‘โรคหัด’ ระบาดหนักในแคนาดา ผู้ป่วยสะสมทะลุ 4,600 คน สูงสุดในทวีปอเมริกา
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ว่า ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ที่เผยแพร่ในเดือนนี้ ชี้ให้เห็นว่า แคนาดามีผู้ป่วยโรคหัดที่ได้รับการยืนยันประมาณ “ครึ่งหนึ่ง” ของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดในภูมิภาคอเมริกา นับตั้งแต่ต้นปีนี้ แม้ประเทศแห่งนี้สามารถกำจัดโรคหัดได้อย่างเป็นทางการไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อปี 2541
รัฐออนแทรีโอซึ่งมีประชากรมากที่สุดในแคนาดา คือประมาณ 16 ล้านคน มีจำนวนผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 2,366 คน ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ ทำให้จำนวนผู้ป่วยโดยรวมทั่วประเทศอยู่ที่ 4,638 คน
ขณะที่ทางการรัฐแอลเบอร์ตาระบุว่า มีผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 1,790 คน ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดหากเทียบตามสัดส่วนจำนวนประชากร
ส่วนสถานการณ์ในสหรัฐ ซึ่งกำลังเผชิญกับการระบาดของโรคหัดครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) ยืนยันพบผู้ติดเชื้อแล้ว 1,375 คน ส่วนองค์การอนามัยแพนอเมริกัน (พีเอเอชโอ) ระบุในเดือนนี้ว่า 71% ของผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน อยู่ในกลุ่มคนที่ไม่ได้รับวัคซีน และอีก 18% อยู่ในกลุ่มคนที่ยังไม่ทราบสถานะการฉีดวัคซีน
การระบาดใหญ่ในแคนาดาเกิดขึ้นในชุมชนคริสเตียนอนาแบปติสต์ ซึ่งรวมไปถึงชาวคริสเตียนชาวเมนโนไนต์ ที่ส่วนใหญ่มีความลังเลในการรับวัคซีนมาอย่างยาวนาน โดยจุดเริ่มต้นของการระบาดเชื่อมโยงกับงานแต่งงานของชาวเมนโนไนต์ ในรัฐนิวบรันสวิก ทางตะวันออกของประเทศ.
เครดิตภาพ : AFP