งานราชการ VS งานเอกชน: เลือกอะไรดี ? | เงินทองของจริง

ในยุคปัจจุบัน มีคนไม่น้อยเลยที่สับสนว่าตัวเองจะทำงานราชการหรือเอกชนดี บางคนหมดไฟจากการเป็นพนักงานออฟฟิศก็ออกมาสอบเข้าราชการ หรือบางคนที่อยู่ในระบบราชการมานานๆ ก็รู้สึกเบื่อกับระบบ เงินเดือนก็น้อย นี่เป็นหนึ่งในปัญหาโลกแตกของคนทำงานหลายคน ทั้งกลุ่มที่เพิ่งทำงานและคนทำงานมาได้สักระยะ เพราะแต่ละคนมีภาระที่แบกไว้ต่างกัน ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่เหมือนกัน ทั้ง 2 ระบบงานต่างก็ประกอบด้วยปัจจัยที่ มี และ ไม่มี ต่างกัน ข้อดี-ข้อเสียของงานเอกชน ข้อดีของงานเอกชน 1. คล่องตัวและรวดเร็ว การทำงานสไตล์เอกชน เวลา คือปัจจัยสำคัญของทุกอย่าง จึงไม่แปลกที่ระบบการทำงานของเอกชนจะมีความคล่องตัวและ Flexible ค่อนข้างสูง เรียกว่าลดทุกความยุ่งยากที่ทำให้เสียเวลา มุ่งเน้นการ Drive งานไปยังเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด 2. ก้าวหน้าและแข่งขันสูง ใครที่แสวงหาความก้าวหน้าในอาชีพ รักความท้าทาย งานแบบเอกชนน่าจะตอบโจทย์ เพราะด้วยระบบงานที่วัดผลด้วยคุณภาพงาน ดังนั้น ใครที่ทำผลงานได้ดี ย่อมได้รับความก้าวหน้า รวมไปถึงการเลื่อนตำแหน่งด้วย 3. ค่าตอบแทนคุ้มค่า และสวัสดิการหลากหลาย จุดแข็งของเอกชนคือค่าตอบแทนที่คุ้มค่า รวมถึงสวัสดิการที่หลากหลาย ด้วยภาระงานและความรับผิดชอบค่อนข้างสูง ค่าตอบแทนจึงจำเป็นต้องสูงตามไปด้วย เพื่อดึงให้คนมาทำงาน รวมถึงสวัสดิการต่างๆ ที่ครอบคลุมทั้งเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพใจ บางบริษัทให้เบิกได้กระทั่งค่าเล่าเรียน สปา นวด ค่าออกกำลังกาย ข้อเสียของงานเอกชน 1. ความไม่มั่นคงในงาน - เมื่อเงินเดือนสูง โอกาสที่จะโดนยื่นซองขาวก็มีเช่นกัน ในกรณีที่บริษัทจำเป็นต้องลดภาระค่าใช้จ่าย 2. บริษัทอาจไม่อุ้มพนักงาน - ต่อให้พนักงานขยันสุดๆ หรือรักองค์กรมากแค่ไหน เมื่อไม่คุ้มบริษัทก็ไม่แคร์ 3. การลาออกเกิดขึ้นบ่อย - ทั้งกับเพื่อนร่วมงานและรวมถึงตัวคุณเอง เพราะบางคนอาจจะมาแค่อยากได้ประสบการณ์แล้วก็จากไป 4. ต้องรีบเก็บออม - หากไม่รีบเก็บออมในขณะที่ยังได้เงินเดือนสูง โดนปลดไม่ทันตั้งตัวอาจทำให้ชีวิตเปลี่ยนได้เลย 5. ได้เงินเดือนช้า - กว่าจะได้รับเงินเดือนคือสิ้นเดือนเลย คือวันที่ 30 หรือ 31 ของเดือน 6. เลิกงานช้า - เวลาเลิกงานช้ากว่าระบบราชการ 7. วันหยุดน้อย - บางบริษัททำงานหยุดแค่วันอาทิตย์วันเดียว ข้อดี-ข้อเสียของงานราชการ ข้อดีของงานราชการ 1. ช้า ๆ แต่ว่ามั่นคง สิ่งนี้อาจะเป็นข้อที่ทำให้หลายๆ คนอยากเบนเข็มมาทำงานสายนี้ แม้จะแลกกับเงินเดือนเริ่มต้นที่น้อย แต่หากคุณไม่ได้ทำผิดวินัยราชการร้ายแรง ส่วนมากก็อยู่ได้เรื่อยๆ จนกระทั่งเกษียณ เรียกว่าเป็นงานที่ความเสี่ยงตกงานค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับเอกชน 2. สวัสดิการครอบคลุมไปถึงคนในครอบครัว แม้ค่าตอบแทนของงานราชการจะน้อย แต่ว่าสวัสดิการต่าง ๆ ค่อนข้างครอบคลุมดูแลไปถึงคนในครอบครัว ทั้งพ่อ แม่ ลูก กรณีเจ็บไข้ได้ป่วย คุณสามารถใช้สิทธิราชการเบิกรักษาได้ รวมถึงมีเงินให้หลังเกษียณ อย่างพวกบำเหน็จบำนาญ 3. ไม่ต้องแข่งขันสูง ใครเป็นสายทำงานเรื่อย ๆ ไม่ชอบแข่งกับใคร ไม่ชอบความวุ่นวาย งานราชการน่าจะเป็นคำตอบที่ดีกับคุณ ด้วยขั้นตอนและแบบแผนที่เซ็ตไว้ค่อนข้างชัดเจน เราก็มีหน้าที่ทำตามลำดับขั้นไปเรื่อย ๆ ทุกอย่างต้องตรวจสอบและโปร่งใส ข้อเสียของงานราชการ 1. ระบบงานช้า - เป็นไปตามขั้นตอน ค่อนข้างช้า เพราะต้องผ่านการอนุมัติจากหลายฝ่าย 2. ระบบเบิกจ่ายซับซ้อน - หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับงบประมาณ ต้องรอระยะเวลาที่ใช้งบประมาณได้ ซึ่งต้องมีการสำรองจ่ายกันอยู่บ้าง 3. ระบบงานล้าสมัย - บางงานยังเป็นการทำงานในระบบแบบดั้งเดิม ไม่มีการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย 4. ความเสี่ยงหลังเกษียณ - บำเหน็จ บำนาญ หากเลือกผิดชีวิตเปลี่ยน เนื่องจากหลังเกษียณอายุราชการ เงินเดือนจะลดลง หากบริหารเงินไม่ดี อาจลำบากได้ เปรียบเทียบสวัสดิการ สวัสดิการข้าราชการ 1. สิทธิ์ในการลา - หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นลาป่วย ลากิจ ลาพักผ่อน ลาคลอดบุตร ลาอุปสมบท ลาไปศึกษา ฝึกอบรม ลาไปปฏิบัติงานองค์การระหว่างประเทศ 2. ค่าเล่าเรียนบุตร - เบิกค่าเล่าเรียนของบุตรได้สูงสุด 3 คน ตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาตรี 3. ค่ารักษาพยาบาล - มีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลจากทางราชการ สำหรับตนเอง บิดามารดา คู่สมรสและบุตร 4. กองทุนบำเหน็จบำนาญ - ข้าราชการที่เกษียณอายุราชการแล้วจะได้รับเงินที่เป็นหลักประกันชีวิตในวัยเกษียณ 5. สิทธิประโยชน์เกื้อกูล - เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ เงินตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ 6. เงินสวัสดิการพิเศษ - สำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษ และการไปปฏิบัติราชการนอกสำนักงานเกิน 15 วัน 7. เครื่องราชอิสริยาภรณ์ - ในกรณีที่ทำประโยชน์แก่ราชการหรือสาธารณชน สวัสดิการพนักงานเอกชน (ตัวอย่าง) สวัสดิการเด่น ๆ ที่หลายบริษัทมี 1. นวดฟรี - ครั้งละ 15 นาที จากการจ้างหมอนวดตาบอดมาประจำออฟฟิศ 2. อาหารฟรี - ข้าวเช้าและข้าวกลางวันฟรีทุกวัน เพื่อประหยัดเวลาให้กับพนักงาน 3. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ - กองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้ง เพื่อให้ลูกจ้างมีเงินออมไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณอายุ สวัสดิการมาตรฐาน - ประกันชีวิต - ตรวจสุขภาพประจำปี - เงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจ - รถประจำตำแหน่ง (สำหรับฝ่ายขายหรือฝ่ายที่จำเป็นต้องติดต่อลูกค้าภายนอก) หมายเหตุ จำนวนเงินและรายละเอียดขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท พบกับ โค้ชหนุ่ม และ ทิน โชคกมลกิจ ได้ใน เงินทองของจริง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-8.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero #เงินทองของจริง #TERODigital #CH7HDNews