EARTH PATRAVEE เปิดบ้านแห่งความทรงจำในงาน Welcome to Wooden House ชม MV ซิงเกิลใหม่ 'ดีกว่าต้องลืมเธอไป (Wooden House)' ครั้งแรกพร้อมแฟนคลับผู้โชคดี

“เอิ๊ต ภัทรวี (Earth Patravee)” กลับมาเอาใจแฟน ๆ สายเพลงเศร้ากินใจกับซิงเกิลใหม่ล่าสุดของอัลบั้มใหม่ด้วยเพลง“ดีกว่าต้องลืมเธอไป (Wooden House)” เพลงที่ถ่ายทอดมุมมองของผู้ที่ยอมโอบกอดความเสียใจเอาไว้ เพื่อที่จะจดจำใครสักคนไว้ตลอดไป ถึงแม้มันจะเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่ก็ยังดีกว่าการที่ยอมแพ้เวลา และ ปล่อยให้เธอหายไปจากความทรงจำ

“ให้ฉันนั้นจดจำทุกหยดน้ำตา ให้ฉันได้วนเวียนกับความเสียใจ อย่าห่วง ฉันไม่เป็นไรยังดีกว่าต้องลืมเธอไป”

ดีกว่าต้องลืมเธอไป (Wooden House) ซิงเกิลที่ 2 จาก Full Album - “Heart is Home” EARTH PATRAVEE อยากพาหัวใจของตัวเองและผู้ฟังกลับไปยังบ้านอีกครั้ง นำด้วยเสียงกีต้าร์โปร่งที่คุ้นเคย และเนื้อเพลงจากปลายปากกาและประสบการณ์ของ EARTH PATRAVEE ในขณะที่โลกกำลังหมุนไปอย่างรวดเร็ว แต่เพลงนี้ทำให้ผู้ฟังเหมือนได้กลับไปอยู่ที่พื้นที่อบอุ่น คุ้นเคย เหมือนเวลาเดินช้าลงไปด้วยเช่นกัน

โดยความพิเศษของซิงเกิลใหม่ “ดีกว่าต้องลืมเธอไป (Wooden House)” ได้มีการจัดงานอีเวนต์ “Welcome to Wooden House” อีเวนต์ที่เชิญแฟนคลับผู้โชคดี มาร่วมงานเพื่อรับชม MV พร้อมกันเป็นครั้งแรก และผู้โชคดีในงานนี้ยังได้ฟังเพลงใหม่พร้อมกันแบบสด ๆ จาก เอิ๊ต ที่นี่ที่แรกอีกด้วย แฟน ๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าร้องสดเหมือนกินแผ่น ซึ่งกิจกรรมนี้ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ Yellow Lane BKK อีกทั้งภายในงานยังมีกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ให้แฟน ๆ เขียนถึงเรื่องที่ไม่อยากลืมของตัวเองลงไปในกระดาษเพื่อแชร์ให้ศิลปินได้อ่าน พร้อมทั้งปิดท้ายกิจกรรมด้วยการถ่ายภาพรวมเพื่อเก็บบันทึกเป็นความทรงจำที่สวยงาม

เอิ๊ต พูดถึงแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงนี้ “เราแต่งเพลงนี้ขึ้นมาจาก concept ที่ว่า ปกติเวลาที่เราสูญเสียใครสักคนไป เราจะเจ็บปวดมาก ๆ จนไม่อยากเห็นรูป หรือดูความทรงจำเก่า ๆ เรารู้สึกว่ามันยากเกินไป หรือจิตใจเรารู้สึกยังรับไม่ไหว แต่การกระทำแบบนั้น พอผ่านเวลาไป มันกลายเป็นว่า เราลืมเรื่องราวเกี่ยวกับคนคนนั้นไป”

“ตอนคุณยายของเราเสีย เราไม่อยากเห็นรูปเขาเลยเพราะว่ามันเศร้าเกินไป แต่พอมารู้ตัวอีกที เวลาผ่านไปหลายปี เหมือนเราลืมไปเลยว่ารอยยิ้มของเขาเป็นยังไง เพราะการที่เราไม่ยอมให้ตัวเองนึกถึงหน้าเขาเนี่ยแหละ เราเลยมานั่งรู้สึกว่า แบบนี้ มันเศร้ากว่าอีก เศร้ากว่าที่วันนึง เราจะลืมเขาไปจริง ๆ และเราอาจจะสูญเสียความทรงจำ ของดีเทลเหล่านั้นไปจริง ๆ” โดยคำว่า“wooden house” ชื่อเพลงภาษาอังกฤษชื่อนี้ตามมาทีหลัง เพราะเราอยากหาคำ ๆ หนึ่งที่จะเป็นมวลภาพรวมของเพลง คืนก่อนที่จะแต่งเพลงนี้ เอิ๊ต ฝันถึงยาย และในฝันภาพมันชัดมาก ๆ เค้านั่งอยู่ในบ้านไม้เรือนไทยหลังเก่า แล้วมันมีดีเทลที่เราลืมไปแล้วแต่มันเป็นมวลความรู้สึก เลยเอามาใช้เป็นชื่อเพลงภาษาอังกฤษ

ในพาร์ทดนตรีเราอัดเพลงนี้ด้วยเครื่องดนตรีจริงทั้งหมดเหมือนเดิม โดยมีสามหนุ่มคู่ใจของอัลบั้มนี้มาช่วยทำให้เพลงนี้สมบูรณ์มากขึ้นอีกเช่นเคย คนแรก “บุ้ง - กวิน สิริภัทรกุล” มือ arrange และ มือเปียโน ที่เล่นให้ พี่แสตมป์ พี่โต๋ อีกทั้งยังเคยเล่นให้กับ the toys และอีกหลาย ๆ วงมาอัดเพลงให้ โดยใช้เปียโนไม้ upright ที่บ้าน ส่วนคนที่สอง “ยี่ - ชยปัญญ์ จันทรานุสนธิ์” อดีตสมาชิกวง safe planet มาอัดเบส และคนสุดท้าย “แจม - ธนัท เลาหระวี” มือกีตาร์ และ ครีเอทีฟของโปรเจกต์นี้ มาอัดกีตาร์ไฟฟ้าให้ ซึ่งกีตาร์ไฟฟ้าเพลงนี้จะทำหน้าที่เหมือน effect เหมือนเสียงฟ้าผ่า ซึ่งถือว่าเป็นซาวด์ใหม่ของเรา พวกเสียง reverb ที่เกิดขึ้นจากการตบ ๆ ทุบ ๆ กีตาร์ก็ทำขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ sound effect มากกว่าเสียงดนตรี ส่วนในพาร์ทหน้าที่ของเรา เพลงนี้เรายังคงมีหน้าที่ในการอัดเครื่องสายด้วยตัวเอง บอกเลยว่ายากกว่าที่คิดไว้มาก รอบก่อนแค่ดีด ๆ แบบ pizzicato (ใช้นิ้วดีด) แต่รอบนี้สีไวโอลินแบบใช้โบว์ ถือว่าเป็นความท้าทายของเรามาก ๆ ในพาร์ทดนตรี

พาร์ท MV เพลงนี้ เอิ๊ต ได้กลับมาแสดง MV ด้วยตัวเองอีกครั้ง เป็นเรื่องราวที่มีความสุขแต่ก็ปนไปด้วยน้ำตา เข้มข้นในความรู้สึก ผ่านการกำกับโดยผู้กำกับอย่าง “นราธิป ไชยณรงค์” ซึ่งเคยสร้างผลงานเรียกน้ำตามาอย่างมากมาย การถ่ายทำ MV ครั้งนี้ เอิ๊ต ได้บินไกลไปถ่าย MV เพลงนี้ถึงประเทศญี่ปุ่นในฐานะนางเอก MV สาวท่านหนึ่งที่ต้องตัดสินใจไปเที่ยวครั้งสุดท้ายก่อนที่จะต้องแยกทางกันจริง ๆ กับอดีตคนรักที่ รับบทโดย“เมืองไทย จิรวงศ์นิรันดร” พระเอก MV หนุ่มที่หลาย ๆ คนคงคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี โดยพวกเขาทั้งคู่ก็ได้รับกล้องฟิล์มมาจากนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่ยื่นกล้องให้พวกเขาไปถ่ายรูปสำหรับทริปสุดท้ายนี้ของพวกเขา

ซึ่ง MV เพลงนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ เอิ๊ต ได้เล่นเป็นตัวละครแบบที่เรารู้สึกว่าเขามีชีวิตจริง ๆ ความยากคือ เอิ๊ต ต้องร้องไห้ออกมาจริง ๆ แต่ก็มีพี่ผู้กำกับที่คอยบิ๊วต์อารมณ์ให้เราทำได้ จนไม่น่าเชื่อว่าเราสามารถร้องไห้กับฉากอารมณ์ได้จริง ๆ เราเห็นภาพคนสองคนนี้ ที่มาเที่ยวด้วยกัน เป็นแฟนเก่ากันจริง ๆ แบบที่ไม่ใช่ตัว เอิ๊ต เอง ตอนเล่น MV ตัวนี้จบ ยังรู้สึกต้องบอกลาตัวละครนี้ ทำให้รู้สึกแปลกใหม่มากสำหรับ เอิ๊ต อยากให้ทุกคนได้ไปลองรับชม MV ตัวนี้กันนะ