ทลายเครือข่ายค้าลิงอุรังอุตัง จากประเทศเพื่อนบ้านสู่ไทย เพื่อผ่านไปยังประเทศที่สาม
ทลายเครือข่ายค้าลิงอุรังอุตัง จากประเทศเพื่อนบ้านสู่ไทย เพื่อผ่านไปยังประเทศที่สาม
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. ร่วมกันจับกุม
1.นายมา (นามสมมุติ) อายุ 69 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2568
2.นายพัน (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2568
3.นายสัน (นามสมมุติ) อายุ 43 ตามหมายจับของศาลจังหวัดชุมพร ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2568
กระทำความผิดในข้อหา “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ป่าควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต” สืบเนื่องจากได้รับแจ้งข้อมูลด้านการข่าวจาก องค์การบริหารปลาและสัตว์ป่าแห่งสหรัฐ (U.S.Fish and Wildlife Service(USFWS)) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ต่อต้านการค้าสัตว์ป่าทุกชนิด แจ้งว่าจะมีขบวนการลักลอบนำเข้าลิงอุรังอุตังจากประเทศอินโดนีเซีย เข้ามายังประเทศไทยผ่านช่องทางที่จังหวัดสตูลมุ่งหน้ากรุงเทพฯ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร ได้สกัดรถต้องสงสัย ที่บริเวณปั๊มน้ำมันขาขึ้นถนนสายเอเชีย ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร พบนายวินัยฯ เป็นผู้ขับขี่ตรวจสอบภายในรถพบลิงอุรังอุตัง จำนวน 3 ตัว , ชะนี จำนวน 3 ตัว และกวางป่าอีก 1 ตัว บรรจุอยู่ในลังซุกซ่อนอยู่ภายในรถ และจับกุมตัวนายวัน (นามสมมุติ) ในข้อหา “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ป่าควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่ง พงส.กก.5 บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ชั้นจับกุมนายวัน (นามสมมุติ) ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้รับจ้างขนส่งมีบังแอ เป็นผู้ว่าจ้าง ขนสัตว์ทั้งหมดมาจาก อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา เพื่อไปส่งให้กับนายอ๊อฟ และนายกอล์ฟ ที่ จ.นนทบุรี ตนเองได้ค่าจ้างขนจำนวน 25,000 บาท
ต่อมาจากการสืบสวนขยายผล ทราบว่า บังแอที่นายวินัยฯ อ้างนั้น คือนายมา (นามสมมุติ) ส่วนนายอ๊อฟ คือนายพัน (นามสมมุติ) และนายกอล์ฟ คือนายสัน (นามสมมุติ) ซึ่งบุคคลทั้ง 3 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบค้าลิงอุรังอุตังจากอินโดนีเซียจริง โดยบังแอ จะเป็นผู้ลักลอบนำเข้าลิงอุรังอุตังจากอินโดนีเซีย ส่วนนายกอล์ฟ และนายอ๊อฟ
จะหาลูกค้าเพื่อนำไปขายต่อ ต่อมาศาลจังหวัดชุมพรได้ออกหมายจับบุคคลทั้งสามนี้ไว้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นเพื่อเข้าค้นบ้านพักที่หน้าเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ ผลการเข้าค้นสามารถจับกุมนายมา (นามสมมุติ) ได้ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา ส่วนนายสัน (นามสมมุติ) และนายพัน (นามสมมุติ) สามารถจับกุมได้ที่บ้านพักใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยนายแอ รับว่ามีนายทุนอีกกลุ่มหนึ่งนำเข้าลิงมาจากประเทศอินโดนีเซีย มากับเรือสปีดโบ๊ท มาขึ้นท่าที่อำเภอละงู แล้วนำมาเก็บไว้ที่ห้องเช่าใน อ.หาดใหญ่ แล้วตนเองจะติดต่อรถขนเพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าที่สั่ง ซึ่งทำมาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนนายสัน (นามสมมุติ) กับนายพัน (นามสมมุติ) ให้การว่าประกอบอาชีพค้าขายสัตว์ป่าหายากให้กับผู้ที่อยากได้ รวมถึงลิงอุรังอุตังในครั้งนี้ด้วย เคยทำมาแล้วประมาณ 3-4 ครั้ง ซื้อมาในราคาตัวละ 70,000 บาท แล้วนำไปขายในราคาตัวละ 120,000 บาท แต่หากลิงถูกขายส่งต่อไปยังประเทศอื่นก็จะมีราคาอาจสูงถึงตัวละ 250,000 บาท
ซึ่งหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวน เพื่อขยายผลถึง ผู้ว่าจ้าง ผู้ซื้อ และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา อีกทั้งติดตามหานายทุนที่อยู่เบื้องหลังการนำเข้าจากอินโดนีเซียและลูกค้าที่เคยซื้อสัตว์ป่า โดยของกลางนั้น เจ้าหน้าที่ได้ส่งสัตว์ของกลางให้กรมอุทยานฯ ตรวจสอบและเก็บ DNAใช้เป็นหลักฐานเชื่อมโยงเครือข่าย เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศ: กรมอุทยานฯ, ศุลกากร, ป.ป.ส.ต่างประเทศ: USFWS, ตำรวจอินโดนีเซีย, Interpol รวมถึงวางมาตรการในการป้องกันเหตุซ้ำ โดยตรวจสอบจุดพักสัตว์ เช่น ห้องเช่าในหาดใหญ่เฝ้าระวังท่าเรือ อ.ละงู และช่องทางออนไลน์ต่อไป