชายแดน และมองว่าการเก็บลำไย ไม่ได้หนักอย่างที่คิด แถมมีรายได้ดี
ขณะที่8203; น.ส.ณัฏฐณิชา ชาวเชียงใหม่ บอกว่าตนเองเคยมีประสบการณ์เก็บลำไยจากภาคเหนือที่ขณะนี้สิ้นสุดฤดูกาลแล้ว ซึ่งการเก็บในภาคตะวันออกจะเก็บเป็นช่อใส่ตะกร้า ส่วนการเดินทางมาจันทบุรี นอกจากจะมีรายได้ดีแล้ว ยังมองว่าเป็นโอกาสเรียนรู้วิธีทำงานในพื้นที่ใหม่ ได้ความรู้และได้ประสบการณ์ติดตัว
"การมาทำงานที่นี่นายจ้างยังดูแลทั้งที่พักและสวัสดิการ จึงอยากเชิญชวนแรงงานจากทั่วประเทศให้มาร่วมเก็บเกี่ยวลำไยในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกช่วงฤดูกาลนี้ด้วยกัน" ชาวเชียงใหม่ กล่าว
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO