“อ.ปริญญา” ยัน รักษาการนายกฯ ยุบสภาได้ แต่ควรหรือไม่?
หนึ่งในประเด็นทางการเมืองขณะนี้ คือข้อเรียกร้องของ “พรรคประชาชน” ที่ว่า ให้ “เพื่อไทย” ยุบสภาเลย โดยไม่ต้องรอให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่าจะมาจากพรรคเพื่อไทยหรือพรรคภูมิใจไทย
แต่นั่นทำให้ข้อถกเถียงกันในสังคมว่า ในทางกฎหมายแล้ว การจะยุบสภาโดยที่ไม่มีนายกรัฐมนตรี เนื่องจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีไปแล้ว และมี นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนั้น เป็นเรื่องที่สามารถทำได้หรือไม่
ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 68 ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาตอบคำถามว่า “สภาผู้แทนราษฎรกำลังจะมีการเลือกนายกคนใหม่ รักษาการนายกยุบสภาได้หรือไม่?”
ผศ.ดร.ปริญญาระบุว่า “เรื่องรักษาการนายกยุบสภาได้หรือไม่ นั้น ผมได้เคยเขียนให้ความเห็นไปครั้งหนึ่ง แต่ด้วยเวลาจำกัดจึงใช้ถ้อยคำที่รวบรัด และไม่ได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญให้ครบถ้วน หลังจากอ่านความเห็นของนักวิชาการท่านต่างๆ ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ถ้าจะเขียนในเรื่องนี้อีกครั้ง โดยนำบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องมากล่าวถึงให้ครบถ้วน ดังนี้ครับ”
1. เรื่องการยุบสภานั้น รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 บัญญัติไว้ในมาตรา 103 ว่า “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอํานาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป“ โดยการยุบสภา “ให้กระทําโดยพระราชกฤษฎีกา“ ทั้งนี้ มาตรา 103 มิได้บัญญัติไว้ว่าใครเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ หรือใครจะเป็นผู้ทูลเกล้า
2. ในเรื่องการตราพระราชกฤษฎีกานั้น มาตรา 175 บัญญัติว่า “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอํานาจในการตราพระราชกฤษฎีกาโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย” ทั้งนี้ มาตรา 175 อยู่ในหมวดคณะรัฐมนตรี จึงเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีในการทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาให้ทรงลงพระปรมาภิไธย เมื่อนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรี อำนาจในการทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาให้ยุบสภาจึงเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีนั่นเอง
3. โดยที่การยุบสภานั้น รัฐธรรมนูญห้ามไว้แต่เพียงเมื่อมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว (มาตรา 151 วรรคสอง) และการยุบสภาทำได้ครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียวกัน (มาตรา 103 วรรคสอง) การยุบสภาในขณะนี้จึงไม่มีบทบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญห้ามไว้
4. แต่ขณะนี้ไม่มีนายกรัฐมนตรี คำถามคือรักษาการนายกรัฐมนตรีจะทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาให้ทรงยุบสภาได้หรือไม่? ต้องไปดูอีกมาตราหนึ่งคือ มาตรา 182 ซึ่งบัญญัติว่า “… พระบรมราชโองการอันเกี่ยวกับราชการแผ่นดิน ต้องมีรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ เว้นแต่ที่มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นในรัฐธรรมนูญ” มาตรานี้อยู่ในหมวดคณะรัฐมนตรี จึงเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีที่จะทูลเกล้าดังที่ได้กล่าวไป และเมื่อทรงโปรดเกล้า นายกรัฐมนตรีก็จะเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และเป็นผู้รับผิดชอบต่อการยุบสภานั้น (ตามหลัก The King Can Do No Wrong หรือพระมหากษัตริย์ไม่อาจทรงกระทำผิด เพราะคนรับผิดชอบคือนายกที่ทูลเกล้าและลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ)
ประเด็นสำคัญคือ มาตรา 182 ใช้คำว่า ”รัฐมนตรี“ มิได้ใช้คำว่านายกรัฐมนตรี อีกทั้งรัฐธรรมนูญก็มิได้มีการบัญญัติเรื่องนี้ไว้ที่ใดเป็นอย่างอื่น รัฐมนตรีที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีจึงมีอำนาจในการทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาให้ทรงยุบสภาได้
5. ประเด็นต่อมาคือ แล้วรักษาการนายกรัฐมนตรีควรจะทูลเกล้าให้ทรงยุบสภาในขณะนี้หรือไม่? (คือทำได้ แต่ควรหรือไม่) ประเด็นนี้ผมได้เคยให้ความเห็นว่า ขณะนี้เป็นเรื่อง นายกรัฐมนตรีพ้นตำแหน่ง (เช่นเดียวกับ ตาย ลาออก หรือสภาผู้แทนลงมติไม่ไว้วางใจ) และ สภาผู้แทนกำลังจะเลือกนายกคนใหม่ จึงไม่ควรมีการดำเนินการยุบสภา ต่อเมื่อสภาผู้แทนไม่อาจเลือกนายกคนใหม่ได้ จึงค่อยยุบสภาคืนอำนาจตัดสินใจให้ประชาชนครับ
“ว่าง่าย ๆ ควร หรือ ไม่ควร เป็นเรื่องมีเหตุให้ต้องยุบสภาหรือไม่ ถ้ามีเหตุให้ต้องยุบสภา รักษาการนายกก็ทูลเกล้าให้ยุบสภาได้ครับ” ผศ.ดร.ระบุ
6. คำถามต่อมาคือ หากว่ารักษาการนายกรัฐมนตรีทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาให้ทรงยุบสภา พระมหากษัตริย์ทรงต้องโปรดเกล้าหรือไม่? ในเรื่องนี้รัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติไว้ครับ เท่าที่ผมทราบก็ไม่เคยเกิดปัญหานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีรักษาการนายกทูลเกล้าให้ทรงโปรดเกล้ายุบสภาในขณะที่สภากำลังเลือกนายกคนใหม่ เป็นเรื่องที่ยังไม่เคยเกิดครับ
สรุปคือ ในประเด็นที่ว่ารักษาการนายกยุบสภาได้หรือไม่? จริงๆ ถ้าว่ากันตามรัฐธรรมนูญต้องตั้งประเด็นใหม่ให้ถูกต้องว่า รักษาการนายกมีอำนาจทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยยุบสภาหรือไม่? ซึ่งคำตอบก็คือ ไม่มีตรงไหนที่รัฐธรรมนูญห้ามไว้ว่าทูลเกล้าไม่ได้ครับ แต่ควรหรือไม่ควรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นทั้งเรื่องความชอบธรรมและเรื่องในทางการเมือง
ถ้ารักษาการนายกของพรรคเพื่อไทยทูลเกล้ายุบสภา ก็เข้าใจได้ว่าเพราะพรรคเพื่อไทยไม่ต้องการให้พรรคภูมิใจไทยเป็นนายก และตนเองต้องเป็นฝ่ายค้าน จึงเลือกไปเสี่ยงเอาดาบหน้าในการเลือกตั้ง ซึ่งจะมีเหตุผลและความชอบธรรมหรือไม่ ก็เป็นเรื่องความรับผิดชอบทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยครับ
ซึ่งผมเห็นไปในทางว่าไม่ควรยุบสภาในขณะนี้ ก็เพราะสภากำลังเลือกนายกคนใหม่ หากสภาเลือกนายกคนใหม่ไม่สำเร็จ รักษาการนายกถึงค่อยทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกายุบสภาเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจว่าใครจะเป็นนายกคนใหม่ครับ
ที่นักวิชาการเห็นต่างกันว่า ยุบได้ หรือยุบไม่ได้ จริง ๆ แล้วส่วนหนึ่งเพราะมันพันกันอยู่ระหว่างทำได้หรือทำไม่ได้ กับควรทำหรือไม่ควรทำครับ ซึ่งผมเห็นว่าการถกเถียงกันนี้เป็นเรื่องที่มีประโยชน์ที่ทำให้สาธารณชนช่วยกันทำความเข้าใจในเรื่อง โระบบรัฐสภา ของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหาษัตริย์ทรงเป็นประมุข (Constitutional Monarchy) ของประเทศไทยครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ไอซ์ รักชนก” ตอบคำถาม “ทำไมพรรคประชาชนไม่อยู่เฉย ๆ”
“พรรคประชาชน” เปิดให้สมาชิกพรรคออกความเห็น “ควรโหวตใครเป็นนายก”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “อ.ปริญญา” ยัน รักษาการนายกฯ ยุบสภาได้ แต่ควรหรือไม่?
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com