ชาวบ้านผวาโดรนปริศนาว่อนหลายอำเภอ หวั่นเขมรบินสอดแนม

ชาวบ้านหลายอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ ผวาพบโดรนปริศนาบินว่อนหลายพื้นที่ จนท.เร่งตรวจสอบหวั่นเป็นของฝ่ายกัมพูชาเข้ามาบินสอดแนมหาพิกัด

(1 ส.ค.68) ชาวบ้านในหลายพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ ต่างหวาดผวา หลังยังพบโดรนปริศนาจำนวนหลายลำบินว่อนในหลายอำเภอ เช่น อ.เฉลิมพระเกียรติ ละหานทราย ประโคนชัย และ อ.บ้านกรวด แต่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ว่าที่มาของโดรนมาจากที่ไหน เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอน หากเป็นของคนไทยก็จะนำตัวมาสอบถามถึงจุดประสงค์ในการขึ้นบินและอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกประกาศห้ามอากาศไร้คนขับหรือโดรนบิน ในช่วงนี้โดยเด็ดขาด หากบุคคลใดฝ่าฝืนก็จะมีโทษตามกฎหมาย แต่หากเป็นโดรนของฝ่ายกัมพูชาที่ลักลอบบินเข้ามาบินในพื้นที่ของไทย เพื่อสอดแนมหรือจับพิกัดเป้าหมายสำคัญ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็จะหามาตรการป้องกันและสกัดกั้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของชาติ

สำหรับภาพรวมสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ภายหลังจากที่มีการเจรจาหยุดยิงจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบการปะทะกันเกิดขึ้น แต่ทางจังหวัดก็ยังไม่ได้มีประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามอำเภอแนวชายแดนที่อพยพหนีภัยสงครามไปอยู่ตามศูนย์พักพิงทั้งในตัวจังหวัดและอำเภอต่างๆ 112 แห่ง รวมถึงตามบ้านญาติรวมเกือบ 50,000 คน กลับเข้าบ้านแต่อย่างใด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ประกอบกับช่วงที่มีการสู้รบได้มีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่มากกว่า 240 ลูก ต้องมีการเคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อยก่อน ดังนั้นให้ประชาชนรอฟังประกาศจากทางภาครัฐก่อนค่อยกลับเข้าพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ขณะโรงเรียนในพื้นที่แนวชายแดนทั้ง อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย รวมกว่า 85 แห่ง ก็ยังคงปิดทำการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายหรือมั่นใจว่าปลอดภัย

นางสมพร สุนทรกุล แม่ค้าชาว ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ บอกว่า ส่วนตัวไม่ได้เห็นกับตา แต่มีชาวบ้านในพื้นที่เห็นว่ามีโดรนหลายลำบินว่อนในช่วงกลางคืน แต่ไม่รู้ว่าเป็นโดรนของใคร แต่ก็กลัว เพราะหากเป็นโดรนของฝ่ายกัมพูชา อาจจะเข้ามาสอดแนวหรือจับพิกัดเป้าหมาย ซึ่งอาจะไม่ปลอดภัยกับคนไทย กลางคืนไม่กล้าออกจากบ้าน แต่ในฐานะประชาชนก็ได้สอดส่องคนแปลกหน้าที่เข้ามาในพื้นที่ หากพบก็จะรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพราะเดี๋ยวนี้คนกัมพูชาพูดไทยได้ไม่ต่างจากคนไทย แทบแยกไม่ออกว่าใครด้วยซ้ำ