“เกาหลีใต้” ผ่าน ร่างกฎหมายห้ามใช้มือถือในห้องเรียน เริ่มบังคับใช้ปี 2569 หวังแก้ปัญหาติดจอวัยรุ่น
"เกาหลีใต้" ผ่าน ร่างกฎหมายห้ามใช้มือถือในห้องเรียน เริ่มบังคับใช้ปี 2569 หวังแก้ปัญหาติดจอวัยรุ่น แต่ยังเจอเสียงค้านจากนักเรียนและครูบางส่วนที่มองว่าแก้ปัญหาไม่ตรงจุด
วันที่ 27 สิงหาคม 2568 สำนักข่าว BBC รายงานว่า เกาหลีใต้ ประกาศผ่านร่างกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อัจฉริยะระหว่างเวลาเรียนในโรงเรียน กลายเป็นประเทศล่าสุดที่ออกมาตรการจำกัดการใช้โทรศัพท์ในหมู่เด็กและเยาวชน
กฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีการศึกษาใหม่ในเดือนมีนาคม 2569 เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างสองพรรคการเมือง โดยมีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นภาวะเสพติดสมาร์ตโฟน ซึ่งงานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่ามีผลกระทบด้านลบต่อเด็กและเยาวชน
นักการเมือง ผู้ปกครอง และครู ต่างเห็นพ้องว่านิสัยการใช้มือถือมากเกินไปส่งผลเสียต่อผลการเรียนและทำให้เด็กเสียเวลาไปจากการอ่านหนังสือ
อย่างไรก็ดีกฎหมายนี้ก็มีผู้ตั้งข้อกังขา โดยเฉพาะในหมู่นักเรียนที่ตั้งคำถามว่าจะบังคับใช้อย่างไร ผลกระทบกว้างกว่าที่คิดหรือไม่ และที่สำคัญคือกฎหมายนี้ตอบโจทย์สาเหตุรากเหง้าของการติดมือถือจริงหรือไม่
ร่างกฎหมายได้รับการโหวตเห็นชอบอย่างท่วมท้นเมื่อวันพุธ โดยมีเสียงสนับสนุน 115 เสียงจากสมาชิก 163 คนที่เข้าร่วม
โดยในปัจจุบัน โรงเรียนส่วนใหญ่ในเกาหลีใต้มีมาตรการห้ามใช้มือถือบางรูปแบบอยู่แล้ว แต่คราวนี้ถือเป็นการยกระดับเป็นกฎหมายบังคับใช้จริง หลายประเทศก็มีมาตรการลักษณะเดียวกัน เช่น ฟินแลนด์และฝรั่งเศส ที่แบนมือถือเฉพาะโรงเรียนเด็กเล็ก ส่วนอิตาลี เนเธอร์แลนด์ และจีน ก็ออกข้อจำกัดครอบคลุมทุกโรงเรียน แต่เกาหลีใต้ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ตราเป็นกฎหมายโดยตรง
ชเว อึนยอง แม่ของเด็กวัย 14 ปีในกรุงโซลกล่าวว่า“ทุกวันนี้เด็ก ๆ เหมือนจะวางมือถือไม่ลงเลย”
ไม่ใช่แค่เด็กเท่านั้น เพราะผลสำรวจของรัฐบาลในปี 2567 พบว่าประชากรเกาหลีใต้ราว 25% พึ่งพาโทรศัพท์มากเกินไป แต่ในกลุ่มวัย 10–19 ปี ตัวเลขพุ่งขึ้นเป็น 43% และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มากกว่า 1 ใน 3 ของวัยรุ่นบอกว่าควบคุมเวลาในการเสพคอนเทนต์วิดีโอบนโซเชียลมีเดียไม่ได้ ขณะที่ผู้ปกครองกังวลว่าสิ่งนี้กำลังเบียดบังเวลาเรียน การสร้างเพื่อน และกิจกรรมที่ควรทำในโรงเรียน
ทั้งนี้ร่างกฎหมายให้อำนาจครูห้ามใช้มือถือในบริเวณโรงเรียน และกำหนดให้มีการสอนเรื่องการใช้อุปกรณ์อย่างเหมาะสม แต่ก็เปิดช่องยกเว้น เช่น เด็กพิการหรือมีความต้องการพิเศษสามารถใช้เพื่อการช่วยเหลือได้ รวมถึงใช้เพื่อการเรียนหรือในกรณีฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตามครูก็ยังมีความเห็นแตกต่างกัน สมาพันธ์ครูสายอนุรักษ์นิยม (Korean Federation of Teachers' Association) สนับสนุน โดยชี้ว่ากฎหมายให้น้ำหนักทางกฎหมายชัดเจนขึ้น ส่วนสหภาพครูและผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา (Korean Teachers and Educational Workers' Union) ยังไม่ประกาศจุดยืน แต่บางสมาชิกมองว่ากฎหมายอาจละเมิดสิทธิการเข้าถึงโทรศัพท์ของนักเรียน โดยผลสำรวจภายในเผยว่าเกือบ 70% ของครูเคยเจอปัญหาห้องเรียนถูกรบกวนจากมือถือ โดยบางครั้งนักเรียนถึงขั้นด่าทอหรือทำร้ายครูเมื่อถูกยึดโทรศัพท์
ขณะที่นักเรียนบางส่วนแย้งว่า กฎหมายนี้พุ่งเป้าไปที่โทรศัพท์แทนที่จะมองปัญหาจริงของเด็กเกาหลีใต้ ซึ่งคือระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัย (Suneung) ที่แข่งขันดุเดือดและกินเวลาการเรียนแทบทั้งหมด
เด็กมัธยมวัย 13 ปี รายหนึ่งบอกว่า เขาแทบไม่มีเวลาจะติดมือถือเลย เพราะต้องเรียนกวดวิชาและทำการบ้านจนถึงเที่ยงคืนทุกวัน
ขณะที่นักเรียนมัธยมปลายวัย 18 ปีชื่อ ซอ มินจุน กล่าวว่า การแค่ห้ามใช้มือถือในห้องเรียนไม่ช่วยแก้ปัญหา เพราะ “ยังไงนักเรียนก็เล่นมือถืออยู่ดี ทั้งตอนเดินทางและก่อนนอน” และที่ผ่านมาก็ไม่มีการสอนการใช้มือถืออย่างสร้างสรรค์ มีแต่การยึดอย่างเดียว
อ้างอิง : bbc.com