กลาโหมกัมพูชา ออกแถลงการณ์ อ้าง ‘แม่ทัพภาค 2’ พยายามยั่วยุ เพื่อรุกรานเขมร
กลาโหมกัมพูชา ออกแถลงการณ์ อ้าง "แม่ทัพภาค 2" พยายามยั่วยุ เพื่อรุกรานเขมร 51 วันก่อนเกษียณ
กระทรวงกลาโหมกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กออกแถลงการณ์ เวลาประมาณ 23.50 น. วันที่ 10 สิงหาคม 2568 โดยกล่าวหาว่า ไทยยั่วยุและมีแผนรุกรามกัมพูชา ทั้งประสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม
โดยระบุว่า ในวันที่ 10 สิงหาคม พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ประกาศแผนการเกษียณอายุราชการ ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 51 วัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
ประการแรก ประกาศจะยึดปราสาทตาควาย ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมโดยชอบธรรมของกัมพูชา และประการที่สอง ประกาศปิดปราสาทตาเมือนธม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา คำแถลงนี้ถือเป็นหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของความพยายามยั่วยุและวางแผนล่วงหน้า เพื่อรุกรานอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา
การกระทำของผู้บัญชาการกองทัพภาค 2 บุญสิน พาดกลาง ดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุในการประชุมวิสามัญเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และเจตนารมณ์ของการประชุมวิสามัญของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ณ ประเทศมาเลเซีย
ในการประชุมวิสามัญของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ครั้งล่าสุด กัมพูชาและไทยได้ตกลงกันในประเด็นที่ 2 เป็นหลัก ซึ่งระบุว่าทั้งสองฝ่ายต้องไม่เคลื่อนย้ายกำลังพล รวมถึงการงดเว้นการลาดตระเวนเกินกว่าตำแหน่งปัจจุบัน
กัมพูชาเน้นย้ำจุดยืนที่มั่นคงในการแก้ไขปัญหา โดยสันติและยึดมั่นในหลักการสันติภาพ และปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด กัมพูชาหวังว่าไทยจะยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ด้วยความจริงใจ เพื่อแก้ไขข้อพิพาทชายแดน เพื่อฟื้นฟูสันติภาพให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมยังได้ยื่นคำร้องต่อประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศพันธมิตรที่ได้ทำงานอย่างขยันขันแข็งจนนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้
และขอเรียกร้องให้ประเทศไทยเคารพข้อตกลงหยุดยิงนี้ ไม่เพียงแต่ด้วยวาจาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม รวมถึงการหยุดยั้งการละเมิดและการยั่วยุทั้งหมด และให้รื้อถอนลวดหนามที่แอบซ่อนอยู่ในดินแดนกัมพูชาโดยทันที
กลาโหมกัมพูชา ยืนยันว่า สถานการณ์โดยรวมบริเวณชายแดนยังคงสงบ และทั้งสองฝ่ายควรรักษาเสถียรภาพนี้ต่อไป เพื่อร่วมกันแก้ไขสถานการณ์นี้ หลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจขัดขวางสันติภาพ เสถียรภาพ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นความปรารถนาร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นความปรารถนาของประชาคมโลกด้วย ดังที่ได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านข้อความแสดงความยินดีและการสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงนี้ รวมถึงผลลัพธ์เชิงบวกจากการประชุมสุดยอดร่วมรัฐบาลกัมพูชา-ไทย (GBC) สมัยวิสามัญ
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้น หลังจากมีข่าวว่าพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 พูดถึงสถานการณ์ที่ปราสาทตาเมือนธมว่า ตอนสู้รบกันนั้น ฝ่ายทหารกัมพูชาพยายามเข้าไปยึด โดยใช้กำลังเป็นพัน มาภายหลังเกิดการปะทะกัน ฝ่ายไทยเรารักษาปราสาทตาเมือนธม แล้วเราได้ปิดปราสาท และกำลังพิจารณาว่า จะปิดตาย หรือปิดบางช่วง ไม่ให้ขึ้น ซึ่งต้องรอกรรมการฯ พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง
พลโท บุญสิน ยังกล่าวถึงสถานการณ์ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ว่า ที่ปราสาทตาควายมีฐานทหารกัมพูชาอยู่ใกล้มาก และวางกำลังหน้าแนว ซึ่งเป็นปราสาทเดียว ที่เราตรึงกำลังอยู่ และยังเข้าไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทหารได้ทดลองปฏิบัติไป 4 ครั้ง ยังเข้าไม่ได้ เขาเข้มแข็ง ประกอบกับมีการวางทุ่นระเบิดวาง โดยรอบอย่างหนาแน่น
ขณะที่ ภาพรวมสถานการณ์กำลังพล ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารมีกำลังใจดี คนที่บาดเจ็บ พอหายเจ็บ ก็ขอกลับไปอยู่หน้าแนวอีก ส่วนตนนั้น อายุราชการเหลือ 51 วัน ขอทำหน้าที่แม่ทัพให้ดีที่สุด หลังจากนั้น ยังไม่ได้คิด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กองกำลังบูรพา ฉก.อรัญฯ ติดตั้งรั้วลวดหนาม 9.8 กม.สกัดลักลอบข้ามแดน-เสริมความมั่นคง
- สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ! หลายพื้นที่ปลอดภัย เร่งเก็บกู้วัตถุระเบิดตกค้าง
- ‘แม่ทัพภาคที่ 2’ เปิดใจ! เบื้องหลังเหตุปะทะ-ถูกฝ่ายกัมพูชารุกล้ำแดนก่อน
ติดตามเราได้ที่