ฟุตบอลไม่ใช่คำตอบ! อดีตดาวรุ่งพุ่งแรงแมนยู หันเหชีวิตทำธุรกิจเบเกอรี่
มาซซันก้า ซึ่งเกิดในย่านท็อตแน่ม กรุงลอนดอน ย้ายมาอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์พร้อมกับพ่อแม่ซึ่งเป็นศาสนาจารย์ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ และภายในเวลาไม่ถึงปี เขาก็ไปเข้าตาแมวมองของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากโชว์ฝีเท้าในทัวร์นาเมนต์เยาวชนที่จัดขึ้นในสนามซ้อมของสโมสร
ช่วงที่อยู่ในอะคาเดมี่ "ผีแดง" นั้น มาซซันก้า มีโอกาสได้ร่วมฝึกปรือฝีเท้ากับนักเตะดาวรุ่งมากมาย และที่โด่งดังในปัจจุบันก็คือ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์
ปัจจุบัน มาซซันก้า อายุ 28 ปีแล้ว ขณะที่ แรชฟอร์ด อายุ 27 ปี และ แม็คโทมิเนย์ อายุ 28 ปี ซึ่งทั้งสองคนกลายเป็นนักเตะทีมชาติเต็มตัว และลงเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมกันเกือบ 700 นัด สวนทางกับชีวิตของ มาซซังก้า กลับเดินไปในเส้นทางที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ในการให้สัมภาษณ์กับ "ทอล์คสปอร์ต" (talkSPORT) มาซซันก้า เล่าย้อนความหลังว่าการถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปล่อยตัวตอนอายุเพียง 12 ปี ทำให้เขาหัวใจสลายและถึงกับป่วยไปทั้งสัปดาห์
หลังจากนั้น มาซซันก้า ได้ไปฝึกต่อในอะคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และมีโอกาสค้าแข้งในหลายประเทศ ทั้งอิตาลี, เบลเยียม, ไซปรัส รวมถึงเล่นให้กับสโมสรเร็กซ์แฮม และ แม็คเคิลส์ฟิลด์ ในอังกฤษด้วย
มาซซันก้า ถูกดึงตัวกลับมาเล่นในอังกฤษให้กับ แม็คเคิ่ลส์ฟิลด์ โดยมี ร็อบบี้ ซาเวจ อดีตนักเตะชื่อดังในบทบาทผู้อำนวยการกีฬาเป็นคนชักชวน นักเตะก็มีส่วนสำคัญในการช่วยทีมคว้าแชมป์ เอ็นพีแอล ดิวิชั่น วัน เวสต์ ในปี 2023
การเล่นให้ แม็คเคิ่ลส์ฟิลด์ ไม่ได้มีเพียงแค่ความหอมหวานของชัยชนะเท่านั้น เพราะ มาซซันก้า ยังได้นำทักษะของเขาจากการดูแลธุรกิจเบเกอรี่ของครอบครัวที่ชื่อว่า "Tshibangbakes" ด้วยการแบ่งปันขนมหวานให้กับเพื่อนร่วมทีมอีกด้วย
เค้กทั้งหมดถูกหม่ำจนหมดภายในเวลาเพียงสิบนาที ซึ่งความสำเร็จนี้ก็เป็นแรงผลักดันให้เขาขยายธุรกิจเบเกอรี่ของครอบครัวต่อไป โดย มาซซันก้า เผยว่า "แรงบันดาลใจและความรักของผมยังคงอยู่กับฟุตบอลเสมอ นั่นเป็นรักแรกของผมมาตลอด"
"แต่เมื่อผมเริ่มทำธุรกิจ สิ่งหนึ่งที่ผมได้ตระหนักคือ มีทักษะมากมายจากฟุตบอลที่สามารถนำมาใช้ได้ในธุรกิจนี้ที่ผมกำลังทำอยู่ ผมมีความหลงใหลอย่างแท้จริง และสนุกกับการได้ส่งมอบของหวานที่อร่อยให้กับผู้คน ผมชอบการสร้างเครือข่าย และผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตัวเอง"
เมื่อเดือนที่ผ่านมา มาซซันก้า ได้รับแรงสนับสนุนจาก เจเรมี่ ฟริมปง แข้งใหม่ของ ลิเวอร์พูล ในการเปิดตัวในงาน Pathways Tournament x Career Fair โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนได้ค้นหาโอกาสใหม่ในอาชีพของพวกเขา
งานดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างมาก ขณะเจ้าตัวก็มีแผนที่จะขยายธรุกิจในปีหน้าด้วย โดย มาซซันก้า กล่าวว่า "ผมรู้สึกว่าแมนเชสเตอร์ต้องการกิจกรรมแบบนี้ และพูดตามตรงเลยว่ามันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมจริงๆ"
"มันยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็น เจเรมี่ (ฟริมปง) กลับมา อังกฤษ อีกครั้ง เขาทำผลงานได้ดีมากตอนอยู่ที่เยอรมนี เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ พวกเราทุกคนภูมิใจในตัวเขามาก" มาซซันก้า ระบุ
ขณะเดียวกัน มาซซันก้า ได้ย้อนกลับไปในวันที่เจ็บปวดที่สุดตอนที่โดน แมนยูไนเต็ด เขี่ยทิ้ง แต่เขาก็เชื่อว่าผลงานของคนรุ่นเขาได้ลงมือทำไว้ จะช่วยสร้างระบบสนับสนุนที่ดีขึ้นสำหรับเยาวชนที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบเดียวกับเขาในอนาคต
"ตอนเด็กๆ ผมซ้อมแทบจะวันเว้นวันเลยนะ เพราะงั้นแน่นอนว่าผมพลาดอะไรหลายอย่างไปเยอะเลย จริงไหม ? ผมรู้สึกว่าตอนนี้้ถ้ามองเพื่อนๆ ของผมซึ่งไม่ได้เล่นฟุตบอล และพวกเขาก็แค่ใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป ถ้าพูดแบบให้เข้าใจง่ายๆ ผมเหมือนเดินตามหลังพวกเขาอยู่ พวกเขาดูจะมีความมั่นคงในชีวิตมากกว่า"
"แต่ผมก็คิดว่าระบบสนับสนุนที่มีอยู่ทุกวันนี้เกิดขึ้นได้เพราะรุ่นของผม มีหลายอย่างที่เปลี่ยนไปในตอนนี้ เด็กๆ ในอะคาเดมี่เริ่มได้รับค่าตอบแทนดีขึ้น ได้รับการดูแลมากขึ้น ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังคิดว่ายังมีอีกหลายอย่างที่สามารถทำเพื่อเด็กๆ ได้"
"ทุกสโมสรควรมีหน้าที่ดูแลใส่ใจผู้เล่น ตั้งแต่วันที่พวกเขาเข้ามาอยู่ในระบบ ไม่ว่าจะตอนอายุ 6 ขวบหรือ 15 ปี สโมสรควรเก็บข้อมูลและเข้าใจตัวตนของนักเตะเหล่านั้นให้มากที่สุด ไม่ใช่แค่ดูจากความสามารถด้านฟุตบอลเท่านั้นนะ สโมสรควรเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เด็กคนนั้นชอบจริงๆ นอกเหนือจากฟุตบอลด้วย"
กระนั้น มาซซันก้า โชคดีมากๆ ที่มีน้องสาวและคุณแม่ที่ให้การช่วยเหลือเขาจนได้พบกับสิ่งที่ทำให้มีความสุขนอกเหนือจากการเล่นฟุตบอล หลังยอมรับว่าตอนเด็ก ๆ เขา ไม่เคยฝันอยากทำอย่างอื่นเลย นอกจากการได้เล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
มาซซันก้า กล่าวว่า "ผมเล่นแต่ฟุตบอลอย่างเดียวเท่านั้น ผมไม่เคยฝันที่จะทำอะไรอย่างอื่นเลย ตอนอยู่ แมนยู โค้ชมักจะพูดมาตลอดว่า -บางทีหนึ่งในพวกน้องๆ จะได้ขึ้นไปเล่นกับ แมนยูไนเต็ด เพียงคนเดียวเท่านั้น- และโอกาสแค่คนเดียวมันน้อยมาก เพราะงั้นคุณต้องรู้ว่าคุณควรจะทำอะไรต่อไป"
ขณะเดียวกัน มาซซันก้า ยอมรับว่าตนไม่เคยคาดคิดเลยว่า แรชฟอร์ด จะอำลา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ก็เชื่อว่า บาร์เซโลน่า เหมาะกับเพื่อนเก่าของตน พร้อมบอกนักเตะชั้นยอดควรได้เล่นกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่
นอกจากนี้ มาซซันก้า ยังกล่าวถึง แม็คโทมิเนย์ ซึ่งได้รับการชื่นชมอย่างมากว่าเป็นดาวรุ่งที่โดดเด่นที่สุดในรุ่นเดียวกัน จะก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมแมนยูในอนาคต แต่สุดท้ายเขาย้ายไปเล่นกับ นาโปลี และคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
"เขา (สกอตต์ แม็คโทมิเนย์) เคยบอกผมว่าเขากำลังจะย้ายไปนาโปลี พูดตามตรง ผมดีใจกับเขามากๆ เพราะผมเข้าใจดีว่าการย้ายไปเล่นต่างประเทศและต้องจากบ้านมันเป็นยังไง ผมดีใจและรู้สึกขอบคุณจริงๆ ที่ทุกอย่างมันไปได้สวยสำหรับเขา" มาซซันก้า กล่าว
✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄