ไคเรน เชือด อาลี คาร์เตอร์ 11-9 เฟรมผงาดแชมป์สนุกเกอร์เซี่ยงไฮ้มาสเตอร์ส 2025
เกมการดวลคิวในรอบชิงชนะเลิศ เป็นไปอย่างเข้มข้นเมื่อต่างฝ่ายต่างสู้กันได้อย่างสนุก แม้อันดับโลกจะห่างกันถึง 15 ขั้นก็ตาม ก่อนที่สุดท้าย ไคเรน ที่กดไป 2 เซ็นจูรี่เบรกในรอบชิงชนะเลิศ จะเป็นฝ่ายเอาชนะไปในที่สุด คว้าแชมป์เซี่ยงไฮ้มาสเตอร์สไปครองเป็นสมัยที่ 2 ต่อจากปี 2015 รับเงินรางวัล 210,000 ปอนด์ หรือราวๆ 9 ล้านบาท
ทั้งนี้การได้แชมป์เซี่ยงไฮ้มาสเตอร์สที่เพิ่งรูดม่านปิดฉากลงไป กับเมื่อ 10 ปีก่อนนั้นค่อนข้างแตกต่างกัน
กล่าวคือการคว้าแชมป์เมื่อปี 2015 ซึ่งในเวลานั้น ศึกเซี่ยงไฮ้มาสเตอร์สยังเป็นรายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง ที่มีผลต่อคะแนนสะสมอันดับโลก ตรงข้ามกับปัจจุบันที่เป็น non-ranking ทัวร์นาเมนต์ ซึ่งไม่มีผลต่อคะแนนสะสมอันดับโลกแต่อย่างใด มีเฉพาะเงินรางวัลให้ชิงชัยเท่านั้น
นอกจากนี้ เงินรางวัลสำหรับแชมป์เมื่อ 10 ปีก่อน ยังน้อยกว่าปัจจุบันกว่า 3 เท่า(ตอนนั้นแชมป์รับเงินรางวัลเพียง 85,000 ปอนด์ หรือราวๆ 3.6 ล้านบาท) แถมในเวลาดังกล่าว เขาเป็นเพียงนักสอยคิวโนเนม ก่อนจะโค่นมือดังอย่าง จัดด์ ทรัมป์ เพื่อนร่วมชาติในรอบชิงชนะเลิศไปอย่างหักปากกาเซียน 10-9 เฟรม ซึ่งนั่นคือแชมป์อาชีพรายการแรกของเขา
กาลเวลาผ่านมา 1 ทศวรรษ ไคเรน ที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 2 ของโลก พร้อมยกระดับขึ้นมาเป็นนักสอยคิวชั้นแนวหน้าแห่งวงการ สามารถคว้าแชมป์ไปครองอย่างยอดเยี่ยม
ซึ่งเส้นทางก่อนจะคว้าแชมป์ เขาเอาชนะยอดฝีมือได้ถึง 2 คนด้วยกัน ประกอบด้วยรอบ 8 คน ที่จัดการคว่ำมหาเทพแห่งวงการอย่าง “เดอะร็อกเก็ต” รอนนี่ โอวัลลิแวน มือ 5 ของโลกจากอังกฤษ ผู้ซึ่งเป็นแชมป์รายการนี้มากที่สุดถึง 5 สมัยไปได้ 6-3 เฟรม และแมตช์รอบรองชนเลิศ ที่จัดการปราบแชมป์โลกคนล่าสุดอย่าง จ้าว ซิน ถง มือ 11 ของโลกจากจีน ต่อหน้าแฟนสอยคิวจากแดนมังกรไปอย่างราบคาบ 10-5 เฟรม
หากรับความสำเร็จทุกรายการ นี่คือถ้วยแชมป์ใบที่ 12 ของจอมคิววัย 33 ปี ซึ่งแบ่งเป็นแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง 10 รายการ และแชมป์ non-ranking 2 รายการ โดยเซี่ยงไฮ้มาสเตอร์ส 2025 คือแชมป์ non-ranking ทัวร์นาเมนต์ที่ 2 ของเจ้าตัว ต่อจากศึก 6 แดงชิงแชมป์โลก 2018 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
ด้าน อาลี คาร์เตอร์ แม้จะได้เพียงรองแชมป์ แต่การผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ คือวีรกรรมที่เหลือเชื่อและเกินคาด เพราะตอนแรก เขาไม่ได้สิทธิ์ลงดวลคิวในรายการนี้ เนื่องจากมาจากอันดับโลก ไม่ได้อยู่ในท็อป 16 แต่จากการที่ มาร์ค อัลเลน มือ 10 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือได้ถอนตัว ส่งผลให้เขา ได้สิทธิ์มาเป็นมวยแทน แต่สามารถฝ่าฟันอุปสรรค จนเข้ารอบชิงชนะเลิศได้อย่างเซอร์ไพรส์
จากการคว้ารองแชมป์หนนี้ของ “กัปตัน” ส่งผลให้จอมคิวที่มีความสามารถในการขับเครื่องบินได้ รับเงินรางวัลไป 105,000 ปอนด์(ประมาณ 4.5 ล้านบาท)
สำหรับรายการต่อไปในปฏิทินของเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) คือศึกใหญ่ในดินแดนเศรษฐีน้ำมันอย่างซาอุดีอาระเบียมาสเตอร์ส 2025 ที่กรีนฮอลส์ นครเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 8-16 สิงหาคม 68
รายการนี้ชิงเงินรางวัลรวมถึง 2,302,000 ปอนด์(กว่า 100 ล้านบาท) โดยแชมป์ จะได้รับเงินก้อนโตเทียบเท่ากับการคว้าแชมป์โลกถึง 500,000 ปอนด์(ราวๆ 21.6 ล้านบาท)