รัฐบาลไทย ออกแถลงการณ์ประท้วง การใช้ทุ่นระเบิดสังหารตัวบุคคล หลังทหารไทยลาดตระเวนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย
รัฐบาลไทย ออกแถลงการณ์ประท้วง การใช้ทุ่นระเบิดสังหารตัวบุคคล หลังทหารไทยลาดตระเวนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ย้ำไม่มีการใช้หรืออยู่ในคลังอาวุธของไทย ระบุ เป็นการละเมิดอธิปไตย ขัดต่อกฏบัตรสหประชาชาติ
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ล่าสุดไทย-กัมพูชา ภายหลังกำลังพลของไทยเหยียบทุ่นระเบิดเมื่อช่วงบ่ายวัน 16 กรกฎาคม 2568 หลังลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบกจังหวัดอุบลราชธานี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย โดย 1 นายข้อเท้าซ้ายขาด และปัจจุบันทหารทุกนายอาการปลอดภัย อยู่ระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้ทหารไทยทุกนายที่ได้รับบาดเจ็บฟื้นตัวโดยเร็วไปก่อนหน้านี้แล้ว
สำหรับประเด็นเกี่ยวกับทุ่นระเบิดในพื้นที่นั้น กองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ( 19 ก.ค.68 ) ภายหลังการตรวจสอบของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติยืนยันว่า ทุ่นระเบิด 8 ลูกที่พบ เป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ และไม่มีในการใช้งานหรือในคลังอาวุธของไทย
โดยในวันนี้ ( 20 ก.ค. ) ได้มีการประชุมฝ่ายเลขานุการของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาหรือ ศบ.ทก. ซึ่งเป็นการประชุมระดับปฏิบัติ เพื่อแลกเปลี่ยนจัดเตรียมข้อมูล เพื่อเสนอแนวทางการปฏิบัติการดำเนินการในด้านต่างๆให้ที่ประชุม ศบ.ทก. ที่มีกำหนดประชุมในวันพรุ่งนี้ ( 21 ก.ค.68) พิจารณาต่อไป
วันนี้ กระทรวงการต่างประเทศจึงออกแถลงการณ์ เรื่องการประท้วงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารตัวบุคคล ที่กำลังพลกองร้อยฐานทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบจากของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้หรืออยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูลและหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่นๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบสรุป นำไปสู่ข้อสรุปได้ว่า เป็นการวางทุนระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ ละเมิดพันธะกรณีที่อยู่ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญา จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาโดยจะยังคงหาทางแก้ไขปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆที่มีอยู่ และขอเรียกร้องฝ่ายกัมพูชาให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุนระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดนตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันภายในกรอบทวิภาคี
ในช่วงท้ายโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวว่า นี่คือช่วงเวลาที่สถานการณ์มีความละเอียดอ่อน การสื่อสารในสังคม โดยเฉพาะช่องทางสื่อสังคมออนไลน์อาจจะนำไปสู่ความเข้าใจผิดหรือสร้างความแตกแยกโดยไม่ได้ตั้งใจ กระทรวงการต่างประเทศ จึงขอให้สังคมเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจากทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายความมั่นคง เพื่อความสามัคคีกันของคนในชาติซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้