เปิดความโหด “ทุ่นระเบิด PMN2” ของกัมพูชา เป็นของใหม่ ผลิตในรัสเซีย
ทหารไทยเหยียบกับระเบิดรุ่นใหม่ ทุ่นระเบิด PMN2 กัมพูชา ผลิตโดยรัสเซีย บาดเจ็บ 3 นาย เปิดความโหด ตรวจจับได้ยาก
คืบหน้าเหตุการณ์สะเทือนขวัญในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ชุดลาดตระเวนของทหารไทยเหยียบกับระเบิด ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย หนึ่งในนั้นบาดเจ็บรุนแรงถึงขั้นข้อเท้าขาด
– พลฯ ธนพัฒน์ หุยวัน (หน่วย ร้อย ร.6021) ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าซ้ายขาด ไม่มีอาการหอบเหนื่อย รู้สึกตัวดี ได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการให้น้ำเกลือ และให้ออกซิเจน ก่อนจะถูกนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์อย่างเร่งด่วน โดยล่าสุด พลฯ ธนพัฒน์ ได้เข้ารับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้วและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยเน้นย้ำเรื่องการป้องกันการติดเชื้อที่บาดแผลเป็นพิเศษ
– ส.อ. ปฏิพัทธิ์ ศรีลาศักดิ์ (หน่วย ร้อย ร.6021) ได้รับแรงระเบิด มีอาการแน่นหน้าอก รู้สึกตัวดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งตัวโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์
– พลฯ ณัฐวุฒิ ศรีเข้ม (หน่วย ร้อย ร.6021) ได้รับแรงระเบิด มีอาการแน่นหน้าอก รู้สึกตัวดี และได้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์เช่นกัน
จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณพิกัด WA 220 861 ซึ่งเคยเป็นพื้นที่สู้รบในอดีต เบื้องต้นเชื่อว่าเป็น “ระเบิดตกค้าง” จากสนามรบเดิม แต่ภายหลังพบข้อมูลใหม่ที่ชี้ว่าระเบิดที่ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บนั้น อาจเป็นทุ่นระเบิดที่เพิ่งถูกวางใหม่
วันที่ 17 กรกฎาคม หน่วยปฏิบัติการต่อต้านทุ่นระเบิด (นปท.) รายงานว่า ระเบิดที่กองทัพไทยตรวจเจอ ระเบิดใส่ทหาร เป็นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ถือเป็นทุ่นระเบิดสังหารรุ่นใหม่ ผลิตโดย ประเทศรัสเซีย
PMN-2 เป็นระเบิดที่ออกแบบให้ ทำลายฝ่าเท้าและขา ของผู้ที่เหยียบลงไป มีน้ำหนักตัวทุ่นเพียง 15.9 ออนซ์ บรรจุดินระเบิด COM P-B น้ำหนัก 4.1 ออนซ์ มีแรงกดจุดชนวนอยู่ที่ 1,111 ปอนด์ ตัวทุ่นผลิตจากวัสดุพลาสติก ทำให้ตรวจจับด้วยเครื่องมือโลหะตรวจระเบิดได้ยากมาก
ก่อนเกิดเหตุระเบิดในวันที่ 16 ก.ค. หน่วยลาดตระเวนจากกองร้อย ร.6021 พัน.RDF ได้รายงานว่า พบกับระเบิด PMN-2 จำนวน 1 ลูก ระหว่างภารกิจตรวจเส้นทางจากต้นพญาสัตบรรณไปยังฐานปฏิบัติการตัว T ที่พิกัด 48P WA 21507 86176 (จุดเขียว)
จากนั้นในวันต่อมา พบ ระเบิดชนิดเดียวกันอีก 3 ลูก ที่พิกัด WA 21907 858869 (จุดแดง) ทำให้หน่วยทหารต้อง ถอนกำลังโดยทันที เนื่องจากเส้นทางเต็มไปด้วยสนามทุ่นระเบิด ไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้
แม้ยังไม่มีการระบุแน่ชัดว่าผู้ใดเป็นผู้นำทุ่นระเบิด PMN-2 เข้ามาวางในพื้นที่ฝั่งไทย แต่จากลักษณะและตำแหน่งการพบกับระเบิด ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า นี่อาจไม่ใช่ระเบิดเก่าที่ตกค้างจากสงคราม อย่างที่เชื่อกันในตอนแรก
ด้านอาจารย์ เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ และอาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับระเบิดรุ่นนี้ไว้ว่า ทุ่นระเบิด PMN-2 เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อยู่กับที่ มีชนวนระเบิดในตัว ทำงานด้วยน้ำหนักกด ทำอันตรายฝ่าเท้าผู้เหยียบ ตัวทุ่นทำจากวัสดุพลาสติก การตรวจค้นทำได้ยาก
– ส่วนเปลือกของทุ่นระเบิด PMN-2 ทำจากพลาสติก ที่ขึ้นรูปด้วยวิธีการฉีด โดยทั่วไป มีสีเขียวใบไม้ แต่บางครั้งอาจพบสีน้ำตาล
– ด้านบนของทุ่นระเบิด มีแผ่นกดแรงดันรูปตัว X สีดำทำจากยาง
– บรรจุวัตถุระเบิดชนิด RDX/TNT
– PMN-2 มีปริมาณวัตถุระเบิดที่มากผิดปกติ เมื่อเทียบกับทุ่นระเบิดต่อบุคคลหลายชนิด
– PMN-2 ออกแบบในช่วงกลางทศวรรษ 1970 มีชนวนที่ทันสมัยกว่ารุ่นเก่า โดยมีแผ่นกั้นใต้แผ่นกดแรงดัน
– การออกแบบแผ่นกดแรงดัน เป็นรูปตัว X ทำให้ PMN-2 มีความต้านทานต่อวิธีการปราบปรามทุ่นระเบิดแบบดั้งเดิม ที่ใช้แรงดันกะทันหันเพื่อระเบิด ถือได้ว่าเป็นทุ่นระเบิดที่ทนต่อการระเบิด
– ชนวนของ PMN-2 มีการหน่วงเวลาประมาณ 60 วินาที (สั้นกว่ารุ่นเก่า) เมื่อหมุนและถอดกุญแจนิรภัยออก สลักนิรภัยจะถูกตัด ซึ่งช่วยให้ลูกโป่งอากาศภายในทุ่นระเบิด ขยายตัวโดยสปริงอัด และยกแท่งนิรภัยออกจากเส้นทางของลูกเลื่อน ทำให้สามารถเคลื่อนที่ ระเบิดทำงานได้
- ความสูง: 53 มม.
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 120 มม.
- น้ำหนักวัตถุระเบิดหลัก: 100 กรัม TG-40 (RDX/TNT)
- น้ำหนักรวม: 440 กรัม
- ชนวน: MD-9 (ไวต่อการกระแทก)
ต่อมา 17 กรกฎาคม พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนพื้นที่ช่องบก เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2568
พลฯ ธนพัฒน์ หุยวัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้อเท้าซ้ายขาด ส.อ. ปฏิพัทธิ์ ศรีลาศักดิ์ และ พลฯ ณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีอาการแน่นหน้าอก ปัจจุบันอาการดีขึ้นโดยลำดับ
แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มอบกระเช้าผลไม้และเงินบำรุงขวัญ พร้อมกล่าวแสดงความห่วงใยจากผู้บัญชาการทหารบกยังกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัว พร้อมชื่นชมในความกล้าหาญ ทุ่มเทและเสียสละ ทั้งจะให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวก และดูแลสิทธิประโยชน์ของกำลังพลในทุกด้านอย่างดีที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง