“อี้ แทนคุณ” พาภรรยา “เอ๋ ไพโรจน์” ร้องอัยการ หวั่นสาเหตุเสียชีวิตปริศนา ถูกกีดกันออกจากบ้านเดิม
“อี้ แทนคุณ” พาภรรยา “เอ๋ ไพโรจน์” ร้องอัยการ หวั่นสาเหตุเสียชีวิตปริศนา ถูกกีดกันออกจากบ้านเดิม
เมื่อวันที่ 15ส.ค.68 “อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ” ประธานชมรมสันติประชาธรรม“เก่ง สุเชษฐ์” ได้พา “นางพลอยรัชษ์ ชินรัตน์วาณิช” หรือคุณ เอ๋ ภรรยาของอดีตพระเอกและผู้กำกับชื่อดัง “เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร” ที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 3มิถุนายนที่ผ่านมา เดินทางไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม หลังถูกลูกสาวของสามีขับไล่ออกจากบ้าน และยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของสามี
อ่านข่าวต่อ: ศึกชิงมรดก?.นี่เองบ้าน “เอ๋ ไพโรจน์”.. ลูกสาวลั่นไม่ได้ไล่อดีตของพ่อออกจากบ้าน
คุณเอ๋ พลอยรัชษ์ ซึ่งอยู่กินกับนายไพโรจน์มานานกว่า 20ปี และแต่งงานกันในปี 2552เปิดเผยว่า หลังการจากไปของสามี ตนถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปในงานศพ ไม่ได้เห็นใบมรณบัตร และเมื่อกลับไปที่บ้านที่เคยอาศัยอยู่ร่วมกันก็พบว่าลูกบิดประตูถูกเปลี่ยน ทำให้ไม่สามารถเข้าบ้านได้ตามปกติ
ปมขัดแย้งเรื่องบ้านและทรัพย์สิน
คุณเอ๋ พลอยรัชษ์ ชินรัตน์วาณิช อายุ 50ปี ภรรยาอยู่กินกับเอ๋ ไพโรจน์ มา 20ปี เผยว่า หลังการเสียชีวิตของนายไพโรจน์เพียง 15วัน ลูกสาวของสามีได้ส่งข้อความมาบอกว่าบ้านได้ถูกโอนไปให้ผู้อื่นแล้ว พร้อมทั้งเร่งให้ตนย้ายออกจากบ้านอย่างเร่งด่วน เมื่อกลับไปที่บ้านก็พบว่าห้องพระถูกรื้อค้น และมีพระเครื่องมูลค่านับล้านบาท รวมถึงทรัพย์สินอื่น ๆ หายไปหลายรายการ ทำให้ต้องเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก
นอกจากนี้ คุณเอ๋ยังสงสัยว่า ฮาร์ดดิสก์ 2เครื่อง, คอมพิวเตอร์ และแหวนที่ได้รับจากสามีได้หายไป และยืนยันว่าตลอดเวลาที่อยู่กินด้วยกัน ได้ร่วมทำธุรกิจถึง 4บริษัท และต้องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมด
ด้าน “เบสท์ ปณิชดา” ลูกสาวของ “เอ๋ ไพโรจน์” ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า คุณเอ๋ พลอยรัชษ์ ไม่ใช่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย และหลังพ่อเสียชีวิต มีการนำรถยนต์ของพ่อไปใช้แล้วไม่คืน รวมถึงทรัพย์สินอื่น ๆ ในบ้านได้หายไปหลายรายการ
เบสท์ยอมรับว่าได้เปลี่ยนลูกบิดประตูใหม่จริง เพื่อป้องกันของหาย แต่คุณเอ๋ก็สามารถสะเดาะกุญแจเข้าไปในบ้านได้ และได้นำกุญแจของตัวเองมาล็อกซ้ำ ยืนยันว่าคุณเอ๋ยังคงเข้าออกบ้านได้ เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวยังอยู่ครบ และพ่อเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าได้เลิกรากับคุณเอ๋ไปแล้ว
เบสท์กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้กำลังรอคำสั่งศาลเพื่อให้ตนเป็นผู้จัดการมรดกตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าทรัพย์สินของพ่อมีเพียงรถและบ้านเท่านั้น และจะดูแลทรัพย์สินทั้งหมดให้เป็นไปตามกฎหมาย