รัฐบาล จ่อถอนร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร พ้นสภา ชงครม.ใหม่มีมติ
มีความคืบหน้าของ ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์(Entertainment Complex) ที่ยังไม่มีมติอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลว่าจะขอให้เลื่อน หรือ ถอนร่างออกการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีการประชุมอีกครั้งวันที่ 9 ก.ค. นี้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ค.68 นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล สำหรับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ยังคิดกันอยู่ว่าจะเลื่อนออกไป หรือถอนออกไป ซึ่งการถอนออกไปต้องขอมติที่ประชุมครม. และขอมติของที่ประชุมสภาฯ แต่ถ้าสภาฯไม่ติดใจอะไร ก็ถอนออกไปได้เลย
เมื่อถามว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจถอนร่างออกไป นายชูศักดิ์กล่าวว่า 1. มีการปรับครม.ใหม่เข้ามา ก็น่าจะเอามาคุยกันใหม่ให้สะเด็ดน้ำ 2. มีการตรวจสอบคะแนนเสียงว่าพอเพียงหรือไม่ ประมาณนี้
"เนื่องจากมีการปรับ ครม.และมีรัฐมนตรีใหม่เข้ามา จึงต้องนำเรื่องนี้กลับมาหารือให้ชัดก่อนเพื่อเช็กความพร้อมก่อนเดินหน้าในขั้นตอนต่อไป" นายชูศักดิ์ กล่าว
ด้าน นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เบื้องต้นคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร หรือ วิปรัฐบาล มีการหารืออย่างไม่เป็นทางการ โดยจะมีการถอนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ออกไปก่อน
"เพราะเท่าที่รับฟังความเห็นมา ประชาชนยังไม่เข้าใจโดยจะมีการประชุมหารือกันของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) ฝั่งรัฐบาล (วิปรัฐบาล) วันที่ 7 ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษเมื่อช่วงเที่ยง ไม่ได้หารือกันถึงประเด็นนี้"
โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลส่งสัญญาณเพียงจะทำการเลื่อนการพิจารณา แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นกระแสกดดันให้ "ถอนร่าง" มีจำนวนมากขึ้น
โดยเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ภาคีเครือข่ายต้านภัยกาสิโนและพนันออนไลน์ จำนวนกว่า 100 คน เดินทางยังทำเนียบรัฐบาล ยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลถอนร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร และร่างแก้ไขพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 เรื่องพนันออนไลน์ ออกจากกระบวนการทางกฎหมายอย่างถาวร
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนันในฐานะผู้ประสานงานเครือข่าย กล่าวว่า รัฐบาลเองยอมรับว่าประชาชนยังไม่เข้าใจเรื่องธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ขณะที่ประเทศมีปัญหาเร่งด่วนอื่นๆ มากมาย ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง ปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงไม่เห็นความจำเป็นที่รัฐบาลต้องเร่งผลักดันร่างกฎหมายนี้ ซึ่งอาจกลายเป็นฟืนไฟที่จุดความขัดแย้งในสังคม หนทางที่ดีที่สุดคือรัฐบาลถอนเรื่องนี้ออกจากกระบวนการรัฐสภา” นายธนากร กล่าว
ผู้ประสานงานเครือข่ายต้านกาสิโนกล่าวต่อว่า เครือข่ายภาคประชาชนอันประกอบด้วย เครือข่ายเด็กและเยาวชน เครือข่ายครอบครัว เครือข่ายพ่อแม่ผู้ปกครอง เครือข่ายชุมชน เครือข่ายแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข เครือข่ายศาสนา เครือข่ายครูอาจารย์และนักวิชาการ เครือข่ายนักกฎหมาย เครือข่ายสื่อสารมวลชน และเครือข่ายภาคประชาสังคม จึงเห็นว่าร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรและร่างแก้ไขพระราชบัญญัติการพนันที่รัฐบาลเสนอ ไม่อาจเดินหน้าไปต่อบนความเสี่ยงต่อความไม่เข้าใจและความไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนส่วนใหญ่ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลถอนร่างกฎหมายทั้งสองฉบับออกจากกระบวนการทางรัฐสภา เพื่อความสงบสุขในสังคมและเพื่อความสง่างามในทางนโยบาย
ดร.วศิน พิพัฒนฉัตร เครือข่ายนักสาธารณสุขจัดการปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ และทีมทนายจากเพจที่ปรึกษากฎหมายของชาวบ้าน กล่าวว่าปัจจุบันประเทศไทยเรายังคงมีดัชนีคอร์รัปชันและความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูง ถ้าจะต้องมีการจัดตั้งธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร รัฐบาลสมควรต้องพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 ให้สามารถบังคับใช้กฎหมายให้ทันสมัยด้วย เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นจากพนัน ส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ที่สถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ เช่น ปัญหาสุขภาพจิต ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาหนี้สิน เป็นต้น ทั้งนี้เป็นจุดยืนของเครือข่ายพวกเรา คือ เราไม่เอาพนันออนไลน์ที่จะถูกแฝงมาในวาระการผลักดันร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรนี้ด้วย
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่น่าจับตา โดยเฉพาะประเด็นที่ คณะรัฐมนตรี ยังไม่มีมติถอนร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร (กาสิโน) ออกจากระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า หากเดินหน้า การพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในสภาวันพุธหน้า จะเป็นบททดสอบความไว้วางใจของสภาและประชาชนต่อรัฐบาลทันที ท่ามกลางหลายเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อวาน หนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้น คือที่ประชุม ครม. ไม่ได้มีมติ ขอถอนร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร (กาสิโน) ออกจากระเบียบวาระการประชุมสภาผมยืนยันว่าผมและพรรคประชาชนเราไม่เห็นด้วยกับนโยบายและกฎหมายของรัฐบาล เนื่องจาก:
1. ประโยชน์ทางเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจนและขาดผลการศึกษาที่รอบคอบและสอดคล้องกับร่างกฎหมาย 2. ผลกระทบทางสังคมยังขาดมาตรการป้องกันที่รัดกุมเพียงพอและถูกรับประกันในตัวบทกฎหมาย 3. กระบวนการขับเคลื่อนนโยบายที่ผ่านมาขาดความตรงไปตรงมาและความคงเส้นคงวา
โดยหากรัฐบาลรับฟังข้อทักท้วงดังกล่าวอย่างจริงใจ เราเห็นว่า ครม. ควรมีมติให้ถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออก แต่หากรัฐบาลยังคงยืนยันที่จะไม่ถอน ร่างกฎหมายดังกล่าวก็จะเข้าสู่การพิจารณาเป็นคิวแรกของการประชุมสภาในวันพุธหน้า (9 ก.ค.)
ผมเข้าใจดีว่าประชาชนบางกลุ่มที่ไม่อยากให้รัฐบาลไปต่อ เสนอให้ฝ่ายค้านยื่นญัตติเพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ซึ่งทางผู้นำฝ่ายค้านและพรรคประชาชนเองก็เตรียมจะหารือเรื่องการใช้กลไกดังกล่าวโดยเร็วกับหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันพฤหัสบดีนี้ โดยเฉพาะเรื่องเนื้อหา จังหวะเวลา และบุคลากรในคณะรัฐมนตรีที่สมควรถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
แต่แม้ยังไม่มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 อย่างเป็นทางการ การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร (กาสิโน) ของ ครม. ในวันพุธหน้า จะเป็นเสมือนบททดสอบทันที ว่ารัฐบาลจะไปต่อได้หรือไม่ หรือจะได้รับ “ความไว้วางใจ” หรือไม่ ทั้งในเชิงความสามารถของรัฐบาลในการกุมเสียงในสภา และในเชิงความเห็นของประชาชนต่อทิศทางและนโยบายเรือธงของรัฐบาล ซึ่งหากกฎหมายของ ครม. ไม่ผ่าน ข้อเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองจะสูงยิ่งขึ้น จับตาดูท่าที ครม. กันครับ
ส่วนนายยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Add Bao” ระบุว่า ขอแสดงความเสียใจกับท่านนายกนกน้อยในสภาฯ ที่ถูกสั่งพักปฏิบัติหน้าที่ และถ้าไม่ผิดกติกาได้นั่งกระทรวงวัฒนธรรมก็น่าจะทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ วัฒนธรรมไทยเขา“ตีไก่กัดปลาชนวัว”ช่วยส่งเสริมหน่อยครับ เอาแบบที่ท่านเคยพยายามจะสร้างกาสิโนให้ได้ จนเกิดแรงต้านทั่วสารทิศถ้าเพื่อไทยยังดันทุรังจะสร้างกาสิโนให้ได้ พรรคเพื่อไทยที่ผมกาบัตรเลือกตั้งให้ คงจะสาปสูญไปพร้อมๆกับตระกูลเจ้าปัญหา….แน่นอนครับพี่น้อง