เท้ง ขอบคุณประชาชน ไว้ใจเป็นนายกฯ เบอร์1 ดึงสติอย่ากวักมือเรียก “รัฐประหาร”
เท้ง ขอบคุณประชาชน มอบความไว้วางใจให้เป็น “นายกฯ อันดับหนึ่ง” ดึงสติคนไทย ไม่ไปเป็นเครื่องไม้เครื่องมือแกนนำผู้ชุมนุม กวักมือเรียก รัฐประหาร ชี้ ‘ลุงตู่’ ได้อันดับสาม สะท้อนความนิยมคนเชียร์ ‘นายกฯ ทหาร’ มากขึ้น หวั่น ‘แพทองธาร’ ทำประเทศไปอยู่ในจุดที่ไม่อยากเห็น จวกบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ทำตัวเองร่วงกราวรูดลงอันดับ 5
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์วันนี้ (29 มิ.ย.) ถึงกรณีผลนิด้าโพล ในหัวข้อคะแนนความนิยมทางการเมืองไตรมาสสอง ซึ่งประชาชนไว้ใจนายณัฐพงษ์เป็นอันดับหนึ่งให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเจ้าตัวระบุว่า “ต้องขอบคุณประชาชนทุกคนที่มอบความไว้วางใจ” ให้กับตนและพรรคประชาชนในการโหวตมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดีหากวิเคราะห์อีกส่วนหนึ่ง เราจะเห็นว่าคะแนนนิยมของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตกลงมาก ซึ่งเกิดจากความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ทำให้ประชาชนสูญเสียความเชื่อมั่น และยังมีคะแนนนิยมที่เพิ่มขึ้นต่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีท่านอื่น เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ตนและพรรคประชาชนมีข้อเป็นห่วง เพราะเมื่อวานนี้ ในการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หลายข้อเรียกร้องอาจจะเลยเถิดไปถึงการเรียกร้องนายกรัฐมนตรีที่ใช้กระบวนการนอกระบบ เรียกร้องให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร ผลโพลที่เราเห็นอาจจะนิยมตัวนายกรัฐมนตรีที่มาจากฝั่งทหารมากยิ่งขึ้น ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ก็ยึดอำนาจมาด้วยตัวเอง จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่เราค่อนข้างมีข้อกังวล ว่าความล้มเหลวของ น.ส.แพทองธาร อาจจะนำไปสู่การเมืองที่พวกเราไม่อยากเห็น คือการใช้อำนาจนอกระบบหรือนายกรัฐมนตรีที่มาจากทหาร
เมื่อถามว่า คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาอันดับสาม แสดงว่ามีคนส่วนหนึ่ง ต้องการให้ มีอำนาจนอกกระบวนการใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ผลโพลสะท้อนความต้องการของประชาชน ซึ่งต้องการนายกรัฐมนตรีที่มีความเข้มแข็ง เข้ามาแก้ไขปัญหา เช่น สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดที่ประชาชนจะเห็นแบบนั้น แต่เรามีข้อกังวลมากกว่า คือการที่มีกลุ่มก้อนบางกลุ่มหรือกลุ่มก้อนการเมือง พยายามฉกฉวยโอกาส ฉกฉวยความรู้สึกของคนในสังคมแบบนี้ เพื่อชิงความได้เปรียบ และนำไปสู่สถานการณ์ทางการเมืองบางอย่างที่ไม่ได้เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย ตนดูจากผลโพลด้วย และการเรียกร้องบนเวทีของแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
ต่อมามีการซักถามอีกว่า ฝ่ายค้านจะบริหารความไม่แน่นอนทางการเมืองในช่วงนี้อย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องการออกมาสื่อสารกับประชาชนให้ยืนอยู่บนหลักการ เรื่องของความเห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก หรือเรียกร้องให้มีการยุบสภาตามจุดยืนของพรรคประชาชน ตนคิดว่ายังพอพูดคุยถกเถียงกันได้ เพราะอยู่ในกรอบของประชาธิปไตย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ กลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกไปชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ เริ่มเล็งเห็นแล้วว่ามีการชี้นำบางอย่างจากแกนนำว่าอยากให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร หรือเรียกร้องกระบวนการอื่นๆที่ไม่ได้เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย ตนอยากจะให้กลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ทบทวนดูว่าการจัดตั้งชุมนุมครั้งนี้คืออะไร
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราควรถอยมาที่หลักการใหญ่ๆ 2 ข้อ 1. เราอยากเห็นรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชน ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ไม่ใช่ทางออกอย่างแน่นอน นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลควรจะต้องมีการเปลี่ยน และข้อสอง เราจะต้องไม่สนับสนุนกระบวนการใดๆ ที่เป็นกระบวนการนอกระบบประชาธิปไตย ไม่ว่าทางเดินใดก็ตาม ถ้ามีการเรียกร้องให้ไปสู่จุดนั้น เราก็ต้องมีสติและถอยออกมา.