ครม.รับทราบ คืบหน้าตามแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน
ครม.รับทราบคืบหน้าตามแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท และการใช้วงเงินงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจส่วนที่เหลือ
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท และการใช้วงเงินงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจส่วนที่เหลือ โดยมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 5/2568 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ซึ่งมีความคืบหน้าดังนี้
รายงานความคืบหน้าการขอรับจัดสรรและผลการอนุมัติจัดสรรโครงการ/ รายงานกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการพิจารณาอนุมัติงบประมาณให้หน่วยงานได้รับงบประมาณแล้วทั้งสิ้น 49 หน่วยรับงบประมาณ รวม 8,431 รายการ วงเงินรวม 109,800.17 ล้านบาท โดยพิจารณาตามหลักฐาน และข้อเท็จจริงที่หน่วยงานรับงบประมาณจัดส่งให้ ตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง
รายงานผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการกำกับและติดตาม ผลการดำเนินงานตามแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศษฐกิจ พร้อมทั้งเห็นชอบให้ใช้ระบบ DASHBOARD แผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท
การใช้วงเงินงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ส่วนที่เหลือ ประมาณ 26,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการจัดสรรงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นช่วงใกล้สิ้นปีงบประมาณ ทั้งนี้เพื่อการใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสอดคล้องกับสถานการณ์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สามารถโอนงบกลางรายการดังกล่าว ไปเพิ่มในรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยเสนอขออนุมัตินายกรัฐมนตรีตามมาตรา 36 พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561
การจัดสรรงบดังกล่าวจะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนรายได้น้อย และยกระดับคุณภาพชีวิตผู้พิการที่อยู่ในโครงการให้ได้รับการช่วยเหลือต่อเนื่องตลอดปีงบประมาณ 2568
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews