‘รังสิมันต์’ ชี้ กัมพูชายิงพื้นที่พลเรือนเข้าข่าย ‘อาชญากรรมสงคราม’
วันนี้ (24 ก.ค. 68) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ กล่าวว่า การที่กัมพูชาพุ่งเป้าโจมตีพื้นที่ชุมชนและพลเรือนถือว่าเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม และไม่แปลกใจที่กัมพูชายื่นเรื่องต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) อย่างรวดเร็ว เพราะเชื่อว่ามีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าเพื่อเล่นบทเป็นเหยื่อ และลากประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการของศาลโลก
นายรังสิมันต์ เปิดเผยเรื่องนี้ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เพื่อพิจารณาสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่า กมธ. มีมติให้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลอีกครั้งในวันที่ 31 ก.ค.นี้ หลังจากผู้ที่หน่วยงานต่างๆ ส่งมาชี้แจงแทนในการประชุมครั้งนี้ไม่มีอำนาจในการให้ข้อมูล
สำหรับปฏิบัติการทางทหารของกัมพูชา นายรังสิมันต์ระบุว่า ประเทศไทยต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ไม่ใช่เพียงการมุ่งเป้าโจมตีพลเรือน แต่รวมถึงการใช้ปราสาทพระวิหารเป็นเกราะกำบัง เพื่อนำเสนอข้อมูลที่ชัดเจนต่อประชาคมโลก ให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
ส่วนกรณีการยื่นเรื่องต่อ UNSC นายรังสิมันต์เชื่อว่าเป็นกลไกที่กัมพูชาต้องการใช้เพื่อบรรลุเป้าหมาย โดยทำให้ดูเหมือนไทยเป็นฝ่ายรังแก ซึ่งไม่เป็นความจริง และความรวดเร็วในการยื่นเรื่องสะท้อนว่ามีการวางแผนมาแล้ว โดยเป้าหมายสูงสุดคือการนำข้อพิพาทขึ้นสู่ศาลโลก และอาจเป็นความพยายามของสมเด็จฮุน เซน ในการสร้างผลงานทิ้งท้าย ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเผยให้เห็นความเป็นทรราชได้
นายรังสิมันต์ยืนยันว่าไทยจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อปกป้องอธิปไตย แต่ต้องทำอย่างมีชั้นเชิงเพื่อให้โลกอยู่ข้างไทยและป้องกันไม่ให้กัมพูชาบรรลุเป้าหมาย พร้อมกันนี้ยังเตือนให้ประชาชนรับมือกับการโจมตีทางข้อมูลข่าวสาร และขอให้ระมัดระวังการเปิดเผยพิกัดที่ตั้งต่างๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่และพลเรือนในพื้นที่