เปิดสเปก Redmi Note 15 5G ปรับโฉมใหม่ทั้งจอ 3,200 nits ราคาจีนดีงาม แต่ราคาไทยล่ะ?
Redmi สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นถึงระดับกลางอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Redmi Note 15 Series อย่างเป็นทางการในประเทศจีน นำทัพโดยรุ่นมาตรฐานอย่าง Redmi Note 15 ที่มาพร้อมการอัปเกรดครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนหน้า ชูจุดเด่นด้วยหน้าจอ OLED ที่สว่างเป็นพิเศษ, แบตเตอรี่ขนาดมหึมา และชิปเซ็ต Snapdragon รุ่นใหม่ล่าสุด จะมีอะไรที่น่าสนใจเรามาดูก่อนบุกเมืองไทยกันช่วงปีหน้า
Redmi Note 15 ถูกวางตัวให้เป็น "รุ่นที่คุ้มค่าสูง" โดยมาพร้อมสเปคที่น่าสนใจหลายจุดเช่น หน้าจออัปเกรดสู่จอแสดงผล OLED ขนาด 6.77 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz แต่ไฮไลท์สำคัญคือการเร่งความสว่างได้สูงสุดถึง 3,200 nits ซึ่งถือว่าสว่างเป็นพิเศษสำหรับมือถือในระดับราคานี้ พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ขับเคลื่อนด้วย Qualcomm Snapdragon 6 Gen 3 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตระดับกลางรุ่นใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ได้ RAM แบบ LPDDR4X และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 2.2 โดยมีให้เลือกหลายรุ่นความจุ ได้แก่ 6GB/128GB, 8GB/128GB, 8GB/256GB, และ 12GB/256GB
และมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 15 ที่ครอบทับด้วย HyperOS 2 ตั้งแต่ออกจากกล่องให้กล้องในสเปกที่น่าสนใจปแระกอบด้วย
- กล้องหลัก 50MP ใช้เซ็นเซอร์ Light Fusion 400 รูรับแสง f/1.8
- กล้อง Depth Sensor 2MP สำหรับช่วยในการถ่ายภาพบุคคล (Portrait)
- กล้องหน้า: ความละเอียด 8MP สำหรับการเซลฟี่และวิดีโอคอล
นอกจากนี้ยังมีการอัปเกรดขนาดใหญ่จุใจถึง 5,800 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 45W และมีฟีเจอร์พิเศษ Reverse Charging 18W ที่สามารถเปลี่ยนมือถือให้เป็นพาวเวอร์แบงค์เพื่อชาร์จอุปกรณ์อื่นผ่านสายได้ และเรื่องอื่นๆ ก็จัดเต็มไม่แพ้รุ่นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP66, ลำโพงคู่สเตอริโอพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos, เซ็นเซอร์ IR Blaster, และการเชื่อมต่อที่ครบครันทั้ง 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.1 และ NFC
ราคาในประเทศจีน
Redmi Note 15 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black (สีดำ), Sky Blue (สีฟ้า), และ Star White (สีขาว) โดยเริ่มวางจำหน่ายแล้วผ่านช่องทางออนไลน์ของ Xiaomi ในประเทศจีน ด้วยราคาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง:
- รุ่น 6GB + 128GB: ราคา 999 หยวน (ประมาณ 140 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,990 บาท)
- รุ่น 8GB + 128GB: ราคา 1,099 หยวน (ประมาณ 155 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5,490 บาท)
- รุ่น 8GB + 256GB: ราคา 1,299 หยวน (ประมาณ 180 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6,490 บาท)
- รุ่น 12GB + 256GB: ราคา 1,499 หยวน (ประมาณ 210 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7,490 บาท)
สำหรับกำหนดการวางจำหน่ายในประเทศไทยและราคาท้องถิ่นอย่างเป็นทางการนั้น คาดว่าจะต้องรอการประกาศจาก Xiaomi ประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งราคาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ยังไงก็ศึกษาให้ดีก่อนนะครับ