ผู้ประกันตนเตรียมเฮ! บอร์ดแพทย์เคาะไฟเขียว ปรับสิทธิจ่ายค่าผ่าฟันคุดสูงสุด 2,500 บาท เข้าได้ทุกที่
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จ.นนทบุรี ได้มีการประชุมคณะกรรมการการแพทย์ กองทุนประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) ชุดที่ 17 ครั้งที่ 3/2568 โดยมี นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เป็นประธานกรรมการ พร้อมด้วยคณะกรรมการเข้าร่วมประชุม
นพ. สุรเดช ได้มีการเปิดเผยหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณา และเห็นชอบให้มีการปรับสิทธิประโยชน์ทันตกรรมเพิ่มเติม โดยแยกสิทธิในการผ่าฟันคุด ออกจากสิทธิทันตกรรมปีละ 900 บาท
และกำหนดอัตราการจ่ายค่าผ่าฟันคุดใหม่แบ่งออกเป็น 2 กรณี อิงตามอัตราจ่ายของกรมบัญชีกลาง คือ
1. กรณีผ่าฟันคุดแบบง่าย อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1,500 บาท
2. การผ่าฟันคุดแบบยาก คือมีการกรอกระดูกด้วย อัตราการจ่ายอยู่ที่ 2,500 บาท
นพ.สุรเดช กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ยังจะมีการปรับ เพิ่มจ่ายค่าตรวจสุขภาพช่องปาก ให้กับสถานพยาบาลด้วย แต่สถานพยาบาลจะต้องมีการจัดทำข้อมูลสุขภาพช่องปากของผู้ประกันตนและส่งให้กับ สปส. ว่ามีการตรวจอะไรบ้าง และมีการเบิกจ่ายอะไรบ้าง ทั้งนี้ การให้สิทธิดังกล่าวเพื่อให้ผู้ประกันตนได้ทราบว่า ตัวเอง มีปัญหาสุขภาพในช่องปากหรือโรคในช่องปาก จำเป็นจะต้องไปรักษาในสถานพยาบาลอื่นๆ อย่างไรต่อไป ก็จะได้มีข้อมูล ดังนั้นคลินิกที่จะเข้าร่วมตรงส่วนนี้ก็ต้องพร้อมที่จะจัดทำข้อมูลและให้ข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ระยะยาวกับทุกฝ่าย ทางสปส.เองก็จะไปเตรียมข้อมูลเช่นกัน
นพ.สุรเดช กล่าวอีกว่า ส่วนสิทธิทันตกรรม อัตรา 900 บาทต่อปีนั้น มีการพิจารณาว่า หากผู้ประกันตน มีความจำเป็นต้องรักษาทางทันตกรรม แล้วมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่านี้ ถ้าเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลรัฐ สปส. ก็จะตามไปจ่ายค่ารักษาดังกล่าวให้
โดยไม่ได้กำหนดเพดานเอาไว้ว่าต้องไม่เกินเท่าไหร่ เพราะเราจะจ่ายให้ตามเรทค่ารักษาของโรงพยาบาลรัฐ แต่หากเป็นสถานพยาบาลเอกชน เรายังจ่ายให้ในอัตรา 900 บาท ส่วนที่เกินจากนี้ผู้ประกันตน ก็ต้องจ่ายเอง
นอกจากนั้น นพ.สุรเดช ได้กล่าวเสริมอีกว่า เรื่องนี้จะทำให้ผู้ประกันตนได้รับการรักษาที่จำเป็น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาว่าคิวของโรงพยาบาลรัฐนั้นยาวแค่ไหน เราพยายาม จะให้ผู้ประกันตน ได้รับสิทธิและ เข้าถึงบริการโดยสะดวก
และในกรณีอัตราการจ่ายค่าผ่าฟันคุดเช่นกรณี ผ่าแบบยาก 2,500 บาท สามารถใช้ใช้บริการที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าค่าใช้จ่ายเกินจากอัตราที่ตั้งเอาไว้ ผู้ประกันตนก็ต้องจ่ายเพิ่มส่วนต่าง
สุดท้ายนี้ สิทธิดังกล่าว ทางบอร์ดการแพทย์อนุมัติแล้ว คาดว่าประมาณเดือนหน้าก็พร้อมที่จะเสนอเข้าคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) เพื่อพิจารณา หากเห็นชอบก็จะมีขั้นตอนทางกฎหมายอีก