พิษณุโลก-บุรีรัมย์สะเทือน! พระดังลาสิกขา-ถูกเผยแพร่ภาพอนาจาร
เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2568 เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เมื่อเพจเฟซบุ๊ก CSI LA โพสต์ภาพพระสงฆ์ในลักษณะอนาจาร ถ่ายเซลฟีและอยู่ในอิริยาบถไม่เหมาะสมในห้องนอน พร้อมระบุว่าเป็นพระนักเทศน์ชื่อดังจากวัดในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งอาจขัดต่อพระธรรมวินัย โพสต์ดังกล่าวเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักพระพุทธศาสนาและเจ้าคณะจังหวัด ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ต่อมาวันที่ 6 ก.ค. พระครูนิเทศธรรมคุณ เจ้าคณะอำเภอโนนดินแดง พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดบุรีรัมย์และตำรวจ สภ.โนนดินแดง ลงพื้นที่วัดโนนดินแดงใต้เพื่อตรวจสอบ พบว่าพระนักเทศน์ที่ถูกกล่าวหาอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่น ทางคณะสงฆ์ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ โดยพระนักเทศน์ยอมรับว่าเป็นภาพของตนเอง แต่เป็นภาพเก่าที่ถ่ายไว้ในโทรศัพท์ส่วนตัว และยืนยันว่าไม่มีบุคคลอื่นอยู่ในภาพหรือมีความสัมพันธ์ตามที่ถูกกล่าวหา
ที่มา : CSI LA
ด้าน นายสุรินทร์ ทาซ้าย ทนายความตัวแทนวัด ระบุว่าพระนักเทศน์มีพฤติกรรมดี ไม่เคยอนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าเขตสงฆ์ และตั้งข้อสงสัยว่าภาพอาจถูกสร้างด้วย AI เพื่อใส่ร้าย ทางวัดได้แจ้งความที่ สภ.โนนดินแดง เพื่อดำเนินคดีกับเพจ CSI LA ในข้อหาหมิ่นประมาทและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ขณะที่ทางเพจก็ได้แต่งตั้ง "ทนายอั๋น" จากบุรีรัมย์
ให้เป็นตัวแทนทางกฎหมายของเพจ CSI LA เพื่อดำเนินคดี กลับ ต่อพระที่ถูกกล่าวหา ฐานแจ้งความเท็จ และพยายามกลั่นแกล้งผู้เปิดโปง
ทั้งนี้ พระนักเทศน์จะเดินทางกลับถึงไทยในวันที่ 8 ก.ค. และจะชี้แจงต่อสำนักพระพุทธศาสนา คณะสงฆ์ และตำรวจในวันที่ 9 ก.ค.2568 เพื่อความโปร่งใส นอกจากนี้ จะมีการตรวจสอบข้อกล่าวหาเรื่องการมั่วสุมสิ่งเสพติดในวัดตามที่เพจระบุ โดยยึดพยานหลักฐานเป็นหลัก
พระปลัดสุรพลลาสิกขาเงียบ
ที่ จ.พิษณุโลก พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และเลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เขต 2 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2568 พระปลัดสุรพล อิทธิเตโช ได้เดินทางมาขอลาสิกขาที่วัดกรุงกรัก โดยพิธีลาสิกขาดำเนินการเรียบร้อยตามขั้นตอน ท่านระบุว่าไม่ได้สอบถามสาเหตุการลาสิกขา เพียงยืนยันว่าพระปลัดสุรพลตัดสินใจด้วยตนเองเพื่อกลับไปใช้ชีวิตฆราวาส ส่วนข่าวลือในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือการมีบุตรสาววัย 13 ปีใน จ.พิจิตร พระครูวิโรจน์ธรรมากรระบุว่าไม่ทราบรายละเอียดและไม่ได้สอบถามในวันนั้น
พระครูวิโรจน์ธรรมากรย้ำว่า พระปลัดสุรพลไม่ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพรหมเกษรหรือเจ้าคณะตำบลมานาน 3-4 ปี เนื่องจากลาออกเพราะเป็นพระนักเทศน์ที่ต้องเดินทางบ่อย ไม่สามารถดูแลวัดหรือปฏิบัติหน้าที่ปกครองได้ ก่อนลาสิกขา พระปลัดสุรพลอยู่ในสถานะพระภิกษุธรรมดา ไม่มีตำแหน่งหรือสิทธินิตยภัต และการลาสิกขาครั้งนี้เป็นไปตามขั้นตอนปกติ โดยได้แจ้งผู้เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว
อ่านข่าวอื่น :