โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

วิเคราะห์เบื้องลึก: ทำไมสหรัฐฯ อาจไม่จำกัดการส่งออก GPU และการเดิมพันครั้งใหญ่ของ NVIDIA ในสมรภูมิ AI

ไทยโพสต์

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสข่าวที่สร้างความหวั่นไหวในแวดวงเทคโนโลยีและตลาดทุนทั่วโลก คือการให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐอเมริกา ที่ส่งสัญญาณว่า "อาจจะ" ขยายมาตรการจำกัดการส่งออกชิปประมวลผลกราฟิก (GPU) สำหรับ AI ไปยังประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากจีน (เช่น ไทยและมาเลเซีย) ซึ่งสร้างความกังวลว่าสงครามเทคโนโลยีอาจลุกลามบานปลาย
อย่างไรก็ตาม หากเราวิเคราะห์ลงไปในรายละเอียด จะพบว่าสถานการณ์อาจไม่น่าตื่นตระหนกอย่างที่คิด และนี่อาจเป็นเพียงการ "โยนหินถามทาง" ในเกมการเมืองระหว่างประเทศที่ซับซ้อนยิ่งกว่าที่เห็น
เบื้องหลังข่าว "อาจจะ": เกมการเมืองและพลังของการเจรจา

คำว่า "อาจจะ" ในบริบททางการทูตและการเมืองระหว่างประเทศ มีความหมายลึกซึ้ง มันคือการส่งสัญญาณเพื่อดูท่าทีของฝ่ายต่าง ๆ ทั้งคู่แข่ง พันธมิตร และที่สำคัญที่สุดคือ ภาคเอกชนในประเทศของตนเอง ข้อมูลที่ปรากฏในข่าวก็ยังไม่มีรายละเอียดหรือเงื่อนไขที่ชัดเจน ซึ่งบ่งชี้ว่านี่ยังไม่ใช่การตัดสินใจขั้นสุดท้าย

ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจและเป็นหมุดหมายสำคัญ เกิดขึ้นหลังจากข่าวนี้แพร่สะพัดไม่นาน คือราคาหุ้นของ NVIDIA บริษัทผู้ผลิต GPU ชั้นนำของโลก ได้พุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่ (All-time High) อีกครั้ง อยู่ที่ระดับสูงกว่า 170 USD เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่ นายเจนเซน ฮวง (Jensen Huang) ซีอีโอของ NVIDIA ได้เข้าพบและหารือกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ และทีมงาน นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า ตลาดทุนเชื่อมั่นว่าการเจรจาได้ข้อสรุปที่เป็นบวก และความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันที่รุนแรงได้ลดน้อยลง ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า นายเจนเซน ฮวง สามารถอธิบายให้ทีมงานของทรัมป์เข้าใจถึงผลได้ผลเสียที่แท้จริง ซึ่งซับซ้อนกว่าแค่การมองว่า "ชิป" เป็นเพียงสินค้าทางกายภาพชิ้นหนึ่ง
NVIDIA ไม่ได้ขายแค่ "ชิป" แต่ขาย "ระบบนิเวศ" (Ecosystem)
สำหรับคนทั่วไป อาจมองว่าความแข็งแกร่งของ NVIDIA มาจากตัวชิปที่มีประสิทธิภาพสูงเพียงอย่างเดียว แต่สำหรับนักพัฒนาและคนในวงการเทคโนโลยีจะทราบดีว่า "ไพ่ตาย" ที่แท้จริงของ NVIDIA คือ ระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่แข็งแกร่งและยากจะหาใครทัดเทียม
ลองจินตนาการถึง Apple ที่ไม่ได้ขายแค่ iPhone แต่ขายประสบการณ์ผ่าน App Store, iCloud และ iOS ที่ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น NVIDIA ก็เช่นกัน พวกเขาได้สร้าง CUDA (Compute Unified Device Architecture) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์และชุดเครื่องมือ (Library) ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถดึงศักยภาพสูงสุดของ GPU ออกมาใช้ในงานคำนวณที่ซับซ้อน เช่น การพัฒนา AI, การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์

ระบบนิเวศนี้เองที่ "ล็อก" ให้นักพัฒนาทั่วโลกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ NVIDIA เพราะมันคือเครื่องมือที่ดีที่สุด มีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยให้พวกเขาทำงานได้เร็วและง่ายขึ้น การจะสร้างระบบนิเวศใหม่ขึ้นมาเพื่อแข่งขัน ไม่ใช่แค่เรื่องของการทุ่มเงินมหาศาล แต่ต้องใช้เวลาหลายปีในการสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดโปรแกรมเมอร์ให้หันมาใช้งาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่ง
บทเรียนจากอดีต: นโยบายที่ผิดพลาดอาจกลายเป็นการ "มอบชัยชนะให้จีน"

ผู้นำบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ หลายรายเคยส่งสารถึงรัฐบาลทรัมป์มาแล้วหลายครั้ง เพื่อเตือนว่าการกีดกันที่เข้มงวดเกินไปจะส่งผลเสียต่อสหรัฐฯ เองในระยะยาว
หากสหรัฐฯ เดินหน้าจำกัดการส่งออก GPU ไปยังประเทศที่สามจริง ๆ โดยให้เหตุผลว่าเพื่อสกัดกั้นจีนที่กำลังขยายการลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในต่างแดน เช่น ในตะวันออกกลางหรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจสวนทางกับความตั้งใจอย่างสิ้นเชิง

• ตัวอย่างเหตุการณ์สมมติ: หากศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ในไทย หรือ มาเลเซีย หรือ ซาอุดีอาระเบีย ถูกตัดขาดจากการซื้อชิป NVIDIA พวกเขาจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากหันไปใช้ชิปจากคู่แข่ง ซึ่งในที่นี้คือ Huawei ที่มีชิปตระกูล Ascend รอเป็นทางเลือกอยู่แล้ว

• ผลลัพธ์: เท่ากับว่านโยบายของสหรัฐฯ กลายเป็นการผลักดันให้โลกต้องทดลองและยอมรับเทคโนโลยีของจีนโดยปริยาย สร้างตลาดและโอกาสให้จีนได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองในสนามจริง จนแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
นายเจนเซน ฮวง อาจได้ฉายภาพอนาคตให้ทีมงานทรัมป์เห็นว่า หากสหรัฐฯ เดินเกมผิดพลาด ในอีก 5 ปีข้างหน้า ส่วนแบ่งตลาด GPU สำหรับ AI ของจีนอาจพุ่งสูงถึง 80% เมื่อถึงจุดนั้น ผู้ที่กุมอำนาจในการกำหนดทิศทาง กำหนดมาตรฐาน และกฎเกณฑ์ด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยี AI ก็จะเปลี่ยนจากสหรัฐฯ ไปเป็นจีนทันที
อนาคต 5 ปีข้างหน้า และบทเรียนจากสงคราม 5G

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นช่วง 4-5 ปีข้างหน้า ภายใต้การบริหารของทรัมป์ มีแนวโน้มสูงว่าสหรัฐฯ จะยังคงสถานะผู้นำอันดับหนึ่งในด้าน AI และ Crypto ต่อไปได้ เพราะทรัมป์น่าจะเข้าใจแล้วว่าการรักษาความเป็นผู้นำของบริษัทอเมริกันอย่าง NVIDIA คือการรักษาสมดุลอำนาจของสหรัฐฯ ในเวทีโลก
แต่ในระยะยาวกว่านั้น ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ เราเคยเห็นบทเรียนมาแล้วใน สงครามเทคโนโลยี 4G และ 5G ที่จีนสามารถพัฒนาจากผู้ตามจนกลายเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานได้สำเร็จ ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท และไม่เคยยอมแพ้

บทสรุปของเรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของฮาร์ดแวร์ แต่เป็นเกมการต่อสู้เชิงยุทธศาสตร์ที่ซับซ้อน การตัดสินใจเชิงนโยบายเพียงครั้งเดียว อาจส่งผลกระทบต่อดุลอำนาจของโลกไปอีกหลายทศวรรษ และดูเหมือนว่าในยกนี้ ฝ่ายที่เข้าใจ "ระบบนิเวศ" ทั้งทางเทคโนโลยีและภูมิรัฐศาสตร์ คือผู้ที่กุมความได้เปรียบไว้ในมือ

ดร มนต์ศักดิ์ โซ่เจริญธรรม
กลุ่มนโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

แฉชื่อ ผบ.พันเขมรอยู่เบื้องหลังวางระเบิด! ซัดพฤติกรรมล้ำแล้วกลบ ถอยแล้วปฏิเสธ

25 นาทีที่แล้ว

น้ำท่วมจากพายุวิภาทำให้ผู้คนหลายร้อยในเวียดนามต้องอพยพ

29 นาทีที่แล้ว

‘สุรเดช’ จี้รัฐตอบโต้กัมพูชา ซัดเหตุระเบิดซ้ำรุนแรง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เดือดแล้ว! ทบ.เตรียมงัด ‘แผนจักรพงษ์ภูวนารถ’ ตอบโต้กัมพูชา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2568

สำนักข่าวไทย Online

5 ทหารกล้า บาดเจ็บ เหตุเหยียบทุ่นระเบิด พื้นที่ช่องอานม้า

The Bangkok Insight

วินจยย.ห้ามฝรั่ง ทะเลาะกับสาวสอง สุดท้ายถูกชก

THE PATTAYA NEWS
วิดีโอ

แบบจำลองกระดูก 3 มิติจากเอไอ ทางเลือกลดการสัมผัสรังสีปริมาณมาก

Thai PBS

"แม่น้ำน่าน" เกินจุดวิกฤต ทะลักท่วมเขตเศรษฐกิจน่าน

Thai PBS

วัยรุ่นทรงAเขมร-ไทยตะลุมบอนปราสาทตาเมือนธม ทหารเข้าห้ามเหตุการณ์สงบลงได้ทัน

เดลินิวส์

งูเหลือมเลื้อยเข้าบ้าน แจ้งอาสาจับปล่อยป่า

INN News

แฟนหนุ่มแทบขาดใจ แฟนสาวซ้อนท้ายจักรยานยนต์ เฉี่ยวกับจักรยานยนต์อีกคันล้มกระเด็นเข้าใต้ท้องรถบรรทุกทับดับคาที่

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...