"โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ" ประณามกัมพูชา ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำทหารไทยขาขาด 1 นายที่ปราสาทตาควาย
วันที่ 28 ส.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ขอแสดงความเสียใจกรณี พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) และนับเป็นเหตุการณ์ครั้งที่ 6 แล้วที่เกิดความสูญเสียจากอาวุธร้ายแรง ที่ไร้มนุษยธรรม ไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตย และ บูรณภาพแห่งดินแดนของไทย เป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และเป็นการละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน และยังเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงเชื่อได้ว่ากัมพูชาน่าจะมีการวางแผนใช้ทุ่นระเบิดอย่างเป็นระบบตลอดพื้นที่ชายแดน โดยมีเจตนาที่จะคุกคามทำร้ายฝ่ายไทยโดยเฉพาะจุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการของฝ่ายไทย
“ผมขอหยิบยกคำพูดของเจ้ากรมกิจการชายแดนทหารที่เคยกล่าวไว้ว่า ทุ่นระเบิดไม่ใช่หลักเขตแดนแต่เป็นอาวุธที่ไร้มนุษยธรรมทำให้ทุพลลภาพและคร่าชีวิตผู้คนโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า การวางทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชา จึงสะท้อนถึงเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์และเป็นการกระทำที่ไร้อารยะ เหตุการณ์ครั้งนี้ตอกย้ำความสำคัญและความจำเป็นที่ไทยจะต้องปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งสนับสนุนให้รัฐภาคีต้องแจ้งหากมีเหตุการณ์ทุ่นระเบิดและแจ้งให้ประชาคมโลกรับทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าวของกัมพูชา และร่วมกันทำให้กัมพูชาหยุดการกระทำดังกล่าวโดยทันที” นายนิกรเดช กล่าว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ฝ่ายไทยยินดีที่ทหารทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในกรอบคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) ทั้งสองประเด็นที่ไทยให้ความสัมพันธ์และผลักดันตลอด ก็ได้บรรจุในเอกสารผลลัพธ์การประชุม คือการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ ที่จะต้องหารือในการประชุมจีบีซีครั้งต่อไปที่กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพในเดือนกันยายนนี้ ไทยยังคงยืนยันท่าทีในการแสวงหาทางออกโดยสันติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ อย่างไรก็ดีหากกัมพูชายังคงลอบวางทุ่นระเบิดในดินแดนของไทย ยังคงยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง พฤติการณ์เช่นนี้จะเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการคลี่คลายความตึงเครียดที่ทั้งสองฝ่ายพยายามดำเนินการผ่านกลไกทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินการอยู่ฝ่ายไทยขอให้ฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตามสิ่งที่กัมพูชาได้แถลงและประกาศไว้ ว่าจะยึดมั่นตามข้อตกลงทวิภาคี รวมถึงข้อตกลงหยุดยิง
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในส่วนการชี้แจงเวทีต่างประเทศนั้น นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขณะนี่้อยู่ระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ที่เจนีวา ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์การลอบวางทุ่นระเบิดและการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชาให้ประชาคมระหว่างประเทศได้รับทราบ นอกเหนือจากการดำเนินการที่นครเจนีวาแล้ว ในเวทีสหประชาชาติ ที่นิวยอร์ก เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงนิวยอร์กมีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อนำส่งข้อมูล และหลักฐานเชิงประจักษ์เพิ่มเติมต่อกรณีการวางทุ่นระเบิดของกัมพูชา พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ติดตามขอรับคำชี้แจงจากกัมพูชาต่อกรณีดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามข้อ 8 วรรค 2 ของอนุสัญญาออตตาวาด้วย และค่ำวันนี้ (ซึ่งตรงกับเวลาเช้าของนิวยอร์ก) เอกอัครราชทูตไทย จะพบกับเลขาธิการสหประชาชาติอีกครั้งเพื่อชี้แจงพัฒนาการล่าสุดสถานการณ์ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน นอกจากนี้เอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ทั่วโลก ยังคงเดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริงและพัฒนาการล่าสุดของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างแข็งขันทั้งในเรื่องทุ่นระเบิดและการละเมิดอื่น ๆ ของฝ่ายกัมพูชา